มีช่วงหนึ่งแจ๊สถามถึงความรักครั้งอกหักที่สุด ซึ่งนุ้ยเล่าว่า “กรีดแขนเลย ลึกมาก ใครถามพี่ก็บอกว่าลวดเกี่ยว เจ็บช้ำน้ำใจ จะแทงตัวเองตายด้วย รู้สึกเสียใจมาก รักมาก พี่เป็นคนจริงจังกับความรัก พอผิดหวังครั้งหนึ่ง แต่ไม่รู้อะไรดลใจบอกว่าอย่าทำเลย จะไม่ทำแบบนี้แล้ว แล้วจะรักษาความรักไว้ให้ดี”

จากนั้นแจ๊สถามถึงความรักที่ดีที่สุด คือการได้แต่งงานกับตั๊ก ศิริพร ถามว่าทำไมถึงจีบตั๊ก นุ้ยบอกว่า “พี่เคยเจอเขาที่ธนบุรีลาดหญ้า เขาไปโชว์ คือเราประทับใจเขาอยู่แล้ว ตั๊กขึ้นไปร้องเพลงจบ เอ็นเตอร์เทนนู่นนี่แล้วแขกสนุกสนาน ให้ความร่วมมือ ก็เฮ้ย ทำไมเก่งขนาดนี้ หลังจากนั้น 2 ปี ไปเจออีกทีในงานยาสีฟันยี่ห้อหนึ่ง เขาขับรถผ่านหน้าไป เราโบกมือ แต่เขาไม่ได้มองพี่เลย ตอนนั้นยังเป็นตลกไม่มีชื่อเสียงเลย

แล้วมาเล่นก่อนบ่ายฯ ทีนี้เจอกันที่นั่น เลยมีโอกาสคุยกัน ตอนแรกไม่ได้จีบ ชอบเฉยๆ อยากจะมอบสิ่งดีๆ ให้เขา เล่นไปก็ทำให้รู้สึกผูกพัน” ถามว่าใช้เวลานานมั้ยกว่าจะจีบก็ 3 ปี ถามว่าคิดว่าเขารู้ตอนไหน คิดว่าปีสุดท้ายคือปีที่ 3 หลังจากนั้นก็พัฒนาความสัมพันธ์จนสุดท้ายแต่งงาน

หลังจากนั้นนุ้ยเล่าถึงชีวิตหลังแต่งงานว่าเลิกบุหรี่เลิกเหล้า เพราะตอนนั้นทะเลาะกันหนัก แจงถามว่าทะเลาะเรื่องอะไรกันมากที่สุด นุ้ยบอกว่ากลับเช้า กลับดึกบ้าง เราเป็นแบบนี้มาตลอด แล้วมันสะสมมาเหมือนเป็นปรอทเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มีวันนั้นปรอทแตก เมาหนัก ตะโกนเปิดประตูมาเลย ไม่เปิด-ูจะขับรถพังประตู ตั้งใจบวก เอาไงพูดมาเลย วันนั้นพูดเสียงดัง เมาด้วย

ตั๊กไม่พูดอะไรสักคำ ขึ้นไปบนบ้าน บีบคอ กดตัวแล้วบีบคอ ตาตั๊กมองหน้านิ่งแต่อำมหิตมาก เหมือนมีลำแสงปล่อยออกมา เราค่อยๆ คลายมือ เขาไม่พูดอะไรสักคำ เราก็เหี้- -ูทำอะไรลงไป รู้สึกตัวเองว่าฟิวส์ขาดนี่หว่า พอได้สติกลับมาอีกทีก็คิดว่าไม่น่าเลย อยู่ด้วยกันไม่เคยตบตีเมีย ไม่เคยแตะเนื้อต้องตัวทำให้เขาเจ็บตัวเลยสักครั้ง อาจมีคำพูดกระทบกระทั่งกันบ้าง ลิ้นกับฟันเป็นเรื่องธรรมดา แต่ลงไม้ลงมือไม่เคย แต่บีบคอ เนี่ยแหละ เขาเก็บเสื้อผ้ากลับไปอยู่กับแม่

โทรไปง้อเขาก็ไม่รับสาย พอโทรหาแม่ยายก็โดนด่าหนัก บอกว่าอย่ามานครสวรรค์นะ อย่าให้เจอหน้านะ ช่วงนั้นไม่กล้าผ่านนครสวรรค์เป็นเดือน ทุกข์ทรมานมาก จังหวะโชคดีต้องมาถ่ายรายการด้วยกัน ก็เลยมาเคลียร์กันในรายการ เอาดอกไม้มาขอโทษ สัญญาว่าต่อไปนี้จะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว หลังจากนั้นเลิกหมด เหล้า การพนัน บอล ทองในคอ 10 บาทก็ขายใช้หนี้บอล

