โดย กานต์ ได้เปิดใจถึงฟีดแบ็กว่า “เรื่องนี้ที่กานต์ได้รับเลย ก็จะชมว่าละครภาพสวยมาก เดินเรื่องสนุกมาก สงสารหงส์ฟ้า ซึ่งกานต์ขอขอบคุณทุกๆคนมากเลยนะคะที่ติดตามหงส์ฟ้า ตัวกานต์เองได้ดูและเห็นคอมเมนต์ชื่นชมเข้ามา ต้องขอขอบพระคุณจริงๆค่ะ ทุกคำชมนั้นเป็นกำลังใจให้กับตัวกานต์ นักแสดง และทีมงานทุกคนมากๆค่ะ เพราะเราทุกคนตั้งใจอยากให้งานชิ้นนี้ออกมาดีที่สุดเลยค่ะ รู้สึกหายเหนื่อยมากๆเลยค่ะ”

พอรู้ว่าได้เล่นหงส์ฟ้าแล้วรู้สึกอย่างไร?

“ตอนแรกตื่นเต้นและท้าทายมากๆ จริงๆเพราะเราไม่เคยเจอดราม่าหนักขนาดนี้ พอได้เรื่องย่อมาอ่านบทแล้วก็ทำการบ้านเยอะมาก เพราะกลัวถ่ายทำจริงแล้วจะร้องไห้ไม่ออก เรื่องนี้เราตื่นเต้นเซอร์ไพรส์ตั้งแต่ฟิตติ้งแล้ว พอเราได้ใส่ชุดเจ้าหญิงจริงแล้ว เราโอ้โหเลย รู้สึกตื่นเต้นอยากเล่นแล้ว เราจะได้เห็นพัฒนาการของตัวละคร คาแรกเตอร์ที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ”

ความยากของตัวละครล่ะ?

“ยากตรงที่หงส์ฟ้ามีปมค่อนข้างเยอะ เขาถูกทิ้งตั้งแต่เด็ก เติบโตมาได้เพราะ ยายนิ่ม และ พ่อบุญช่วย ที่เลี้ยงดูเรามา หงส์ฟ้าเป็นเด็กกตัญญูค่ะ จะไม่สู้กับคนที่มีบุญคุณกับเรา แต่จะสู้กลับกับคนที่ร้ายกับเรา สำหรับกานต์ว่ามันยาก ตัวละครจะค่อนข้างเยอะคนพูดน้อย แต่เวลาพูดแต่ละคำจะมีความรู้สึกมีความหมาย เรื่องบางเรื่องจะสะกิดใจจนต้องร้องไห้ออกมา ซึ่งเป็นความยาก กานต์เป็นคนที่ดูหนังไม่ค่อยร้องไห้ จนมาเล่นเรื่องนี้ก็ได้สกิลใหม่เรื่องการร้องไห้ น้ำตามา เราต้องรู้สึกไปกับหงส์ฟ้าจริงๆ”

อะไรที่กดดันมากที่สุด?

“เรื่องที่ต้องร้องไห้เยอะมากจริงๆ แต่เราโชคดีที่ทั้งพี่แชมป์ (อินทนนท์ รัตนากาญจน์) ผู้กำกับและพี่น้อง (พรสุดา ต่ายเนาว์คง) ช่วยเรา ว่าทำไมหงส์ฟ้าถึงรู้สึกแบบนี้ พอเราร้องไห้ไปแล้วบางทีความรู้สึกดิ่ง ดาวน์ แต่เราโชคดีที่ทีมงานเข้าใจ แล้วคอยบิลต์ให้เรากลับมาเป็นกานต์ ทำให้เราอารมณ์ดี ตอนแรกเราก็ท้อมาก พี่น้ำผึ้ง (ณัฐริกา) ซึ่งเล่นเป็นแม่ของเรา เห็นพี่น้ำผึ้งแสดงเขาดีดนิ้วปุ๊บร้องไห้ได้เลย ยอมรับตอนที่เห็นคือเรายืนนิ่ง เหวอเลย แล้วยังงี้เรา จะทำอย่างไรต่อ เอามากดดันตัวเอง นอยด์กับตัวเองว่าทำไมเราทำไม่ได้ แต่ครูน้องคอยให้กำลังใจเรา แนะนำว่าเราอย่ากดดัน อย่าหลุดจากตัวละคร ถ้าเราหลุดเป็นกานต์แล้วเราต้องใช้เวลากว่าจะเป็นหงส์ฟ้าอีก”

เล่นคู่กับ พี่โอ๊ต-ชาคริต เป็นยังไงบ้าง?

