จากอดีตเด็กเกเร “ไบร์ท นรภัทร” สร้างเนื้อสร้างตัวเพื่อให้พ่อแม่ภูมิใจ ลั่นรักใครคบนาน


ให้คะแนน


แชร์

โดยเริ่มจาก… บทที่ได้รับยากง่ายยังไง

“บทหิรัญดีมาก อ่านแล้วชอบ วางบทไม่ได้เลย บทดีสุดในชีวิตแล้ว คาแรกเตอร์เป็นเด็กผู้ชายที่พ่อแม่เลี้ยงผิดวิธี เป็นตัวละครที่มีมิติมากสุดเท่าที่เคยเล่นมา เรื่องนี้ผมแบกหลายฝั่งมาก ฝั่งความแค้นกับพี่ต่อวัยเด็กสะสมมาจนตอนโต ส่วนมุมความรักกับฟ้ารุ่ง (พี่เบญ–เรวิญานันท์) ซับซ้อนมาก เป็นมุมที่ผมกังวลที่สุด และมุมครอบครัว เรื่องพ่อคาดหวังให้เราสืบทอดธุรกิจต่อ ตอนเวิร์กช็อป รู้ว่าต้องทำการบ้านหนักมาก มุมกับใต้หล้าก็เดือด แต่ไม่ได้หนักหน่วง เป็นผู้ชาย 2 คนที่อยากเอาคืนกัน มุมความรัก ดันรักกับพี่สาวคนที่เราเกลียด ใช้เค้าเป็นเครื่องมือแก้แค้น ซึ่งเราก็ทั้งรักทั้งแค้น”

เครียด กดดันแค่ไหน

“ไม่กดดันครับ ผมคิดว่าตัวเองไม่เครียด แต่พ่อแม่บอกว่าผมเครียด ผมละเมอพูดบทออกมา ซึ่งผมคงไม่รู้ว่าตัวเองเครียด (หัวเราะ) หลังๆเริ่มเข้าใจ ทำงานไปด้วยความก้าวหน้า เราเข้าใจมากขึ้น ผมอยากทำงานอย่างมีความสุข ตอนไปกองนี้ไม่มีกังวลเลย พอเดินกล้องถ่ายปุ๊บ ก็สาดวิชา สาดพลังใส่กัน”

เรื่องนี้จุดไหนพัฒนาเห็นได้ชัด

“ในมุมการแสดง แนวดราม่าผมจะกังวลมากครับ เพราะชีวิตจริงร้องไห้น้อยมาก มีคือโดนดุ จากพี่บอย-ถกลเกียรติ จนร้องไห้ (หัวเราะ) พอไปเล่นดราม่า ไม่มีคลังในหัว เล่นยาก เพราะเราไม่รู้ว่าร่างกายเราร้องไห้ออกมายังไง พอเล่นเรื่องนี้รู้เลยว่าจุดนี้ต้องแก้ด่วน”

มีเลิฟซีนกับเบญ

“มี 2 พาร์ต มีตอนมัธยมกับทำงาน มัธยมแบบเบาๆ น่ารักๆ จุ๊บปาก หอมแก้ม แบบเด็กเกเร แต่พอตอนโต ผมชอบมากเลย ตอนถ่ายฟีลเหมือนหนังฝรั่งเลยครับ”

เขินมั้ย?

“เรารู้จักกันนานแล้ว แต่สนิทกันเพราะเรื่องนี้ พี่เบญเป็นคนชอบมาแซว มาหยอก เลยสนิทกันเร็ว แอบเขินบ้าง เพราะเราจับหน้าเค้ามาจูบ พอคัตชั่วขณะจะทำตัวไม่ถูก แต่ไม่ได้เขินแบบเราจูบกัน แต่ไม่รู้จะทำไงต่อ กับคนอื่นผมก็เป็น ต่างคนก็ต่างทำงานไม่คิดอะไร จะได้ผ่านและออกมาดีที่สุด ก็อยากฝากให้ติดตามชม ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.20 น. ทางช่องวัน 31 หรือดูออนไลน์ที่แอป oneD ครับ”

ชีวิตตอนนี้ เป็นไงบ้าง

“ละครปิดกล้องหมดแล้วครับ กำลังเตรียมโปรเจกต์ใหม่อยู่ครับ และเริ่มทำ youtube : Brightnorr Channel ผมจะทำนานแล้ว ผ่านมา 3-4 ปี เพิ่งได้เริ่มทำ ผมว่าเป็นทักษะการพูดกับกล้อง เป็นความสุข ได้กำไรก็ดี ไม่ได้ก็ทำสนุกๆ”

ช่วงที่ยังไม่ทำเพราะอะไร?

