แจ็คกี้ ชาเคอลีน "วงการบันเทิงไม่ได้สวยงาม" โดนเหยียด หลงเกรท อาภัพรัก


ให้คะแนน


แชร์

แจ็คกี้เริ่มต้นด้วยเรื่องราวเศร้าแบบไม่เศร้าซะงั้น เส้นทางเริ่มต้นในวงการบันเทิง ไม่ได้ง่ายเลยสักนิด

“ช่วงแรกๆ การที่แจ็คกี้มาอยู่กรุงเทพฯ มีค่าใช้จ่ายเยอะมาก ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ แพงมากนะ บินสองคนกับคุณแม่ ไหนจะค่าโรงแรม เงินทั้งหมดที่เรามีมันลงไปตรงนั้นหมด เงินมันต้องใช้เยอะจริงๆ แต่แม่ก็อยากให้ลูกทำ มันเป็นโอกาสของลูก ก็ลำบากด้วยกันสองคนแม่ลูก เราต้องประหยัดถึงขั้นว่าต้องต้มข้าวต้มกิน เพราะข้าวต้มมันจะอิ่มและกินได้หลายมื้อกว่า กินกับผักดองและปลากระป๋อง” 

แม้ว่าจะลำบากทั้งเรื่องอาหารและการเรียนที่ต้องบินไปบินกลับกรุงเทพฯ-เชียงใหม่แล้ว แต่เธอก็ไม่ท้อแท้จนมีทุกวันนี้ และใครที่มองว่าตอนนี้แจ็คกี้ดังแล้ว นางถอนหายใจและบ่นออกมาว่า 

“แจ็คกี้แค่มีชื่อเสียงมากขึ้นกว่าเดิม แค่นั้นเอง ไม่ใช่ว่าโอ้โห ดังขนาดนั้น แล้วถามว่าดังแล้วสบายไหม หนูก็คิดว่ามันโอ๊ยสบายแน่แล้ว แต่รู้ไหมว่าผ่านมาได้ 6 เดือนจากที่มีชื่อเสียงจากยัยบอง ดิฉันกับผู้จัดการคือปาดเหงื่อ งานทั้งหมดมันกลับมาแล้ว งานใหม่ก็ถาโถม เราก็ไม่อยากให้คนทำงานกับเราลำบาก เช่นหาคิวยากให้งานไปไม่มีคุณภาพ พองานมันเยอะ มันกลายเป็นว่าเราทำไม่ได้อย่างที่เราคิดไว้ มันบั่นทอนวิญญาณในการทำงานของเราอะ”

เรื่องเล่าดาราไม่ดัง

หนูถูกดูถูก

ถึงเวลาเรื่องแซ่บในวงการบันเทิงที่แจ็คกี้เล่าครบทุกรายละเอียด ในช่วงที่เธอยังไม่ดังก็ต้องเจอการดูถูกจากดาราที่อยู่มาก่อน 

“ในช่วงเวลา 13 ปีชีวิตวงการบันเทิงของแจ็คกี้ก็โดนมาเยอะ ไหว้เขาแล้วไม่รับไหว้ก็มี วันนั้นเราไหว้เสียงดังกลัวคนว่าเราไม่มีสัมมาคารวะ แต่ดาราบางคนก็ไม่รับไหว้ เมินไปเลยก็มี”

และยังมีเรื่องกระเป๋า ที่ใครฟังแล้วช่วยบอกที ดาราท่านนั้นเขาทำไปเพื่ออะไร?

“แจ็คกี้ชอบถือกระเป๋าจักสาน มันใช้งานง่าย วางพื้นก็ได้ เขาเอากระเป๋าแจ็คกี้ไปซ่อน ตอนแรกเราวางไว้บนเก้าอี้ แล้วเราก็ไปทำนั่นทำนี่ พอกลับมากระเป๋าโดนเอาไปวางพื้น และมีกระเป๋าแบรนด์เนมของดาราท่านนึงมาวางทับที่เรา เราคิดในใจคือ เก้าอี้มีประมาณ 300 ตัว วันนั้นพยายามไม่คิด ไม่ซีเรียส เพราะกระเป๋าเราวางพื้นได้

สักพักกระเป๋าจักสานของเราหาย สรุปไปเจอกลางดงหญ้า มีคนเอาไปซ่อน และดาราท่านนั้นก็รู้ว่ากระเป๋านี้เป็นของแจ็คกี้ เพราะว่าไม่มีคนใช้กระเป๋าแบบนี้ ในตอนนั้น”

แอบแย้มนิดนึงว่าเป็นดารารุ่นใหญ่ มีอักษรย่อ ป. นำหน้าชื่อ!!!!!