“แรกๆพี่เขายังไม่ค่อยคุยกับกานต์ค่ะ (หัวเราะ) พี่โอ๊ตตอนแรกจะนิ่งๆ แต่กานต์ก็หาเรื่องคุยด้วยตลอด การที่เราต่างคนต่างเป็นนักแสดงใหม่ด้วยกันทั้งคู่ ก็ทำให้เรามีเรื่องต้องคุยกันมากขึ้น ปรึกษากันมากขึ้น”

แล้วฉากหวานๆกับพี่โอ๊ตในเรื่องนี้ล่ะ?

“เรื่องนี้จะมีความน่ารักกุ๊กกิ๊กให้ได้เห็นตั้งแต่ต้นเรื่อง แต่ก็จะมีอุปสรรคให้ได้ลุ้นกันต่อว่าจะลงเอยอย่างไร ช่วงต้นๆจะเป็นกุ๊กกิ๊กแบบเด็กๆ แต่ช่วงท้ายๆจะมีฉากเลิฟซีนบ้าง อยากให้แฟนละครติดตามลุ้นเรื่องราวกันไปเรื่อยๆนะคะ”

เรื่องนี้ยังได้ร่วมงานกับนักแสดงรุ่นพี่มากมายหลายท่านเลย เป็นอย่างไรบ้าง?

“ค่อนข้างแฮปปี้มากๆในการทำงานเรื่องนี้ แต่ช่วงแรกกดดันมาก เพราะด้วยความที่เราเล่นกับรุ่นใหญ่หมดเลย มีชื่อเสียง เก่งๆ ทั้งนั้น แต่ว่าพี่ๆเค้าเหมือนเอ็นดูเราคอยแนะนำเรา พี่ก็ให้กำลังใจเรา ถึงจะเข้ากันไม่กี่ซีน อย่างพี่แจ็บ (เพ็ญเพชร เพ็ญกุล) จะเล่นกับเราไม่กี่ฉากแต่ก็มาคุยให้คำแนะนำจนเรารู้สึกว่าพี่แจ็บเป็นพ่อเราจริงๆ พี่ๆทุกคนน่ารักหมดเลย ซึ่งกานต์ขอบคุณพี่ๆทุกคนที่เอ็นดูและให้คำแนะนำที่ดีมาตลอดค่ะ”

โดนจับตาถึงการเป็นนางเอกดาวรุ่งน้องใหม่ที่มาแรงมากๆ เพราะ 1 ปีฟาดละครถึง 5 เรื่อง ตั้งแต่เขยบ้านไร่ สะใภ้ไฮโซ, เสาร์ 5, หงส์ฟ้า และละครเรื่องใหม่อีก 2 เรื่อง มีเรื่องอะไรบ้าง?

“จบจากหงส์ฟ้า ละครเรื่องใหม่ที่เตรียมถ่ายทำ ก็มีเรื่องฤทัยบดี และมนตราตะเกียงแก้วค่ะ ฤทัยบดี เรื่องนี้บทค่อนข้างท้าทายเลยทีเดียว มีเรื่องของการข้ามภพด้วย ต้องมีการแต่งตัวย้อนยุคไปในอดีต แล้วยังต้องเป็นคนที่มีความสามารถด้านพลังจิตด้วย แล้วก็เรื่องนี้ได้คู่กับพี่โด (โดนัท-ภัทรพลฒ์) ด้วย ก็รู้สึกดีใจค่ะ ที่เป็นอีกครั้งที่ได้ทำงานร่วมกับค่าย 9 บีเวอร์ ฟิล์มส์ ของพี่เวอร์ (โอริเวอร์ บีเวอร์) แล้วก็ร่วมงานกับพี่โดอีก ก็เรียกว่าคุ้นเคยกัน นอกจากนี้ก็ยังมีละครอีกเรื่องที่กานต์ก็รู้สึกตื่นเต้นมากๆนั่นคือ มนตราตะเกียงแก้ว ของค่ายดีด้าฯ ที่ว่าตื่นเต้นเพราะเรื่องนี้กานต์รับบทเรนี่ เรื่องนี้คู่กับภูมิ (เกียรติภูมิ บันลือชัยฤทธิ์) ก็เป็นอีกบทบาทที่น่าสนุก เราต้องทำการบ้านเพิ่มเติมด้วย เราต้องใช้จินตนาการ เพราะเรื่องนี้เราต้องมีเวทมนตร์คาถาอีก ก็อยากให้แฟนๆติดตามกันนะคะว่ากานต์ในเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร รับรองว่าแฟนๆจะชื่นชอบแน่ๆค่ะ”.