โดยเริ่มจากถามเรื่องละครเรื่องแรกเรตติ้งสูงมากรู้สึกยังไงบ้าง?

“ดีใจตั้งแต่คนอยากดูตั้งแต่หนูกับพี่ตงตงคบกัน มีแฟนคลับของเราสองคนอยากดูละครเรื่องแรกของเราที่เล่นด้วยกัน ชื่อละครตั้งแต่ก่อนละครออน แฮชแท็กในติ๊กต่อกคือแบบจะเป็นร้อยล้านคนแชร์แล้ว เราเลยรู้สึก โอ้โห ถ้าละครมาเรตติ้งต้องดีแน่ๆเลย พอละครออนปุ๊บเรตติ้งดีจริงๆ มันก็เลยทำให้เรารู้สึกดีใจ”

โล่งอกขนาดไหน?

“โล่งอกกับแอ็กติ้งของตัวเองมากกว่า หนูไม่เคยเล่นละครเลย ไปเล่นเรื่องแรกโดนเยอะเหมือนกัน ด้วยบทดราม่า เห็นผี คุยกับหมา ซึ่งเราทำไม่เป็น ทุกอย่างใหม่หมด แล้วเราไม่รู้ภาพออกมาจะเป็นยังไง”

ร่วมงานกับตงตงเค้าแนะนำการแสดงให้เราบ้างมั้ย?

“ไม่นะ ไม่ค่อยสอนการแสดงแต่จะสอนมุมกล้อง ทำยังไงไม่บังคนอื่น การแสดงเค้าไม่ยุ่งเลย ต่างคนต่างเป็นคาแรกเตอร์ตัวเองไม่ก้าวก่ายกัน”

ดูตัวเองเล่นเป็นยังไงบ้าง?

“ดูออกว่าซีนไหนเรายังเล่นแข็ง ซีนไหนเราทำดีหรือไม่ดี หนูเก็บตรงนั้นไว้แก้ไขในเรื่องต่อไป”

พ่อแม่น้องคนในครอบครัวพอดูละครเราว่ายังไงบ้าง?

“คนใกล้ตัวเราดูละครก็ชมอยู่แล้วค่ะ ส่วนน้องชายก็จะแซวๆ แหม น่าสงสารจัง แต่ตัวจริงเค้ารู้ว่าแตกต่าง เสียงดังโวยวาย แต่พอเป็นนางเอกก็จะนิ่งๆ เค้ายังแซวเลยว่าอยากได้นางเอกมาอยู่บ้าน ไม่อยากได้เบสท์ (หัวเราะ)”

เห็นว่าเสียดายคุณยายที่อยากดู แต่เสียชีวิตก่อน?

“ยายอยากดูละครเรื่องนี้มาก และที่หนูมาเป็นนางเอกเพราะยายเลยนะ อยากดูละครที่หลานเล่น อีกแค่เดือนเดียวละครจะออน ยายเค้ารอ ดูโปสเตอร์ ดูตัวอย่าง แล้วเค้ามาเสียกะทันหัน หนูเลยรู้สึกแค่เดือนเดียวเอง น่าจะให้ยายได้ดูหน่อย พอละครออน ตั้งรูปยายไว้ที่โซฟาก็เหมือนยายได้ดูละครไปด้วย”

ก่อนหน้านี้มีประเด็น ตงตงให้สัมภาษณ์ว่าเราเป็นคนขี้งอน อยากให้งอนน้อยๆ?

“หนูพูดเลยว่างอนแบบธรรมดามาก ผู้หญิงทุกคนงอนหมดไม่มีใครไม่งอน และหนูไม่ได้งอนแบบไร้สาระ โวยวายยิ่งใหญ่ โอเวอร์แอ็กติ้งขนาดนั้น แค่งอนเล่นๆ งอนแกล้งบ้าง เป็นแบบอ้อนเค้า ซึ่งเป็นปกติของผู้หญิง มองที่พี่เค้าพูดงอนบ่อย เค้าค่อนข้างเป็นคนจริงจังแบบว่า คิดเยอะ ถ้าเรางอนนิดนึงเค้าจะคิดว่าเรางอนยิ่งใหญ่ เพราะเค้าเป็นคนซีเรียส เค้าไม่รู้ว่าเรางอนแกล้งเค้า เค้าเลยคิดว่าเรางอนตลอดเวลา”

ตอนที่ตงตงให้สัมภาษณ์กับสื่อไปเค้าได้กลับมาเล่าให้เราฟังมั้ย?

“ไม่ๆ เวลาเค้าสัมภาษณ์ ไม่เคยบอกหนูเลยว่าพูดอะไรบ้าง ทุกอย่างหนูรู้พร้อมทุกคน เค้าไม่มีเตี๊ยมหนูก่อนว่าจะเปิดตัวเราคบกัน ชอบกัน ไม่เคยถามหนูเลยด้วยซ้ำ หนูเป็นยังไงคิดยังไง เค้าทำของเค้าเลย ซึ่งเรามาเห็นตอนนั้นเราก็เคารพการตัดสินใจของเค้า แล้วแต่เลยเพราะเค้าอยู่วงการมานานกว่าหนู”

พออ่านหรือฟังคำให้สัมภาษณ์มีงอนเพิ่มกว่าเดิมมั้ย?

