ดีเจมะตูม เพิ่งรู้ยายปิดบังป่วยลูคีเมียก่อนเสียชีวิต ไม่อยากให้ลูกหลานลำบาก


ให้คะแนน


แชร์

ตอนนี้ความรู้สึกเราเป็นยังไง?
“ดีขึ้นตามลำดับครับ ประมาณ 90% แล้วก็จะมีบางช่วงที่เห็นคนแก่เดินทางหรือคนทักมันก็ยังมีรู้สึกบ้าง แต่เวลาที่เราจะดาวน์ หรือเราจะร้องไห้ ถ้ายายอยู่จะบอกว่าอย่าร้อง ก็จะมีประมาณนี้ครับ ซึ่งเขาเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งมาก เข้มแข็งมาก”

วันนั้นมันเกิดอะไรขึ้น?
“ช่วงก่อนที่คุณยายจะเสีย คุณแม่ได้ทักมาว่าคุณยายเข้าโรงพยาบาลแต่ไม่ได้เป็นอะไรหนักมาก ซึ่งคุณหมอบอกว่าคุณยายหมดแรงอยู่ที่บ้านสวน เราก็รีบไปดูที่โรงพยาบาล ซึ่งตอนนั้นดึกมากแล้วไปก็เห็นคุณยายนอนปกติ เขาก็ยังทักเราปกติสื่อสารปกติเลย ซึ่งพอเราไปหาคุณยายเสร็จแล้วเราก็ออกมา คุณหมอก็เลยบอกว่าให้ทำใจ เราก็เลยตกใจว่าเกิดอะไรขึ้นเหรอ จากผลตรวจชิ้นเนื้อคุณยายเป็นลูคีเมียระยะสาม ซึ่งไม่มีใครในครอบครัวที่รู้เลยสักคนเดียว

ซึ่งก็จะมีหลานอีกคนนึงที่พาคุณยายไปหาหมอ แต่เวลาฟังผลตรวจคุณยายเค้าจะเก็บเงียบคนเดียว แต่เหมือนว่าคุณยายปฏิเสธการรักษา ซึ่งเค้าเคยพูดกับแม่เราว่าถ้าให้เลือกระหว่างไปเลยกับที่จะต้องมาเจาะท่อเจาะอะไร หรือให้คีโมผมร่วงเค้าไม่เอา เค้าต้องสวย เค้าจะไม่ยอมไม่สวย พอวันที่ 11 ตอนกลางคืนจะทำเรื่องย้ายให้คุณยายเป็นห้องพิเศษ เพราะตอนนั้นคุณยายอยู่ในห้องกักเชื้อที่เป็นกระจกใสยังเข้าพบไม่ได้ เราก็เลยอยากให้เขาได้อยู่ในที่ที่ดีกว่านี้ ให้ลูกหลานไปไหว้ในวันแม่ แต่สุดท้ายก็ต้องเอาพวงมาลัยไปให้ที่วัดเพราะไม่ทัน

ซึ่งนี่น่าจะเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตของเรา เพราะคุณพ่อคุณแม่ก็ยังอยู่ครบหมด แต่คุณยายเป็นคนที่เราโตมาด้วยจริงๆ เพราะเขาเป็นคนเลี้ยงเรามาตั้งแต่เด็ก ซึ่งแม่ไปทำงานต่างประเทศ พ่อไปทำงานต่างประเทศ เราอยู่กับคุณยายมาตั้งแต่เด็กจนอายุ 16-17 เพราะฉะนั้นความสัมพันธ์เราระหว่างยายหลานมันแน่นแฟ้นมาก จนเราไม่คิดว่ามันจะเป็นความจริง

ส่วนตัวเราเองคิดว่าไม่น่าจะแข็งแกร่งเท่าคุณยาย แต่เราพยายามที่จะเอาบางอย่างไว้ในตัวเราให้ได้ เพราะเราก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขเขา ซึ่งคุณยายจะสอนเราตลอดเวลาเราล้มแล้วต้องลุกให้ได้ เราจะคุยกันทุกเรื่องกับคุณยาย เคยคุยแม้กระทั่งจะกลับมาในวงการบันเทิงยังไงด้วยซ้ำ ซึ่งคุณยายก็นั่งวางแผนให้เลยว่าไม่ต้องไม่ซื้อของแพงๆ รอบนี้กลับมาเก็บเงิน เขาจะบอกให้เก็บเงินไม่ต้องใช้เงินเยอะ อย่าไปซื้อของแพง อย่าไปคบเพื่อนกลุ่มไฮโซมาก ภาษีสังคมมันแพง

ส่วนจุดเริ่มต้นการทำ YouTube กับคุณยายมาจากหลังจากที่เราสึกบวชพระแล้วไปกราบขอขมาคุณยาย เราก็เตรียมทีมงาน YouTube ไปด้วย เพราะรายการออกมาทีมงานก็บอกว่าคุณยายโบ๊ะบ๊ะมาก เหมาะที่จะเอามาทำรายการด้วยกัน เพราะออกอากาศไปกระแสตอนนั้นคือดีมาก เพราะแฟนคลับเรียกร้องอยากให้เรากับคุณยายมีรายการด้วยกัน เราก็เลยไปถามยาย คุณยายก็เลยบอกว่ายายอยากทำ ยายอยากทำให้คนรักหนู”

เรียนรู้อะไรจากการสูญเสียใหญ่ครั้งนี้?
“เยอะมากเลยครับ เรียนรู้ทุกช่วงเวลาทุกวินาทีให้เกิดประโยชน์และคุณค่ากับคนที่เรารัก โดยเฉพาะครอบครัวมันมีความสำคัญมากขนาดไหน เมื่อก่อนเวลาแม่ตูมจะขอกินข้าวต้องเช็กคิวจากผู้จัดการ ตูมไปโฟกัสที่งานที่เงินมากเพราะเราอยากสำเร็จ แต่พอวันที่เราได้บ้านแล้วแต่ไม่มีเขา ตูมมานั่งถามตัวเองว่าทำไมเราไม่เคยพาเค้าไปกินอันนี้นะ แต่มันจะมีบางอย่างที่เราโทษตัวเองนิดนึง

แต่เราเชื่อว่าเราทำดีที่สุดแล้วในฐานะหลาน การจากไปของเขามันเป็นการเสียสละ ขอเลือกที่จะไม่ให้เรารับผิดชอบชีวิตป่วยของเค้า เลือกที่จะไปเลย งั้นแสดงว่าเขาต้องการให้พวกเราดูแลรักใคร่สามัคคีกันในครอบครัว ช่วยเหลือกันและกัน”.

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2495941
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2495941