แจงถามว่าทำไมต้องไปนอนโซฟา นุ้ยเล่าว่า แยกกันช่วงที่ตั๊กเป็นวัยทอง ถามว่าเขาเปลี่ยนไปยังไงบ้างในช่วงวัยทอง ทำอะไรก็หงุดหงิดง่าย ปิดประตูก็ว่าดัง ทะเลาะกัน แต่เขาปิดดังกว่าอีก เขาก็เตือนมาแล้วว่าวัยทอง แต่ถ้าเราหงุดหงิดไม่มีสิทธิ์พูดอะไร

แจ๊สถามเรื่องสะกิดเปลี่ยนไปช่วงวัยทองไหม นุ้ยบอกว่า “เขาก็หมดความตรงนั้นไปแล้วมั้ง เป็นปีมาแล้ว” แจ๊สถามอีกว่าถ้าเขาไม่ได้เป็นวัยทอง อาทิตย์ละกี่แมตช์ นุ้ยบอกว่าเกือบทุกวัน ดูคลิปหมอบอกว่าเหมือนเช็กร่างกายว่าเรายังฟิตอยู่ บางวันไม่ได้เช็ก เขาไปทำงานตอนเช้า อาศัยตอนเขาแปรงฟันเราก็เช็ก ทำเอาแจ๊สถึงกับถามเรื่องแปรงฟันว่าจริงหรือเปล่า นุ้ยลั่น “ไอ้…พูดขนาดนี้” แจ๊สบอกว่าพี่นุ้ยไม่เคยโกหก นุ้ยรีบบอก “พี่ไม่โกหก พี่แก่แล้ว” แจ๊สแซวเหมือนเรากำลังทำอะไรคนลมชักน้ำลายฟูมปาก

นุ้ยเล่าต่อว่าที่แยกกันจริงๆ คือเราจะนอนเขาจะดูหนัง เขาจะนอนเราจะฟังอาจารย์ยอด กฎแห่งกรรมและเรื่องเล่าชาวบ้าน ปัจจุบันนอนข้างนอกตลอด 1 ปีแล้ว ก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตคู่เปลี่ยน ยังรักกันเหมือนเดิม แจ๊สถามว่าพออายุมากมันมีปรับอะไรกันอีกไหม นุ้ยบอกว่า ตอนแรกจะเลิกกันอยู่แล้ว ไอ้โน่นก็ไม่ดี ไอ้นี่ก็ไม่ดี ใครอยากทำอะไรทำเลย ต่างคนต่างอยู่เลย ชีวิตใครชีวิตมัน มันพูดอย่างนี้ไม่ได้ ใช้ชีวิตคู่มาแบบนี้แล้ว มันต้องมีวิธีแก้ไข ปรับอะไรได้ก็ปรับกัน คนละครึ่งทาง คุณชอบทำอะไร แต่งตัวโป๊ ชอบวาบหวิวก็แต่งไป ผมชอบมุมนี้ของผม ผมร้องเพลงไลฟ์สดก็ทำไป คุณว่าอะไรไม่ได้ เพียงแต่ว่าทำไปไม่ให้ใครเดือดร้อน

แจงถามว่ากฎของทั้งคู่คือบอกรักกันทุกวัน นุ้ยตอบว่าบอกรักทุกวัน หอมแก้มก่อนไปทำงาน แต่มีกฎเหล็กทะเลาะกันห้ามเดินออกจากบ้าน ยังไงต้องเคลียร์กันวันนั้นให้เสร็จ ส่วนเรื่องที่ชอบและภูมิใจกับผู้หญิงชื่อศิริพร นุ้ยบอกว่า “ไม่เที่ยว เหล้าไม่กิน บุหรี่ไม่สูบ ถึงเวลาก็ไปทำงานขยัน เลิกงานก็กลับบ้าน เป็นอย่างนี้มาทั้งชีวิตเขา นี่ข้อดีของเขาทั้งหมด จะไปเอาอะไรกับเขาอีกล่ะ เขาทำในสิ่งที่ดีที่สุดให้กับครอบครัว ให้กับหน้าที่ของเมียแล้ว”.