‘ต่อ’ทุ่มเทละคร‘ใต้หล้า’ ปลื้มฟีดแบ็ก-ไม่หยุดพัฒนา


ให้คะแนน


แชร์

เรื่องความหล่อเรียกว่าเป็นเบอร์ต้นๆ ส่วนเรื่องฝีมือการแสดง หนุ่ม ‘ต่อ’ ธนภพ ลีรัตนขจร ก็ไม่เป็นรอง ล่าสุดโชว์ฝีมือ ในละครเรื่อง “ใต้หล้า” ทางช่องวัน 31 ที่ โกยคะแนนนิยมไปล้นหลาม

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

เจ้าตัวสุดปลื้มกับฟีดแบ็ก พร้อมบอกว่าทำการบ้านมาอย่างหนักกับละครเรื่องนี้

ฟีดแบ็กเรื่อง ใต้หล้า แฟนๆ ชื่นชอบ?
ต่อ – “ผมดีใจแทนทุกคนที่ทำเรื่องนี้มาก ดีใจที่ถูกใจคนดู รู้สึกขอบคุณที่เขาเปิดรับเรา เรื่องนี้ทำการบ้านหนักมากครับ เป็นโปรเจ็กต์ที่ผมถือโอกาสใช้ตอนที่ล็อกดาวน์ 6 เดือน พยายามทำให้คุ้มค่าที่สุด พอตัดเสร็จออกมาออนแอร์ให้คนดู ผมเชื่อว่ามันคุ้มค่ากับเวลาที่เราทุ่มเทให้ไปตอนนั้น”

ทำอย่างไรถึงทำให้คนดูเชื่อว่าเราคือ ใต้หล้า จริงๆ?
ต่อ – “มันเริ่มจากที่ผมเชื่อว่าเขามีตัวตน เริ่มจากที่ผมไม่ได้รู้สึกว่าเขาคือบทละคร ผมรู้สึกว่าเขาคือคนคนหนึ่งแล้วผมทรีตเขาเป็นมนุษย์คนหนึ่งแล้วค่อยๆ ซึมซับเขา พอเราทรีตว่าเขาคือคนคนหนึ่งมันเลยสัมผัสกันได้ ว่าเขาเองก็มีชีวิตของเขาจริงๆ”

สิ่งที่ยากที่สุดในการเป็น ใต้หล้า?
ต่อ – “เรื่องการแบ่งวัย พอผมปั้นเขามาผมอยากให้ทุกคนได้เห็นความเติบโตของใต้หล้า ผมว่าสิ่งนี้คือยากเพราะผมไม่ได้ทำให้ใต้หล้ามันเติบโตปกติ เท่าไหร่ ความเหมือนในความต่างอะไรบางอย่างที่มันมีอยู่ในคนคนนี้”

อีกสกิลหนึ่งในเรื่องที่ยาก พูดภาษาจีน?
ต่อ – “ยากครับ เป็นอีกอันที่เครียดมาก บวกกับผมพยายามกลืนเข้าไปให้มันไม่ใช่แค่การพูดบท มันคือการพูดที่มีอารมณ์ มันจะมีความยากขึ้นนิดหน่อย จริงๆ ก่อนหน้านี้ผมสนใจภาษาจีนอยู่แล้ว มีเรียน เบื้องต้นตอนแรกคิดว่ารอดชิลชิล พอเจอบทไม่รอด (หัวเราะ) ต้องหาครูเพิ่ม”

มองว่า ใต้หล้า ให้อะไรกับต่อ?
ต่อ – “ได้กำลังใจในการใช้ชีวิตในวันพรุ่งนี้ โปรเจ็กต์นี้เราเริ่มต้นกับคำว่า Hope ที่แปลว่าความหวัง เราก็ ตั้งต้นแบบนี้มาตลอดตอนเล่นก็ ทำแบบนี้ แล้วพอมันฉายออกมาแล้ว เรารู้สึกว่าก็ทำได้ตามเป้าอยู่นะในแง่ความรู้สึก ผมประทับใจที่ได้เป็นหนึ่งในคนที่ถ่ายทอดเรื่องนี้”

