ฉอด-เอส ปรับบท พิ้งกี้ ยันไม่เสียอรรถรส กระทบเรตติ้งมั้ย ให้คนดูตัดสิน


ให้คะแนน


แชร์

ฉอด สายทิพย์ – เอส วรฤทธิ์ ปรับบท พิ้งกี้ ละครดงดอกไม้ ยันไม่เสียอรรถรส กระทบเรตติ้งมั้ย ให้คนดูตัดสิน ไม่ก้าวล่วงปัญหาส่วนตัวนักแสดง

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

สองผู้บริหารค่าย เช้นจ์ 2561 ฉอด สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา และ เอส วรฤทธิ์ ไวยเจียรนัย เปิดเผยความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาละคร ดงดอกไม้ ที่นางเอกสาว พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช ร่วมแสดงนำ ขณะที่ พิ้งกี้ ถูกจับเข้าเรือนจำในคดีแชร์ลูกโซ่ฟอเร็กซ์ 3D ตั้งแต่วันที่ 18 ส.ค. 65 ที่ผ่านมา

ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 ก.ย. 2565 “ฉอด-เอส” ที่จัดงานบวงสรวงละครเรื่องใหม่ ฟ้า/ทาน/ตะวัน ณ สถานีโทรทัศน์ อมรินทร์ทีวี ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน อัพเดตความคืบหน้าละคร ดงดอกไม้ ในวันที่ไม่มี พิ้งกี้ สาวิกา มีการปรับบทบางส่วน เปลี่ยนตัวไม่ได้แน่นอน เพราะถ่ายทำไปเยอะแล้ว ยืนยันไม่เสียอรรถรสในการรับชม สำหรับบทสรุปตัวละครที่พิ้งกี้แสดงจะเป็นอย่างไรนั้น ไม่อยากสปอยล์เนื้อหาก่อน ส่วนกระแสข่าวของนางเอกสาวจะมีผลต่อเรตติ้งหรือไม่นั้น ให้คนดูตัดสิน ส่วนตัวเองไม่อาจก้าวล่วงปัญหาส่วนตัวของนักแสดง เผยพิ้งกี้ทำหน้าที่ในการแสดงเต็มที่ที่สุดแล้ว

ละครเรื่อง ดงดอกไม้ ที่มีพิ้งกี้ ตอนนี้ตกลงเป็นยังไง? ฉอด : “ก็อย่างที่เล่าไปคราวที่แล้วว่าละครเรื่องดงดอกไม้มีกำหนดที่จะต้องออกอากาศชัดเจนในเร็วๆ นี้นะคะ เพราะฉะนั้นตอนนี้ก็ต้องมีวิธีการในการแก้ปัญหาไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการปรับบทนิดหน่อยบางส่วน และมีการปรับแก้ในช่วงตอนต้นๆ คือลักษณะการถ่ายละครมันก็อาจจะมีลักษณะฟันหลอ ก็ทำงานไปแล้วค่ะในเรื่องของทางคนเขียนบทเองกับทางพวกเราผู้กำกับฯ ก็ยังยืนยันอยู่ว่าเราไม่ได้เปลี่ยนแปลงในเรื่องของตัวพิ้งกี้ และเราถ่ายไปค่อนข้างเยอะมากแล้ว เพราะฉะนั้นมีปัญหาปรับบทนิดหน่อยแค่ช่วงท้ายๆ เท่านั้นเองค่ะ

ช่วงที่บอกว่าฟันหลอเราแก้ไขยังไง? ฉอด : “พอดีบังเอิญอาจจะถือว่าเป็นความโชคดีของกองที่ซีนที่ยังไม่ได้ถ่ายนั้น ไม่ได้มีความสำคัญมากจนถึงกับเอาออกไม่ได้ หรือในบางซีนบางฉากก็จะมีคนอื่นๆ พูดแทนบ้าง ยืนยันว่าไม่เสียอรรถรสของการดูละครค่ะ คนดูยังสนุกกับพิ้งกี้ได้อย่างเต็มที่ สนุกกับนักแสดงทุกตัวละครในดงดอกไม้ได้อย่างเต็มที่ค่ะ”

