ไม่จบ! ต้นสังกัด พอร์ส Yes Indeed ยันไม่ให้ยกเลิกสัญญา แจงยิบไทม์ไลน์


ให้คะแนน


แชร์

ไม่จบ! ต้นสังกัด พอร์ส Yes Indeed ยันไม่ให้ยกเลิกสัญญา แจงยิบไทม์ไลน์

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

เมื่อเวลา 13.30น. วันที่ 22 ก.ค. 2565 ที่บริษัท EXP Entertainment ค่ายเพลงต้นสังกัดของนายนรากร อิสระวรางกูล หรือ พอร์ส นักร้องนำและมือกีต้าร์จากวง Yes Indeed นายวงศพัทธ์ รติพัชรพรกุล ผู้บริหารบริษัทฯ,นายศรายุทธ จันทร์โอวาท ผู้จัดการทั่วไป,นายธนากร พลอยทับทิม ผู้จัดการทั่วไป พร้อม น.ส.ศรันยา หวังสุขเจริญ หรือทนายนิด้า

ร่วมกันแถลงข่าว กรณีที่พอร์ส เข้าปรึกษาข้อกฎหมายกับนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม หลังอ้างว่าต้นสังกัดทำสัญญาที่ไม่เป็นธรรมและไม่ยอมให้ยกเลิกสัญญาดังกล่าว โดยกล่าวหาว่าบริษัทไม่ส่งเสริมหรือสนับสนุนศิลปินให้มีความก้าวหน้าต่ออาชีพตามที่ตกลงกันไว้ อ่านข่าว : พอร์ส Yes indeed เป็นอิสระ พ้นสัญญาซัดค่ายเอาเปรียบ ดีใจได้ทำตามฝัน
อ่านข่าว : ค่ายเพลง แต่งตั้ง ทนายนิด้า ชี้แจง สัญญา พอร์ส Yes Indeed เผยแถลงข่าวดูหมิ่น

นายวงศพัทธ์ กล่าวว่า บริษัทถูกกล่าวหาเรื่องเอาเปรียบศิลปิน ทำสัญญาไม่เป็นธรรม ไม่ผลักดันศิลปิน ซึ่งเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง เราจึงต้องออกมาปกป้องศักดิ์ศรีของบริษัท ซึ่งพอร์ส เป็นหลานของเพื่อนที่แนะนำมาว่ามีความสามารถทางดนตรี จึงให้ส่งโปรไฟล์เข้ามา เพราะไม่มีเหตุผลใดที่จะไม่ส่งเสริม เราเห็นศักยภาพจึงนัดทำสัญญา เพื่อนก็คอยตามถามความคืบหน้าตลอด

เราได้ประชุมเรื่องศิลปินใหม่ พร้อมให้พอร์ส ถ่ายภาพร่วมกับศิลปินอื่น ขณะที่เพลงของพอร์ส ทำเสร็จไปแล้วเพลงหนึ่ง แต่ขณะนั้นยังมองว่าไม่เหมาะที่จะออกอากาศ เพราะต้องการปรับแก้ดนตรีเพิ่มเติม อีกทั้งแผนการปล่อยเพลงเดิมนั้นอยู่ในช่วงเดือน ส.ค.นี้ ไม่ใช่ว่าเพลงไม่ดีหรือไม่เอาเพลง แต่ขณะนั้นพอร์ส ยังไม่มีชื่อเสียงเท่านี้ หากปล่อยไปก่อนก็อาจไม่จะส่งกัน ส่วนตัวก็ต้องการให้พอร์สเข้ามาพูดคุยว่าจะไปต่ออย่างไร เพราะล่าสุดติดต่อไปน้องก็เงียบ ตนก็อยากให้ทุกอย่างราบรื่นและอยากเห็นน้องโตขึ้น

นายศรายุทร กล่าวว่า สำหรับไทม์ไลน์ต่างๆ หากย้อนกลับไปวันที่ 26 ส.ค.2564 ค่ายนัดศิลปินที่ประสบปัญหาช่วงโควิด-19 ระบาดเพื่อเปิดหมวกเล่นดนตรีออนไลน์ ยืนยันว่าบริษัทจ่ายเงินให้ศิลปินทุกรายโดยไม่หักค่าใช้จ่าย พร้อมแสดงบัญชีของศิลปินในคลิปชัดเจนโดยที่เงินไม่ได้เข้าบริษัท ต่อมาเดือน พ.ย.2564 มีโปรเจ็กต์ มพร.ทำคอนเทนต์ออนไลน์เพื่อโปรโมตศิลปินของค่าย ออกอากาศจนเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา รวม 9 ตอน จากทั้งหมด 10 ตอน จ่ายค่าตอบแทนครั้งละ 1,500 บาท มีการเซ็นชื่อรับชัดเจน มีงบเฉลี่ยต่อเทปรวมไม่เกิน 10,000 บาท และไม่สามารถเพิ่มเงินให้ได้

วันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา พ่อของพอร์ส เข้ามาพูดคุยเรื่องการหามหาวิทยาลัยของน้อง แล้ววันที่ 4 ก.พ.บริษัทก็ส่งข้อมูลการหาที่เรียนให้น้องไปสมัครเรียน และวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา มีการระบุไทม์ไลน์การออกซิงเกิ้ลของน้องในการประชุมอย่างชัดเจน ต่อมาเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา พอร์สขอหนังสือรับรองเพื่อไปยื่นเรียนมหาวิทยาลัยอีกครั้ง ซึ่งยืนยันว่าบริษัทไม่มีการช่วยเหลือเรื่องทุนการศึกษาในสัญญาแต่แรก

ถัดมาวันที่ 3 มี.ค.ได้พูดคุยกับเอก ซีซั่นไฟว์ ศิลปินชื่อดัง เพื่อเตรียมทำเพลงกับพอร์สและศิลปินในค่ายอีกราย โดยออกอากาศของศิลปินอีกรายไปแล้ว มีหลักฐานการทำงานชัดเจน และวันที่ 31 มี.ค.บริษัทได้รับเชิญไปงานพรมแดง โดยพอร์สก็ได้ไปด้วย

จนวันที่ 4 มิ.ย.บริษัทได้รับโทรศัพท์จากพ่อของพอร์ส ว่าจะคุยเรื่องยกเลิกสัญญา โดยพ่อให้เหตุผลว่า หากไม่มีการลงทุนก็แยกทางกันดีไหม ซึ่งเราจะเปิดแผนการทำงานต่างๆ ให้ดู แต่พ่อปฏิเสธ แล้วท้ายสุดก็ไม่มีการยกเลิกสัญญา

นายศรายุทร กล่าวต่อว่า จากนั้น พอร์สขอยกเลิกการอัดเพลง ทั้งที่จองห้องอัดและนัดหมายเรียบร้อยแล้ว ก่อนที่พ่อของพอร์ส จะติดต่อเข้ามาขอยกเลิกสัญญาอีกครั้ง เพราะมีค่ายอื่นมาทาบทาม ซึ่งบริษัท ได้มีข้อเสนอว่า ยินดีให้ร่วมงานกันกับค่ายอื่นในรูปแบบวงดนตรีได้ โดยไม่ต้องไปทำสัญญากับผู้อื่น เพราะยังเหลือเวลาตามสัญญาอีก 2 ปี

แต่บริษัทต้องขอความเป็นธรรมเรื่องสิทธิการทำงานตามสัญญาของค่าย เพราะทำงานไปแล้ว 90% ส่วนเรื่องงานต่างๆ ที่พอร์สหามาเอง บริษัทไม่ขอรับเงินส่วนแบ่งแต่อย่างใด

ขณะที่ทนายนิด้า กล่าวว่า วันที่พอร์สเซ็นต์สัญญาเป็นนักร้องนักแสดงนั้นน้องยังเป็นเยาวชน มีพ่อเป็นพยานลงชื่อเรียบร้อย ซึ่งทั้งคู่ได้อ่านสัญญาอย่างครบถ้วน จากนั้นได้ลงคิวงานต่างๆ เริ่มวันที่ 15 มิ.ย.2564 ได้ถ่ายภาพโปรโมตพอร์ส วันที่ 24 มิ.ย.2564 บริษัทขอคิวพอร์ส เพื่อนัดเอก ซีซั่นไฟว์มาเป็นโปรดิวเซอร์ ในการทำเพลงต่างๆ ซึ่งทุกขั้นตอน มีหลักฐานแชทการพูดคุยรวมถึงภาพการโปรโมตผ่านช่องทางออนไลน์ของค่ายชัดเจน

ที่ผ่านมา บริษัทยังคอยสนับสนุนในเรื่องต่างๆ ทั้งการหามหาวิทยาลัย รวมถึงอุปกรณ์การทำงาน ส่วนเรื่องเงินจากสปอนเซอร์ในแต่ละงาน เคยมีงานหนึ่งงบถูกสุด 5,000 บาท บางเทปถ่ายนอกสถานที่ แต่ยังให้เงินศิลปิน 1,500 บาทเท่าเดิม แม้โปรเจ็กต์ มพร.จะไม่สร้างกำไรให้บริษัท แต่มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ศิลปินได้อยู่หน้ากล้องจนคุ้นชินในวันที่น้องๆ ได้เป็นศิลปินจริงๆ

ทนายนิด้า กล่าวว่า กรณีที่พอร์สไม่พอใจกับการมาเป็นศิลปินของค่าย คือการดูแลในการเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัย ซึ่งช่วง ก.พ.ที่ผ่านมา ผู้ปกครองมาขอความช่วยเหลือในการหาสถานที่เรียน บริษัทก็ช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์เท่าที่จะทำได้ เช่น เรื่องเกรดการเรียนของน้อง จะสามารถเข้าเรียนที่ใดได้บ้าง บริษัทก็ช่วยหาข้อมูลต่างๆ พร้อมออกหนังสือรับรองว่าเป็นศิลปินในค่าย เพื่อนำไปขอทุนมหาวิทยาลัย จนน้องก็ได้เข้าเรียนในสถานศึกษาปัจจุบัน