เรียกว่าเป็นคนทุ่มเทไม่เคยหยุดพัฒนา จนได้รับเสียงชื่นชมฝีมือการแสดง มีแนวคิดในการทำงานอย่างไร?
ต่อ – “แนวคิดของผมอาจจะเล็กๆ เริ่มจากการที่ผมไม่อยากโดนเบื่อ มันเลยเป็นจุดที่ผมรู้ตัวว่าเราหยุดไม่ได้ กับส่วนที่ผมพัฒนามาตลอด เพราะ เอาจริงๆ ผมรู้ตัวว่าผมยังไม่เก่ง ผมยังอยากเก่งกว่านี้ เราหาอะไรที่มันชาลเลนจ์ ไปเรื่อยๆ อยากพัฒนาตัวเอง ไม่อยากให้ตัวเองหยุดนิ่ง ผมอยากให้แฟนๆ หรือใครก็ตามที่เขาติดตามงานเราภูมิใจ”

เป็นคนจริงจังกับชีวิตมากขนาดไหน?
ต่อ – “ผมจริงจังครับ แต่เชื่อไหมว่าหลายปีที่ผ่านมาผมต้องยอมรับตัวเองว่า ผมค้นพบว่าเราเคยอยู่ในจุดที่เราจริงจังกับการทำงานจนเราลืมใช้ชีวิตเลย มันเหมือนอินอยู่ในโลกของเรามันดิ่งลงไปเลย อาจจะด้วยที่เรามีฝัน มีเป้าหมายมั้ง อย่างทุกวันนี้ก็รู้สึกอยากบาลานซ์ตัวเองให้มันดีขึ้น ผมยังอยากที่จะใช้ชีวิต ไม่ได้อยากแบกทุกอย่างเอาไว้ขนาดนั้น”

จริงจังเกินไปจนเครียด?
ต่อ – “ยอมรับครับ ถามว่าจัดการกับความรู้สึกนี้ยังไง คือสุดท้ายแล้วมันมีเหตุการณ์ที่ผมควบคุมไม่ได้ เราจะ เริ่มรู้จักคำว่าปล่อยวางแบบปล่อยวางจริงๆ เพราะเราไม่รู้แล้วจริงๆ ว่าต้องทำยังไง แล้วพอเริ่มเจอจุดนั้นเริ่มพบกับความสบาย ถ้าเรารู้สึกว่ามันดี มันจะคีพต่อไป เราอยากทำแบบนี้ให้ได้เรื่อยๆ”

จุดไหนที่ทำให้ตัวเองค้นพบว่าต้องปล่อยวางแล้ว?
ต่อ – “มันเกิดขึ้นที่กอง One for the Road ตอนถ่ายภาพยนตร์เรื่องนี้ที่นิวยอร์ก ผมเจอความกดดันแบบที่เราไม่ไหว จนมันโพละออกมารู้สึกว่า ไม่ไหวจริงๆ มันคล้ายๆ กับถอดใจนะ แต่มันก็คือช่างแม่ง นี่คือครั้งแรกที่ผมรู้สึกหรือรู้จักกับคำว่าช่างแม่งจริงๆ”

ที่ผ่านมาต่อมองว่าตัวเองเป็นคนเพอร์เฟ็กชั่นนิสต์ไหม?
ต่อ – “ทุกวันนี้ก็เป็นครับ ผมว่าเพอร์เฟ็กชั่นนิสต์ไม่ใช่สิ่งที่หายกันได้ง่ายๆ มันไม่ใช่นิสัยด้วย เพอร์เฟ็กต์ชั่นนิสต์อาจจะเป็นดีเอ็นเอ เพราะเราเป็นคนแบบนี้ไม่งั้นมันอาจจะไม่ได้นำให้เรามาในเวย์นี้ ความอยากเนียนกริบ (หัวเราะ) มันมีสิ่งนั้นอยู่ ทั้งๆ ที่รู้ว่าผมคือเพอร์เฟ็กชั่นนิสต์ที่รู้ว่าไม่มีอะไรเพอร์เฟ็กต์แต่ก็ยังเพอร์เฟ็กชั่นนิสต์อยู่ดี หรือเท่ากับคนดื้อ รู้ทั้งรู้ (หัวเราะ)”

เป้าหมายในชีวิตของต่อตอนนี้คืออะไร?
ต่อ – “มันมีเป้าที่เรากำหนดโดยจำกัดเวลาไว้ สมมติเหลืออีกเท่านี้ปี หรือภายใน 3 ปีนี้ ผมอยากไปให้ไกลที่สุดในเวลาที่มันอยู่ในหัวผมตอนนี้ ในช่วงปีนี้ผมอยากไปให้ไกลมากๆ ในฐานะนักแสดงเพราะผมรู้สึกว่ามันไปได้อีก มันไม่ได้มีลิมิตอะไรเลย”

วีรนุช จันทำ

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_7129962
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_7129962