โดย พระเดชพระคุณหลวงพ่อ พระธรรมโพธิวงศ์ ตั้งฉายานามทางพระพุทธศาสนาตามพระบาลีให้ ดร.ณวราชา พินิจโรคากร ผู้เกิดวันอังคารว่า ญาณวรสาวิกาโพธิ ซึ่งแปลว่า ผู้มีญาณอันประเสริฐ

ก่อนที่จะบินลัดฟ้ามุ่งหน้าสู่ประเทศศรีลังกาเพื่อบวชเป็นภิกษุณี ในวันที่ 6 มิถุนายน และบวชจริงในวันที่ 14 มิถุนายน 2565 ตั้งเป้าบวชเป็นระยะเวลา 1 ปี โดย หมอปลาย พรายกระซิบ ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนทำพิธีขริบผม บวชชีพรหมโพธิ ถึงสาเหตุในการตัดสินใจบวชในครั้งนี้ว่า 

เรียกว่ายังไม่ได้นอนเลย (หัวเราะ) เมื่อคืนก็มาทำพิธีเพื่อไหว้บอกองค์เทพทุกพระองค์ที่ท่านคุ้มครองหนู ทำเป็นพิธีค่อนข้างใหญ่เหมือนกัน และเตรียมตัวเพื่อมาที่นี่

มาถึงตั้งแต่ 6 โมงเช้า พิธีการวันนี้เดี๋ยวจะมีการขอขมาคุณพ่อคุณแม่และคุณพ่อคุณแม่บุญธรรมและญาติผู้ใหญ่ค่ะ จากนั้นก็จะให้แฟนคลับทุกคนและพี่ๆ นักข่าวทุกคนได้ขริบผมปรายด้วย จากนั้นก็จะเข้าไปในโบสถ์เพื่อทำพิธีค่ะ

วันนี้คือโกนผม ศีรษะโล้นเลย?
โล้นเลยค่ะ เรียกว่าบวชชีพรหมโพธิค่ะ

ทำไมถึงตัดสินใจบวช?
ท่านยมอยากให้บวชค่ะ บวชแบบใส่ผ้าเหลือง แต่กระบวนการอะไรหลายๆ อย่างต้องผ่านการถือศีล 8 และถือศีล 10 จากนั้นถึงไป 311 ข้อค่ะ

เห็นว่าการบวชครั้งนี้มีผลมาจากการที่เราดูดวงให้คนอื่น ใช้พลังไปเยอะ?
ใช่ค่ะ อย่างที่เห็นหน้าปรายเริ่มผื่นขึ้น เพราะเอฟเฟกต์จากร่างกายด้วย โรคทุกอย่างมันก็เริ่มกำเริบ ที่เป็นโรคประจำตัวสาเหตุก็มาจากเรื่องนี้ส่วนนึงค่ะ

จากนี้จะไปศรีลังกายังไงบ้าง?
จะเดินทางไปวันที่ 6 ค่ะ บวชจริงวันที่ 14 มิ.ย. เป็นสามเณรีก่อน จากนั้นรอดูว่าพระผู้ใหญ่ที่นู่นจะให้บวชหรือเปล่า (หัวเราะ) เพราะต้องมีภิกษุ 20 และภิกษุณี 20 เพื่อเซ็นอนุมัติว่าหนูบวชได้มั้ย

อยู่ที่หลักเกณฑ์ตรงไหนถึงจะบวชได้?
ต้องสอบปาฏิโมกข์ผ่าน ภาษาได้ และข้อธรรมของที่นู่นตรงชัดเจนหรือเปล่า ก็จะมีสอบข้อเขียน กับสอบสัมภาษณ์ค่ะ กว่าจะได้บวชก็เอาเรื่องอยู่เหมือนกัน เพราะจริงๆ กระบวนการจากสามเณรีต้อง 2 ปีถึงจะได้เป็นภิกษุณี แต่หนูขอลัด ท่านก็บอกว่าขึ้นอยู่กับความสามารถของหนูเอง

