เริ่มจาก แดน เล่าว่า “ประมาณ 10 ปี ครับกับการเล่นหนังไปด้วยกำกับไปด้วย ตอนนั้นก็เรื่องคืนวันเสาร์ถึงเช้าวันจันทร์ มาเรื่องนี้กับนักแสดงผมเลือกเองแล้วก็มาคุยกับทางเอ็ม พิคเจอร์ส ว่า นักแสดงแดนอยากได้คนนี้ ซึ่งเอาจริงๆนะวันนั้นในที่ประชุมก็มีการตั้งคำถามว่า พี่บีมกับแพทตี้ สองคนนี้จะทำได้เหรอ คือจะมีความห่วงว่าสองคนนี้จะขำได้เหรอ แดนก็จะเป็นคนที่ยืนยันว่าไม่ต้องห่วง แดนว่าเค้าเล่นได้ คือคนเราส่วนใหญ่เวลาทำหนังก็มักจะเอาเรื่องจากที่ตัวเองพบเจอมาแล้วน่าสนใจ อยากจะเล่า มีอะไรดีๆในชีวิตของเขา ก็มาจากช่วงเวลาที่เรามีการโดนทวงคืนอยู่เหมือนกันจากเพจๆนึง เราก็รู้สึกว่าในข้อนี้มันก็ดีนะ ทำให้เรารู้สึกแบบยิ่งรักแล้วก็หวงแหนคนรักของเรามากขึ้น เราก็เลยมองว่ามันเป็นธีมที่ดีมากๆในการที่จะถูกเล่าออกมาให้คนรู้สึกแบบอย่าละเลยคนข้างๆนะครับ อย่าปล่อยให้คนข้างๆผ่านไปไม่ดูแลเขา แล้วอยากจะหวงแหนเขาในวันที่โดนทวงคืนแบบนี้”

ทำไมต้องเป็นสองเต๋า ทั้งเต๋า-สมชาย และเต๋า-เศรษฐพงษ์ เค้าชื่อคล้ายๆกัน

“ไม่มีตรรกะใดๆ เลือกเองหมดเลยครับ พี่เต๋า-สมชาย แดนอยากได้คนที่ดูลึกลับมองหน้าแล้วสามารถกลัวได้แบบเด็กร้องไห้ได้ พี่เต๋าทำหน้าที่นั้นได้ดีมาก เด็กร้องไห้จริงๆ เด็กที่พี่บีมอุ้มไม่เอาเลย พี่บีม ต้องบอกว่าพี่เต๋าดึกแล้วผมขอให้ผมได้กลับบ้านเถอะอย่าแกล้งเด็ก (หัวเราะ) แล้วเต๋า-เศรษฐพงศ์ เราอยากได้คาแรกเตอร์ที่ดูเป็นลูกคุณหนูอารมณ์ร้ายเอาแต่ใจ เค้าก็ทำได้ดีนะ จริงๆเรื่องนี้ต้องขอบคุณนักแสดงหลักทุกคน ไม่มีใครมาท่องบทคือกำบทแน่นกันมาแล้ว คิดกันมาแล้วว่าจะเล่นอะไร ทวงคืน 13 กรกฎาคมนี้ อยากให้ดูนะเป็นหนังที่จะทำให้คุณมีความสุขได้ ถ้าใครจับธีมของการทวงคืนหรือการดูแลรักษาคนข้างๆใจ คนข้างๆคุณได้ก็จะยิ่งดี จะบวกพลังความคุ้มค่าเข้าไปอีก ก็ฝากไว้ด้วยนะครับ

ขออัปเดต ความรักเป็นอย่างไรบ้าง

แดน “เรื่องความรักก็ดีขึ้นเรื่อยๆนะครับ เหมือนกับเราก็ศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับความรัก แล้วก็ชีวิตคู่ว่าทำอย่างไรที่จะอยู่ด้วยกันได้แบบโอเคแฮปปี้ มีความสุขเติมเต็มซึ่งกันและกันครับ ก็เป็นอะไรที่ลงตัวขึ้นเรื่อยๆ แฮปปี้นะ ความรักมันต้องแบบนี้แหละ ต้องทำให้ชีวิตเรามันเพิ่มพูน ผมตามใจเค้านะ แล้วแต่เขาเลยครับ แดนเป็นคนรักอิสระมาก แดนก็เลยจะให้อิสระกับเขาด้วยเช่นกัน”

แพทตี้ “พี่แดนตามใจ เป็นคนใจดีมาก ไม่เคยขึ้นเสียงหรือดุอะไรเลย ถ้ามีลูกก็คือแบบตามใจมาก”