โดยบริษัทก็มีหลักฐานเป็นแชทพูดคุยเช่นกันแต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะอาจกระทบกับตัวน้องเอง และเรายังไม่ได้รับความยินยอมจากน้อง แต่หากยินดีก็ขอให้แจ้งกับค่ายมา เพราะตอนนี้บริษัทไม่ทราบว่ามีเรื่องใดที่น้องไม่พอใจ

ทนายนิด้า กล่าวอีกว่า สำหรับไทม์ไลน์การออกซิงเกิ้ลของพอร์ส ระบุเป็นเดือนสิงหาคมอย่างชัดเจน มาดูไฟล์ต้นฉบับได้ อย่างไรก็ตาม 1 มิ.ย.ก่อนวันเปิดหมวกที่สยามสแควร์ ได้ติดต่อร้านต่างๆ เพื่อเช่าสถานที่ในการจัดแฟนมีต โดยเสนอชื่อศิลปินว่ามีพอร์สด้วย

จากนั้นวันที่ 3 มิ.ย.พอร์ส เล่นดนตรีที่สยามจนโด่งดังเป็นข่าว บริษัทจึงเพิ่งทราบว่าน้องมีวง Yes Indeed ที่มีสมาชิก 5 คน เพราะก่อนหน้านั้นพอร์สเล่นดนตรีกับน้องสาวเพียง 2 คนเท่านั้น แต่เราไม่ปฏิเสธว่าหลังมีเหตุสยามแตก เราถึงกลับมาเอาเพลงเดิมที่ทำร่วมกับเอก ซีซั่นไฟว์ แต่แรก

กรณีพอร์สบอกว่าค่ายปิดกั้น ค่ายไม่เคยไม่อนุญาต ไม่เคยปิดกั้น เช่น แชทที่ว่าน้องไปติดต่อเล่นดนตรีงานหนึ่ง พร้อมชวนคนในบริษัทไปดู ระบุว่าได้เงินมา 80,000 บาท มากกว่าของบริษัท โดยบริษัทก็ตกลง ไม่ได้ห้าม และยืนยันว่าไม่มีการรับเงิน 30,000 บาทจากห้างดังตามที่กล่าวอ้าง ตนได้ตรวจสอบการเดินบัญชีธนาคารของบริษัทเรียบร้อย

อย่างไรก็ตาม รายละเอียดในสัญญาระบุชัดเจนว่าห้ามพอร์สไปรับงานในเชิงธุรกิจเว้นแต่การเปิดหมวก เพราะเป็นธุรกิจเดียวกันกับงานที่ทำจนอาจเกิดการทับซ้อนจนบริษัทถูกฟ้องได้ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากบริษัทเป็นลายลักษณ์อักษรเท่านั้น ทั้งนี้ข้อเสนอจากค่าย ก็ขอให้แจ้งค่ายเรื่องการรับงานต่างๆ เพื่อที่จะจัดคิวงานของค่ายเอง ถือว่าเป็นตรงกลางและยืดหยุ่นมากแล้ว

“ตัวเองถือว่าสัญญาต้องเป็นสัญญา วันที่เข้ามาทำก็ทำโดยสมัครใจ หากมองว่าไม่เป็นธรรมก็เป็นสิทธิของเขา แต่เราดูแล้วว่าเราไม่ได้กระทำผิด จึงต้องปฏิเสธในการยกเลิกสัญญาดังกล่าว แม้พอร์สจะบอกว่าตัวเองเป็นอิสระจากค่ายก็ตาม ซึ่งเรามีสิทธิฟ้องตั้งแต่การที่พอร์ส ไปเล่นดนตรีในงานอื่นๆ ที่มากกว่าค่ายตัวเอง ซึ่งเราไม่ได้ฟ้องตั้งแต่แรก แต่ตอนนี้ยังไม่ได้กำหนดว่าหากพอร์สไม่มาพบก็จะฟ้องร้องดำเนินคดี” ทนายนิด้า กล่าวและว่า

บริษัทได้ให้พอร์ส ถือกางเกงบ็อกเซอร์จริง เพราะเป็นสินค้าที่สปอนเซอร์ของงาน มพร.แต่ไม่ได้บังคับให้ใส่ตามที่กล่าวอ้าง ซึ่งพ่อและพอร์สก็ไม่ได้แสดงอาการไม่พอใจตามที่ระบุไปก่อนหน้านี้ เว้นแต่พอร์ส จะให้เปิดคลิปการถ่ายทำที่ยังไม่ตัดต่อ เหมือนเป็นฟีลของน้องเองที่สวมบ็อกเซอร์ทับกางเกงที่ใส่อยู่เอง แต่ค่ายก็รับเรื่องไว้พิจารณาในการโปรโมทสินค้าต่อไป

ด้านนายธนายุทธ กล่าวว่า ทีมงานของบริษัท ได้คุยกับพอร์ส เรื่องทำเอ็มวี มีการพัฒนาศิลปินเรื่องการให้สัมภาษณ์ การพัฒนาบุคลิกโดยให้ส่งไปเรียนอีกด้วย

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_7176209
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_7176209