เอสเธอร์ ตอบปมเลิกเงียบ เคน หลังชาวเน็ตจับตาความสัมพันธ์เพราะไร้รูปคู่


ให้คะแนน


แชร์

ล่าสุดได้เจอเอสเธอร์ที่มาโปรโมตภาพยนตร์เรื่องใจฟูสตอรี่ ก็เลยอัปเดตถึงเรื่องความสัมพันธ์กับหวานใจหนุ่ม เคน ภูภูมิ ถึงเรื่องที่ถูกชาวเน็ตโยงว่าเป็นคู่รักดาราเลิกเงียบ ซึ่งเอสเธอร์ตอบว่า 

“เวลาโดนถามเรื่องความรักเยอะๆ หนูรู้สึกชิน เพราะจะโดนสัมภาษณ์ว่าเมื่อไหร่แต่ง เพราะเห็นคบกันมานานแล้ว ความสัมพันธ์จะเป็นยังไงต่อ ซึ่งหนูชินกับคำถามเหล่านี้ ไม่เครียดและกดดันเวลาที่ถูกถามว่าเมื่อไหร่จะแต่ง 

แต่พอไม่มีรูปคู่กันลงโซเชียลก็จะถูกจับตามองว่าเลิกกัน ระหองระแหง แต่เราก็ไม่คิดจะถ่ายรูปคู่กันลงโซเชียลเพราะจะแก้ข่าว (ยิ้ม) เรื่องนี้หนูตอบบ่อยจนไม่รู้จะตอบยังไงแล้วค่ะ เพราะถ้ามีจังหวะดีๆ หรือมีโอกาสไปไหน รูปถ่ายสวยๆ เราก็ลงไว้เป็นโมเมนต์

แต่ ณ ตอนนี้ด้วยโควิด ไม่ได้ออกไปไหนเลย และเริ่มกลับมาทำงานเยอะ เลยไม่ได้โฟกัสตรงนั้น ไม่ได้ใส่ใจตรงนั้น เลยไม่ได้มานั่งคุยกันกับพี่เคนว่าเรามาลงรูปกันเถอะ แต่ยืนยันว่าความรักยังปกติ เหมือนเดิมเรื่อยๆ ค่ะ”

สรุปคือความรักของ เคน และ เอสเธอร์ ยังแฮปปี้ดี ไม่ได้เป็นคู่รักดาราเลิกเงียบอย่างที่หลายคนสงสัย เราจึงถามเอสเธอร์ต่อทันทีว่า ตลอดระยะเวลา 7 ปีคบกันมา มันก็เป็นเวลาที่นาน มีเคล็ดลับในการดูแลความรักของเราอย่างไรบ้าง

“การดูแลความรักก็ไม่มีอะไรมากเลยค่ะ แค่ถ้ามีอะไรที่ไม่พอใจ อะไรที่ไม่โอเค หนูจะพูดทันที บอกทันทีว่าไม่โอเคตรงนี้นะ และคุยกันเรื่องที่เกิดขึ้น จะไม่เป็นคนเก็บ เพราะการเก็บถ้ามันเยอะมากเกินไปมันจะกลายเป็นระเบิดลูกใหญ่ และจะไม่เอาเลย หนูเลยต้องคุยและเคลียร์กันเลย ณ ตอนนั้น ไม่เก็บค่ะ 

แต่พี่เคนเขาเป็นผู้ชายมากๆ ผู้ชายที่หนูเข้าใจในความเป็นเขา เขาเป็นผู้ชายที่ไม่ค่อยพูด ไม่ค่อยสื่อสาร เราก็เข้าใจในจุดนั้น หนูก็เลยเป็นคนที่เข้าหาเขา และพูดคุยก่อนตลอด ถ้าในเรื่องละเอียดอ่อน ความเป็นผู้หญิง 

ส่วนเรื่องที่ต้องปรับเข้าหากัน คือเรื่องนิสัยของเราที่ต้องปรับหากันเรื่อยๆ ความเป็นตัวเองที่ยังมีอยู่ แต่ก็พยายามเข้าใจในแบบของเขา เขาก็พยายามเข้าใจในแบบของหนู ซึ่งพอมันเข้าใจกันแล้วมันก็ยอมรับกันได้ เพราะมันผ่านจุดที่ปรับกันมาแล้ว 