นอกจากนี้ยังมีอีกหลายครั้งที่แจ็คกี้ต้องพบเจอการดูถูก ทั้งเรื่องรถยนต์ที่ใช้หรือกระเป๋าแบรนด์เนม

“วงการนี้มันไม่สวยงามเธอจ๋า แต่ก็ต้องอยู่ให้ได้ ไม่ใช่อยู่สบาย เราก็โดนอะไรมาเยอะ ถึงขั้นว่าโดนตัดสินคนจากของภายนอก แจ็คกี้เป็นคนขับรถญี่ปุ่น หนูเคยไปทำงานแล้วเขาไม่ให้เข้าไปจอดรถสำหรับนักแสดง เพราะรถเราเป็นรถญี่ปุ่น ก็อยากจะถามว่าขับรถแบบนี้มันทำไมหนักหนาเหรอ

แล้วหนูมีปัญหากับการขับรถจอดรถบ่อยมาก ทำไมต้องบ่อยขนาดนี้ สังคมมองแค่สิ่งภายนอก เราก็ห้ามความคิดคนไม่ได้ มันเหนือการควบคุมของเราเกินไป เราก็แค่ทำอย่างที่คนอื่นอยากให้ทำ เพราะเราไปเปลี่ยนเขาไม่ได้ จะบอกว่าห้ามตัดสินคนจากภายนอกค่ะ ผ้าขี้ริ้วห่อทองมีอยู่จริง คนมันจะคิดเหรอ เพราะเขาเชื่อไปแล้ว สังคมมันเป็นแบบนี้ แต่เราก็ไม่ใช่ซื้อทุกอย่างตามเทรนด์ มันไม่ใช่เรื่องที่เราจะไปเสียเงินขนาดนั้น ซื้อเพื่อให้เรายังอยู่ในเกม แค่นั้นพอ”

เรื่องลับ เกรทสามีในฝัน

อย่างที่ทราบกันดีว่าพระเอก เกรท วรินทร คือชายในดวงใจของแจ็คกี้ ถึงขนาดแอ๊วออกสื่อกันเป็นประจำ ซึ่งแจ็คกี้ก็ได้เล่าความประทับใจเมื่อได้เจอเกรทตัวเป็นๆ ว่า 

“แจ็คกี้รู้จักพี่เกรทและชอบมานานแล้ว ผู้ชายคนนี้เป็นผู้ชายที่เราชอบ ด้วยลักษณะภายนอกก่อน ติ๊กถูกทุกอย่าง จนพอมาเจอตัวจริง ในละครร้อยเล่ห์มารยา ตอนนั้นไปถ่ายที่ฟิตเนส แล้วพี่เกรทเล่นฟิตเนสอยู่ที่นั่น เขาเดินเข้ามาทัก ถามเราว่ากินน้ำกินข้าวหรือยัง พอรู้ว่าเรายังไม่ได้กินก็จัดแจงให้เราทุกอย่าง มันมียำขนมจีน เครื่องมันเยอะ เขาก็คลุกยำขนมจีนให้ แล้วก็ชิมว่ารสชาติมันได้หรือยัง คือเราอยากได้ผู้ชายแบบนี้มาเป็นสามีในอนาคต”

เธอเล่าไปก็เขินไป พร้อมกับออกตัวว่าที่จีบออกสื่อมันก็แค่แอ๊วเล่นๆ จนมีการเขียนไปขอโทษเกรทอยู่หลายครั้ง ถ้าเราทำให้พี่เกรทลำบากใจหรือไม่สะดวกใจกลัวจะกระทบกับใครที่กำลังคุยอยู่ ก็ขอให้บอก แต่เกรทก็คือพระเอกทั้งในใจและในใจแจ็คกี้จริงๆ