เรามีความพร้อมยังไงบ้าง?
ตอนนี้เตรียมหนังสือไว้เยอะมาก ต้องมานั่งฟื้นฟู เรียนทั้งภาษาอังกฤษ เรียนภาษาศรีลังกา และบาลีสันสกฤตค่ะ เยอะเหมือนกัน (หัวเราะ)

เราสื่อสารกับท่านยมยังไงบ้างกับครั้งนี้?
ก็ต้องทำให้ได้ค่ะ เราก็เกรงใจท่าน ไม่อยากถามอะไรท่านเยอะ คือเราสัญญาแล้วว่าจะทำ ก็ทำให้ดีที่สุด

ใกล้วันจะได้เป็นภิกษุณีแล้วตื่นเต้นแค่ไหน?
เอาตรงๆ ว่าใจหายเหมือนกัน เพราะสระผมแล้วก็แอบคิดว่าเดี๋ยวจะไม่มีผมแล้ว ถามว่ายึดติดอะไรขนาดนั้นมั้ย หนูก็ไม่ได้ยึดติด เดี๋ยวผมก็ขึ้น ไม่ซีเรียส (ยิ้ม)

ถ้าสึกกลับมาแล้วเราจะเปลี่ยนไปยังไงบ้าง?
อันนี้หนูยังตอบไม่ได้เลยค่ะ กะอะไรไม่ได้เหมือนกัน ไม่ทราบเลยว่าตัวเองจะเปลี่ยนขนาดไหน

ระยะเวลาบวชนานแค่ไหน?
ประมาณ 1 ปีค่ะ ก็คืออยู่ที่ศรีลังกา และอาจจะมาให้ญาติโยมได้ถวายเพลช่วงน่าจะประมาณใกล้ๆ ปีใหม่

ถ้าเป็นพระแล้ว คนยังสามารถสอบถามเรื่องดวงอะไรได้อยู่มั้ย?
คือถ้าเป็นภิกษุณีแล้ว จริงๆ กฎเรื่องของการเป็นพระแล้วทำนายไม่ได้ เพราะฉะนั้นก็จะหยุดการทำนาย แต่เรื่องของการช่วยเหลือคนในเรื่องของการตั้งชื่อหรือทำอะไรให้ความเป็นสิริมงคลก็ยังช่วยเหลือคนได้

แสดงว่าพอบวชแล้วเราก็จะลาวงการพักใหญ่เลย?
ใช่ค่ะ กลับมาค่อยจัดเต็มอีกรอบดีกว่า (หัวเราะ) ขอไปชาร์จพลังก่อน แต่หนูคิดว่าช่วงที่หนูไม่อยู่น่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงเยอะ หนูแค่บอกว่าช่วงที่หนูไม่อยู่นะคะ (ยิ้ม)

1. เรื่องของการเมืองเปลี่ยนแปลงแน่นอน 2. เรื่องของวงการบันเทิงจะมีอะไรใหม่ๆ ใหญ่ๆ เข้ามา จะเห็นพวกดาราต่างประเทศเข้ามาตีตลาดในบ้านเรามากขึ้น และเรื่องของคดีความอะไรต่างๆ พวกพี่ๆ นักข่าวก็จะทำงานเยอะหน่อย (หัวเราะ)

เรื่องเสียชีวิตของศิลปินยังมี แต่ถามว่าช็อกมั้ย คิดว่าหลายๆ คนเห็นสถานการณ์แล้วก็ไม่ได้รู้สึกช็อกมาก เหมือนพอเป็นชื่อคนนี้ก็คือตามนั้น แต่ไม่ได้ดุเดือดเหมือนช่วงครึ่งปีแรกค่ะ

การเมืองที่ว่าเปลี่ยนแปลงคือยังไง หัวหน้ารัฐบาลจะเปลี่ยนเหรอ?
(หัวเราะ) คือดูแล้วเลื่อนไปเรื่อยๆ แต่บอกแค่ว่าพลังของประชาชนสำคัญที่สุดต่อประเทศของเรา 