แดน “สปอยล์ (หัวเราะ)”

แพทตี้ “ระหว่างทางเหมือนเราไม่ได้เกิดมาในวิถีเดียวกันเลย วิธีการเลี้ยงดูหรือเติบโตมาคนละแบบ มันก็ไม่แปลกที่ช่วงแรกจะมีปัญหาแต่เวลามันช่วยทำให้เราปรับแล้วจูนกันมาเรื่อยๆจนถึงทุกวันนี้”

แดน “หลังๆก็มีความคลั่งรัก เรามั่นใจขึ้นว่าคนนี้แหละ ก็อยากจะเก็บโมเมนต์ดีๆไว้ แล้วคิดว่าถ้าเราจะลงรูปสักรูปมันก็ควรจะเป็นรูปที่มู้ดมันมีความสุขเพื่อกลับมาดูอีกครั้งแล้วก็ยิ้มได้ ไม่ใช่เฉพาะรูปคู่นะ รูปตัวเองก็เหมือนกันแบบเดียวกันครับ เราจะลงรูปคู่ก็ไม่ควรหน้าบึ้งไง สิ่งที่ทำให้อยู่ด้วยกันได้ก็คือเราต้องเชื่อสิ่งเดียวกันก่อน ว่าสิ่งนี้ถูกต้อง สิ่งนี้ไม่โอเคกับเรานะ ไม่งั้นไม่มีทางคุยกันจบครับ ทางธรรมเค้าจะบอกว่าใครคล้ายๆศีลเสมอกัน เข้าใจศีลข้อเดียวกันเชื่อในสิ่งนี้เหมือนกัน แพทตี้ดูแลดีมากครับ เวลาทำงานหนักๆก็จะเอาวิตามินมาให้ อาหารเสริม”

เรื่องข่าวดีล่ะ

“ก็ต้องมีแหละให้รอติดตาม เพราะถ้าเราจะแต่งงานหรืออะไรก็ตามยังไงเราก็ต้องประกาศให้ทุกคนรับรู้ร่วมกันพร้อมๆกันแน่นอน ตอนนี้ก็แค่อัปเดตสถานะว่าคบกันราบรื่นไหม ถ้ามันราบรื่นเรื่องการแต่งงานหรือต่อๆไปมันเกิดขึ้นไม่ยากอยู่แล้ว”

คิดจะมีลูกไหม?

แพทตี้ “คิดจะมีลูกไหมก็มีคิดบ้าง 50-50 ไม่ใช่อะไร ที่บ้านมีหลาน แล้วเวลาพี่แดนไปที่บ้านอยู่กับหลานตลอด เวลาแพทพูดอะไรคือเหมือนเค้าไม่ฟัง โลกของเค้าจะอยู่ตรงนี้แล้วคุยกุ๊กกิ๊ก เราก็พูดหลายรอบ พี่แดนๆ จนแบบ พี่แดนเสียงสูง เราก็แบบคุยว่าถ้ามีลูกแล้วจะอย่างนี้หรือเปล่า? มันจะกลายเป็นแบบว่าส่วนเกินหรือไม่”

แดน “แพตตี้เค้าไม่อยากมีลูก มุมที่เค้ากลัวผมรักลูกมากกว่า (หัวเราะ) แดนเป็นคนชอบเล่นกับเด็กเพราะเด็กตลก ถ้ามีลูกผู้หญิงหรือผู้ชายก็ได้ อยู่ที่นิสัยของเด็กครับตรงนี้”

ที่จะไปสวิตเซอร์แลนด์เป็นอย่างไรบ้าง?

แดน “ตั๋วมันหมดเขตที่จะไปสวิตฯไม่ทันครับ”

แพทตี้ “จองไว้แล้วชะล่าใจไปนิดนึงก็เลยเสียฟรี เค้าก็ตัดสิทธิ์ไปแล้วค่า ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าถ้าเป็นสวิตฯ ก็รู้สึกไม่อยากไป มีแพลนไหมจริงๆอยากไปมาก เพราะตั้งแต่โควิดมาก็คือไม่ได้ไปไหนเลย ยังบอกว่าถ้าเปิดแล้วเนี่ยน่าไปญี่ปุ่น เหมือนแบบเป็นที่ที่เราคุ้นเคย อาหารอร่อย เหมือนช่วงนี้เปิดแต่ว่าอากาศก็ยังร้อนอยู่มาก เอาไว้ก่อนว่าจะไปไหนกันดี”.