“ไม่งอน ก็จะบอกว่าบางอย่างอย่างเรื่องในบ้านให้เบาๆลงหน่อยอย่าพูดเยอะ เพราะว่าคนจ้องดราม่าเราเยอะ ช่วยเตือนว่าอย่าพูดเลยเรื่องนี้”

พอมีข่าวเรื่องงอนก็มีดราม่าเกิดขึ้นกับเราอีก?

“มองว่าไม่ได้รู้สึกอ่านแล้วจะต้องเลิกงอนนะ ทุกอย่างทำตามความรู้สึก หนูอยากแกล้งงอนหรืองอนจริงหนูก็แสดงออกอย่างนั้น รู้สึกว่าเป็นเรื่องปกติของผู้หญิง ถ้าพี่ตงไม่พูดคงไม่มีดราม่า พอพี่ตงไปพูด ทุกคนรู้ก็เลยมาดราม่า หนูก็เลยไม่โทษทุกคน แต่จะคอยเตือนพี่ตงอย่าไปพูดเยอะ มีอะไรบอกหนู ไม่ต้องออกสื่อทุกเรื่องก็ได้ คือเป็นเรื่องปกติของสังคมไทยผู้หญิงจะโดนดราม่ามากกว่าผู้ชาย เราเข้าใจรับได้ แต่บางทีเราอยู่เฉยๆโดนด่า ก็ต้องเตือนคนของเรา จะไปเตือนร้อยคอม เม้นต์ไม่ได้อยู่แล้ว”

ตงตง บอกบางทีเหนื่อยที่จะง้อล่ะ?

“หนูก็เป็นเหมือนกันนะ บางทีพี่ตงเป็นหนูก็เหนื่อยที่จะง้อเหมือนกัน แต่ว่าใจมันรักก็ไม่ควรนะ โอ้ วันนี้ฉันเหนื่อยมากไม่ง้อเธอนะ มันก็ไม่ได้ เราต้องแยกแยะ งานเราทำเพื่อครอบครัวเพื่อตัวเรา ตรงนี้คุณต้องมีด้วยไม่ใช่เหนื่อยจากงานแล้วมาละเลยตรงนี้มันก็ไม่ใช่ ไม่อย่างนั้นเราจะเป็นแฟนกันได้ยังไง จะรักกันได้ยังไง”

หลายคนเป็นห่วงคบกันงอนกัน จะไม่ได้ไปต่อยาวๆ?

“มันอยู่ที่คนสองคน เพราะคนเราไม่มีทางเลิกกันเพราะว่าง้องอนกัน เป็นเรื่องอนุโลมกันได้สำหรับเบสท์นะ หนูรู้สึกว่าพี่ตงงอน หนูไปง้อ หนูงอนพี่ตงมาง้อมันเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ถ้าเมื่อไหร่คุณนอกใจหรือมีบุคคลที่สาม อันนั้นมันน่ากลัวกว่างอนกันอีก”

หลังจากจบเรื่องนี้มีละครเรื่องใหม่แล้วหรือ?

“มีค่ะ กำลังถ่ายอยู่เรื่องที่ 2 ตำผีบอก เพิ่งถ่ายไปเลย เล่นกับพี่เตียวหุย เดอะสตาร์ ไอดอล เค้าประกวดเข้ามาและเป็นนักแสดงใหม่ของช่องวัน”

เบสท์ ก็เลยต้องรับบทเจ๊ดัน?

“เหมือนจะเป็นแบบนั้น หนูก็บอกทำไมหนูเป็นเจ๊ดันเลยล่ะ หนูยังไม่แก่นะ เค้าเห็นคาแรกเตอร์ได้ หนูรับอยู่แล้วไม่ได้ติดขัดว่าจะต้องเล่นกับใคร จะเป็นดาราใหม่หรือดาราเก่า รู้สึกเล่นตรงนี้เพราะพ่อแม่อยากให้ทำ เราไม่ได้หวังว่าจะต้องได้เล่นกับพี่เวียร์ พ่อแม่ให้ทำก็เล่นกับใครก็ได้”

แต่ละงานที่เราทำเป็นเพราะพ่อแม่อยากให้ทำ แล้วลึกๆ เรามีสิ่งที่อยากทำจริงๆมั้ย?

“สิ่งที่อยากทำจริงๆเบสท์อยากใช้ชีวิตเมืองนอก อยากไปเรียนเมืองนอก อยากทำงานเมืองนอก ซึ่งพ่อแม่ก็ให้นะแต่เค้าบอกว่าให้เราทำงานตรงนี้ให้เต็มที่ คือเค้าเสียดายโอกาส มีละครเข้ามา ทำยูทูบ พรีเซนเตอร์ มีคนมาจ้าง แล้วเราไปเมืองนอก ให้ทำตรงนี้ไปก่อน วันนึงถ้ามีคลื่นลูกใหม่มาแล้วเราว่างค่อยบินไปตามความฝัน”

ถ้าจะบินไปใช้ชีวิตเมืองนอกแบบนั้น พี่ตงตงจะยอมเหรอ?