“ตอนนั้นผมกังวลเรื่องการแสดง เพราะยังทำได้ไม่ดี ถ้าไปทำยูทูบด้วยคงพังหมด ผมไม่สามารถแบกหลายอย่างพร้อมกัน ตอนผมเรียนวิศวะแล้ว ถ่ายละครไปด้วย ก็รู้ว่าผมไม่ไหว เลยลาออกไปเรียนอย่างอื่น และมาทำงานตรงนี้ ตอนนี้เริ่มลงรอยมากขึ้น มีเวลาว่างก็เลยทำยูทูบ เป็นแนวตามใจผม เรียลๆสไตล์ผม ไม่ต้องประดิษฐ์อะไรมาก พาไปกิน ไปแคมปิ้ง กางเต็นท์”

มีความโลดโผนในตัวตน

“สุดมาเยอะครับ เกือบตายก็หลายที”

พอมองย้อนกลับไป รู้สึกยังไง

“ไม่เสียใจ ไม่เสียดาย รู้สึกว่าโชคดีที่ผ่านเรื่องราวนั้นมา แล้วยังรอด ผมว่าเป็นความทรงจำไม่ว่าดีหรือเลว หล่อหลอมให้ผมเป็นทุกวันนี้ เรารักครอบครัว รักเพื่อน เราอยากเลี้ยงพ่อแม่ นี่คือสิ่งที่เราอยากเป็น และเราไม่รู้ว่าเราเป็นได้ เรื่องดี ไม่ดี ส่งผลต่อเราในวันนี้”

จุดเปลี่ยนพลิกชีวิตจากความเกเรมาได้ยังไง

“ผมเกเร แต่ไม่ทิ้งการเรียน ผมขึ้นชื่อเรื่องห้องปกครอง แต่เกรด 3.9 เรื่องเรียนไม่เคยทิ้ง พ่อแม่คาดหวังให้เรียนให้ดี วัยทำงานก็มีสิ่งที่ผมยึดไว้คืองาน แต่ที่ทำให้ผมเปลี่ยนไป คือการทำงาน ผมเข้ามาทำงานตรงนี้ ผมก็คิดว่าเราถึงเวลาเปลี่ยนแปลง เราออกจากวัยรุ่นก่อนคนอื่น แต่บั้นปลายชีวิตเราน่าจะได้ดี คุ้มมากกว่า”

ช่วงวัยรุ่นเกเร ครอบครัวปวดหัว

“พ่อแม่ไม่ได้ห่วงเรื่องเรียน เพราะผมไม่เคยทิ้ง เค้าจะห่วงเรื่องบาดเจ็บ มีอะไรผมเล่าให้แม่ฟังตลอด แม่เห็นผมเจ็บหนัก และเป็นคนทำแผลให้ ทำไปร้องไห้ไป ผมรู้สึกผิดนะ เพราะมันเป็นช่วงตอนเด็ก”

เคยทำให้พ่อแม่เสียใจ แต่วันนี้พ่อแม่ภูมิใจ

“ผมภูมิใจมากตอนนี้เร็วกว่าที่คิด ผมกำลังจะอายุ 25 อย่างน้อยผมก็เลี้ยงตัวเองกับแม่ได้ แต่ยังเลี้ยงพ่อไม่ไหว (หัวเราะ) ผมเพิ่งมาเข้าใจความรู้สึกพ่อ รู้ว่าพ่อเหนื่อยและเสียสละมาก เพื่อเป็นหัวหน้าเลี้ยงทั้งครอบครัว ในทางกลับกัน ตอนนี้ผมหาเงินได้มากกว่าพ่อ แต่กลับไม่มีเงินเหลือ ผมจะพยายามทำเต็มที่มากกว่านี้ เพื่อเลี้ยงดูครอบครัวให้ได้ก่อนที่พ่อเกษียณครับ”

อัปเดตความรักสถานะตอนนี้โสดหรือไม่โสด

“มีคนคุยครับ เป็นคนนอกวงการ ผมมีปมนะ เป็นคนขี้เหงา ซึ่งเพื่อนไม่ได้คุยทุกเรื่อง ผมอยากมีคนฟังเรื่องของผม ผมเคยเอาเรื่องเครียดไปเล่าให้แม่ฟัง แม่ก็เครียด แต่ถ้าเป็นแฟนผม ผมจะเล่าทุกเรื่อง ไม่ได้ระบายเรื่องไม่ดีใส่นะ แต่เป็นคนชอบเล่า”

เค้าเข้าใจเรามั้ย

“เข้าใจน้อยครับ ไม่เคยมีใครเข้าใจผมเลย ผมมีปม ตอนมีแฟน ตอนที่คบนานๆ ไม่มีใครจำว่าผมเป็นคนรักเดียว ใจเดียว แต่พอไปเที่ยวครั้งนึง คนจะมองว่าผมเจ้าชู้ แต่จริงๆ ผมเป็นคนไม่ปกปิด เปิดเผยมาก ขอให้เชื่อใจกัน”

คนมองลุคเราแบดบอย

“คนเห็นผมภายนอก ท่าทาง หน้าตา ผมก็โดนตัดสินแบบนั้นไปแล้ว เหมือนเป็นคาแรกเตอร์ผมไปแล้ว ยิ่งทำงานตรงนี้เจอคนสวยตลอดเวลา ถ้ามาเจอคนไม่เชื่อใจอีก ผมก็ได้แค่ประคับประคอง”

กับเป้าหมายที่วางไว้

“ผมอยากเป็นพิธีกร ผมขอเวลา 3 ปี ต้องได้เป็นพิธีกร แต่ตอนนี้ ขอทำนักแสดงให้เก่งก่อน แล้วค่อยเพิ่มพิธีกรเข้ามา ตอนนี้พูดยังไม่เก่ง คอนโทรลไม่ได้ แต่ถ้าได้ฝึก ทำได้แน่ ไม่กลัว ตอนเข้าวงการโดนด่า เล่นไม่ดี เล่นแข็ง อยากให้คนจำผมใหม่ก่อนว่าผมเก่ง อยากให้คนยอมรับในความสามารถก่อนครับ”.

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2418061
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2418061