มันจะไม่เป็นเหมือนตอนที่หนูซ่อนรูปแล้วเพราะเราโตขึ้นแล้ว แต่ตอนนั้นเรายังไม่มีภูมิ แต่ตอนนี้มีภูมิแล้ว (หัวเราะ) ก็เลยเป็นความเข้าใจและยอมรับกันค่ะ

ตอนที่ซ่อนรูปตอนนั้นความรู้สึกของหนูมันหนักมากนะ ไทม์ไลน์มันกินเวลายาว เราไม่คุยกัน เพราะเราคาดหวังว่าเขาจะสนใจเรา แต่มันไม่ใช่อย่างนั้น (หัวเราะ) เขาเป็นผู้ชายมาก เขาไม่มีนิสัยเหมือนผู้หญิง ก็เลยเป็นแบบนั้น 

ส่วนการเติมหวานคู่เราแทบไม่มีอะไรที่เป็นพิเศษเพื่อเติม แต่ของคู่หนูเป็นแบบชีวิตประจำวันทั่วไป เรียบง่าย ดูแลกันและกัน เป็นห่วงเป็นใย กินข้าวหรือยัง ต้องช่วยเหลือกันเท่าที่ช่วยได้

คู่เราใช้ชีวิตแบบทั่วไปกันจริงๆ ค่ะ ไม่มีอะไรที่ต้องพิเศษ เรา 2 คนชอบอะไรที่เรียบง่าย ไม่ชอบอะไรเยอะๆ ก็เลยเป็นแบบนี้ตั้งแต่ต้น นานๆ เราจะออกไปกินข้าวนอกบ้าน เพราะคู่เราไม่ชอบออกไปไหน 

แต่มุมความน่ารักของพี่เคนคือ เขาเป็นคนที่น่ารักมาก เวลาที่เขาเห็นว่าหนูสนใจอะไรหรืออยากได้อะไร เขาก็จะซื้อให้หนู ก็เลยไม่เคยต้องไปขอเขาว่า หนูอยากได้อันนี้จังเลย เพราะเขาซื้อให้ตลอด เขาเป็นคนใจกว้าง ซึ่งมันดีจังเลย (ยิ้ม)

แต่เขาไม่เคยขออะไรจากหนูเลย คบกันปี 2 ปีแรก หนูมีซื้อของขวัญให้เขา แต่หลังๆ ไม่มีเลย (หัวเราะ) กลายเป็นหนูที่ไม่มีให้เขา เขาไม่โฟกัสด้วยว่าหนูไม่มีอะไรให้เขาเลย (หัวเราะ)

มันเป็นการแสดงความรักในรูปแบบของพี่เขาค่ะ เขาอาจจะไม่ใช่ผู้ชายละเอียดที่ดูแลสภาพจิตใจเราทุกประการ แต่เขาเป็นคนแสดงความรักแบบนี้ค่ะ

และเขาเป็นคนไม่มีปากไม่มีเสียง ยิ้มอย่างเดียว เขาเป็นคนพูดน้อยมากค่ะ แต่ไม่ได้เป็นตั้งแต่แรกนะคะ ช่วงที่จีบกันใหม่ๆ พูดเยอะ แต่พอต่างคนต่างเป็นตัวเองก็พูดน้อย เพราะเรื่องที่พูด พูดไปหมดเลย (ยิ้ม)

เพราะแบบนี้เลยทำให้เรายังไปต่อด้วยกันได้ เพราะถ้านิสัยเหมือนกันหมดทุกอย่างก็คงจะไม่รอด คงจะตีกัน คู่หนูเป็นแบบนี้ (ยิ้ม) หนูรู้สึกว่าเราคบกันมานาน เหมือนเป็นคนในครอบครัวเดียวกันไปแล้ว

ก็เลยรู้สึกว่าทุกอย่างลงตัวแล้ว ถ้าเหมือนขาดเขาไปก็คงเหมือนคนขาหักไปข้างหนึ่ง ถ้ามีเขาอยู่ด้วยก็เหมือนมีแขนขาครบ ตอนนี้หนูรู้สึกแบบนั้นอยู่ 

ส่วนเรื่องความเจ้าชู้ของพี่เขา ไม่มีมาให้หนูต้องหนักใจเลยค่ะ จากที่เมื่อก่อนตอนแรกๆ มีคนเคยบอกว่าให้ระวังเอาไว้ (หัวเราะ) รู้สึกโชคดีที่ไม่มีเรื่องแบบนี้ ไม่งั้นคงจะปวดหัวแย่”

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2457366
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2457366