“หนูก็บอกเค้าอยู่ เค้าก็ไม่ยอม แต่ว่าเราบอกว่ามันไม่ใช่ความฝันตอนนี้แต่เป็นความฝันมาตั้งแต่เด็กๆ ถึงเวลาก็ต้องปล่อยให้เราไป”

เหมือนชีวิตเราจะทำอะไร กลายเป็นคนตามใจทุกคน ไม่ค่อยได้ทำอะไรตามใจตัวเอง?

“ใช่ค่ะ คือหนูมีความอดทนสูงด้วยแหละ ไม่เป็นไรเอาให้ทุกคนสบายใจ หนูเป็นคนถ้าทำอะไรไม่เดือดร้อนใครคิดแค่นั้นง่ายๆเลยค่ะ”

ก่อนถึงวันเกิดเรามีแอบลุ้นกับเซอร์ไพรส์ขนาดไหน?

“ไม่ๆ หนูเข้าใจนะ เวลาหนูจะเซอร์ไพรส์พี่ตงก็จะบอกพี่ตงเลยว่าห้ามถามอะไรเยอะ พี่ตงชอบถามไปที่ไหน จัดอะไร เราจะบอกอย่าถาม เวลาเค้าจะจัดอะไรเราก็คิดคงมีเซอร์ไพรส์ เราก็จะไม่ถาม ให้เค้าทำเต็มที่ เค้าจะได้สบายใจและเราจะได้ลุ้นทั้งคู่”

ลึกๆมีความคาดหวังเรื่องเซอร์ไพรส์ต่างๆ ขนาดไหน?

“ไม่ค่ะ หนูไม่ชอบความผิดหวัง ไม่เคยคาดหวังจะต้องมีเซอร์ไพรส์ ต้องมีของให้ หรือคาดหวังจะคบกันไป 3 ปี 5 ปี 10 ปี ไม่เคย หนูไม่คาดหวังอะไรเลยเพราะไม่ชอบความผิดหวัง เล่นละครก็ไม่คาดหวังเราจะดัง เรตติ้งดี ทำยูทูบก็ไม่ได้คาดหวังว่าคนดูเยอะ เรตติ้งดี ทุกอย่างปล่อยตามธรรมชาติค่ะ”

บรรยายกาศเซอร์ไพรส์วันเกิดครบรอบ 22 ปีเป็นยังไงบ้าง?

“สำหรับวันเกิดของหนูในปีนี้ ตอนเช้ามีการเตรียมตัวจัดวันเกิดอยู่แล้วค่ะ แฟนคลับนัดมาจัดวันเกิดให้ที่ร้านอาหาร ซึ่งก็ต้องขอขอบคุณแฟนๆทุกคนมากๆนะคะ น่ารักมากๆ ขอบคุณมากๆค่ะ หลังจากนั้นคุณแม่ก็พาขึ้นรถแล้วเอาผ้าปิดตาหนูไปตลอดทาง บอกว่าไปร้านอาหาร พอไปถึงคุณแม่กับน้องโบ๊ทก็จูงมือหนูเข้ามา มารู้สึกตัวอีกทีเหมือนมีลูกโป่งอยู่ตามพื้นเยอะแยะ พอนั่งลงที่เก้าอี้พี่ตงก็มาเปิดผ้าปิดตา เราก็อึ้งๆว่าที่นี่ที่ไหน ก็เห็นเป็นบรรยากาศห้อง VIP ห้องนึงที่ตกแต่งน่ารักสวยงาม แล้วเค้าก็เอาดอกไม้มาให้ ซึ่งช่อใหญ่มาก แต่ที่เบสท์โกรธคือพี่ตงแต่งตัวเต็มมากๆ ส่วนเบสท์คือแบบกางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบ (หัวเราะ) จากนั้นเค้าก็บอกให้เบสท์ไปกดสวิสต์ไฟที่ข้างประตู พอกดปุ๊บไอ้ห้องที่หนูนั่งอยู่ ผนังมันก็เปิดออกมาทั้งแผงเลยค่ะ แล้วเปิดมาเจอแฟนคลับเยอะมากๆนั่งรอเราอยู่ข้างนอก ซึ่งที่นี่คือแอ็กซ์สตูดิโอซึ่งห้องที่เราคิดว่าเป็นร้านอาหารน่ะ เค้าสร้างมันเป็นกล่องของขวัญยักษ์ขึ้นมาค่ะ ดีใจมากค่ะ ปลื้มมากๆเลย แล้วพี่ตงก็ร้องเพลง You my Best ซึ่งเป็นเพลงใหม่ของพี่ตง ที่เค้าตั้งใจทำให้เรา ดีใจและขอบคุณมากๆค่ะ ซึ่งเค้าบอกว่าเค้าอยากทำให้เราได้ยิ้ม และมีความสุข อยากให้เปิดมาแล้วเห็นว่า เรามีคนรัก มีคนที่คอยให้กำลังใจอยู่ข้างๆตรงนี้เสมอค่ะ ก็ขอขอบคุณจริงๆค่ะ.