“เราบอกเขาว่า ถ้ามีคำพูดไหนที่ทำให้พี่เกรทรู้สึกว่าไม่สบายใจ หรือพี่เกรทคุยกับใครอยู่ อยากให้แจ็คกี้เล่นให้เบาลงหน่อย ขอให้บอกแจ็คกี้นะ แต่พี่เกรทก็ไม่เคยห้าม บอกแค่ว่า ไปเต็มที่เลยน้อง มันไม่ใช่คอนเทนต์ แค่เราโชคดีที่พี่เกรทเอ็นดูแจ็คกี้มากๆ เรามองในมุมส่วนตัวนะ เขาน่าจะเห็นว่ามันคือโอกาสของแจ็คกี้ เขาก็บอกตลอดเลยว่าไปให้สุดเลยน้อง ถ้าน้องรู้สึกว่ามันต่อยอดได้ มันทำได้ก็เต็มที่ไปเลย”

สุดท้ายเธอร่วมวิเคราะห์กับพิธีกรในรายการว่าความสัมพันธ์ระหว่างเกรท วรินทรกับเก้า สุภัสสรา ที่หวานกันออกสื่อ ดูจะมีโอกาสพัฒนาเป็นแฟนกันได้ไหม แจ็คกี้ให้ความเห็นว่า 

“อันนี้ไม่แน่ใจในความสัมพันธ์ ตอนเห็นข่าวก็รู้สึกว่ามันมีสิทธิ์เป็นไปได้ อันนี้คาดเดาแบบไม่รู้ตื้นลึกหนาบางนะ แจ็คกี้ไม่ได้รู้ข่าวลึกอะไรเลย แต่เราในฐานะที่เราชอบเขา เราติดตามพี่เกรท เรารู้ว่าเขาน่าจะชอบประมาณไหน ซึ่งแจ็คกี้คิดว่าพี่เกรทน่าจะชอบเก้า”

ผู้หญิงอาถรรพณ์รัก

แจ็คกี้ออกตัวก่อนเสมอว่าเป็นคนที่ไม่สมหวังเรื่องความรัก มีแฟนคบกันมา 7 ปี เห็นแฟนตัวเองไปคบกับผู้หญิงอื่น เหตุผลที่เลิกกันก็มีหลายองค์ประกอบ เช่นเรื่องอนาคตและความคิดเห็นไม่ตรงกัน 

“วันที่แจ็คกี้เลิกกับเขา แจ็คกี้ต้องปรับตัวเยอะมาก เพราะเขาคือคนที่คอยประคองเราตลอด กลายเป็นทำอะไรไม่เป็นเลย วันหนึ่งที่เขาไปแล้ว ชีวิตมันก็ดันสู้กลับเราอย่างมากในวันที่เราไม่มีแฟน เช่น รถยางแตกตอนตี 3 ทั้งที่ตลอดเวลาที่คบกันไม่เคยเลยที่รถจะเสีย ทำไมจะต้องมาเสียในวันที่ไม่มีเขา” 

เมื่อสาวสวยระดับนางเอกเป็นโสดทั้งที แน่นอนต้องมีหนุ่มๆ เดินมาขายขนมจีบกันบ้าง ซึ่งเจอแปลกๆ ที่จำไปจนตายก็มีเช่นกัน 

“กรณีแปลกๆ เขาเป็นสามีของเพื่อนมาจีบเรา เรื่องนี้โหดร้ายมากที่สุดในชีวิต เพื่อนคนนี้เป็นดาราด้วยนะ”

แจ็คกี้ทิ้งท้ายเรื่องชีวิตแต่งงานไว้น่าสนใจและเป็นต้นแบบผู้หญิงยุคใหม่อย่างแท้จริง เธอก็มีความคิดอยากแต่งงานแต่เป็นแค่ความคิดในช่วงเวลานี้เท่านั้น ถ้าอนาคตไม่มีผู้ชายที่ดีก็ไม่เป็นไร

“ก็อยากมีครอบครัว แต่ถ้าไม่มีไม่เป็นไร จะเลือกมีถ้ามันดีที่สุดแล้วจริงๆ ถ้ารู้สึกว่าต้องเลือกคนนี้เพราะอยากมีครอบครัว แจ็คกี้ก็จะไม่เลือกเขา”

ผู้เขียน : Bouquet Talk

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/2442690
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/2442690