วงการบันเทิงจะเป็นยังไง?
ตอนนี้เราก็รอให้ทุกอย่างมันก้าวขึ้นมาได้ แต่จะมีต่างชาติเข้ามาเป็นนายทุนหลัก แต่หลังจากนี้การแสดงวิถีชีวิตของประเทศไทยจะเปลี่ยน จะเสียสูญไปหมด ถามว่าดีมั้ย ยังไงเวลาคุยกันก็ขอให้มีวัฒนธรรมไทยอยู่ในนั้น เพราะมันเป็นสิ่งสำคัญ

เรื่องโรคภัยไข้เจ็บ?
ตอนนี้ฝีดาษวานรแล้วใช่มั้ยคะ หลังจากนี้ก็น่าจะมีอีกโรคนึงค่ะ ช่วงประมาณต.ค.-พ.ย. ถามว่าน่ากลัวมั้ย ก็เป็นโรคติดต่อเหมือนกัน มันพัฒนามาใหม่ค่ะ เป็นไวรัส ความสกปรก น่าจะผสมมาจากโควิดและแตกออกมาเป็นอีกชื่อนึง

ถามว่ารุนแรงมั้ย น่าจะเกี่ยวกับการสูญเสียระบบทางเดินอาหาร คนน่าจะเป็นกันเยอะ แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไร แต่โควิดก็จะเบาลง แต่จริงๆ คนที่เป็นอาจจะไม่เบา

เศรษฐกิจ?
ปีนี้เรื่องของดวงสงครามมาประมาณ 30-50% แต่จะหนักจริงๆ คือช่วงปี 67 สงครามยาวค่ะ เรื่องน้ำมันหนูดูแล้วยังไม่ลงค่ะ เพราะท่านจะใช้คำว่าข้าวยากหมากแพง ภาษีอาน ก็คือเป็นเรารุ่นนี้เลยโดนแน่นอน

ถ้าจะให้เตือนก็คืออย่าสร้างหนี้มวลรวมเพิ่ม เพราะมันจะทำให้คนทั้งประเทศอยู่กันไม่ได้ เพราะเดี๋ยวจะเป็นก้อนใหญ่ ก็เป็นคำทำนายส่งท้ายค่ะ เพราะถ้าบวชแล้วก็คงขอหยุดค่ะ หลังจากนี้ขอเผยแผ่พระพุทธศาสนาและองค์เทพทุกพระองค์ที่ทำให้มีปาฏิหาริย์ให้กับคนหลายๆ คน หนูก็จะขอทำหน้าที่ตรงนี้ค่ะ

แนะนำที่ไหว้เสริมดวง?
จริงๆ ทุกที่ดีหมด เพียงแต่ว่าแต่ละคนต้องดูว่าถูกต้องกับอะไร ขอสร้างจุดยืนเลยว่าไหว้เทพ ไหว้พระ ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เราดูว่าประวัติตรงนั้นมาจากอะไร ตายยังไง แต่ถ้าเทพเรารู้เลยว่าท่านไม่ได้ตาย เทพสร้างรูปปั้นขึ้นมา จุดธูปให้ถูกต้อง เทพฮินดู 16 ดอก เทพจีน 18 ดอก ไหว้พระก็ธูป 3 ดอก

แต่ถ้าผีทุกอย่างคือ 1 ดอก ห้ามไหว้ ถ้าไหว้ผีจะทำให้เศรษฐกิจและภาพของประเทศและสิ่งศักดิ์สิทธิ์กลายเป็นสีดำทั้งหมด ประชาชนจะรู้สึกว่าทุกข์ร้อน ไม่มีความสุข เรียกว่าเสนียดหรือกาลกิณีเข้ามาอยู่เยอะ เราต้องช่วยกันล้างตรงนี้ก่อน ส่วนองค์ท้าวเวสสุวรรณที่สุวรรณภูมินี้ไหว้ได้ค่ะ ท้าวเวสก็ถือว่าอยู่ในกลุ่มเทพเหมือนกัน

สรุปปีหน้ายังหนักเหมือนเดิม?
ก็ยังแก้ได้ค่ะ จะไม่หนักเท่าปีที่ผ่านมาที่เจอโรคระบาด อยู่ที่คน อยู่ที่การตัดสินใจ