อย่างบางคนถ้ามีปัญหาแบบนี้อาจจะเปลี่ยนนักแสดงไปเลย แต่เราเลือกที่จะปรับบทแทน? ฉอด : “อย่างที่บอกค่ะว่าถ้าเปลี่ยนคือต้องกลับไปถ่ายใหม่เลยค่ะ (ยิ้ม) เพราะเราถ่ายมาจนใกล้จะเสร็จอยู่แล้ว ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะเปลี่ยน ถ้าต้องไปเริ่มถ่ายใหม่นั่นหมายความว่าคิวนักแสดงทั้งหมด ซึ่งตอนนี้เขาก็มีคิวที่จะไปต่อเรื่องอื่นกันแล้ว เราจะมาเริ่มต้นใหม่ก็คงเป็นไปไม่ได้”

เรื่องนี้คนน่าจะจับตามองเป็นพิเศษ? ฉอด :ก็คิดว่าเป็นคนละเรื่องกันนะคะ ไม่ว่าเหตุการณ์ใดๆ ที่เกิดขึ้นในเรื่องของปัญหาส่วนตัว อย่างที่บอกว่าเราคงไม่ไปก้าวล่วงในตรงนั้น แต่ในเรื่องของนักแสดง พิ้งกี้ก็ยังเป็นนักแสดงที่ทำหน้าที่ของเขาเองอย่างดีที่สุดตลอดมา และมาถึงตรงนี้แล้ว พองานออกไปก็เข้าใจว่าคนดูก็คงจะดูที่การแสดง ดูที่ละคร ดูที่บทและนักแสดงอื่นๆ ที่ร่วมด้วย ก็คงจะเป็นอย่างนั้นมากกว่า เข้าใจว่าอย่างนั้นนะคะ”

ถ้าแบบนี้ในบทพิ้งกี้ต้องตายมั้ย หรือปรับบทยังไง? ฉอด : “คือจริงๆ เขาก็จะต้องมีความเป็นไปอยู่แล้วค่ะ ในความเป็นไปของบทตัวนี้ (ยิ้ม)”
เอส : เผอิญมันเป็นจุดจบของตัวละคร ถ้าพูดตรงนี้ก็สปอยดล์อีก แต่มันพอดีกันครับ”
ฉอด : “ไม่ใช่อยู่ๆ ไปเขียนให้หายไปค่ะ”

แสดงว่าในคาแร็กเตอร์คือต้องตายอยู่แล้ว? เอส : คือเส้นเรื่องของตัวพิ้งกี้ก็ยังอยู่เหมือนเดิมครับที่เราวางไว้”

บทนื้ไม่มีคนมาเล่นแทนใช่มั้ย? ฉอด : “ไม่มีค่ะ เล่นแทนไม่ได้ (ยิ้ม)”

แสดงว่าบทนี้คือมีอันเป็นไปเรียบร้อยแล้ว? เอส : “เรียกว่าเป็นจุดจบของตัวละครแล้วกัน (ยิ้ม)”
ฉอด : “คือมันมีความสปอยล์ของละครอยู่ ก็เลยยังไม่อยากพูด แต่พูดได้แค่ว่ามันไม่กระทบกระเทือนถึงขั้นทำให้คนดูรู้สึกว่าทำไมอยู่ๆ เดินมาแล้วก็หายไป ไม่มีค่ะ”

คุยกันยังไงกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้? ฉอด : “คุยกันอยู่แล้วค่ะ ทั้งคุณเอส ทั้งเรา ทั้งคนเขียนบท ผู้กำกับฯ เราก็ประชุมและคุยกันหาว่าตรงไหนต้องแก้ยังไง”

เป็นเรื่องยากมั้ย? ฉอด : “ไม่เป็นไรค่ะ เราก็เจอเรื่องยากๆ มาเยอะแล้ว (หัวเราะ)”

เรื่องการตัดต่อต้องทำยังไง? เอส : “อย่างที่บอกว่าละครเรื่องนี้ถ่ายทำมาเยอะแล้ว และซีเคว้นซ์ที่เป็นซีเคว้นซ์ที่สำคัญใหญ่ๆ มันถ่ายไปหมดแล้ว ส่วนบางซีนที่ยังคงค้างมันสามารถแก้ไขได้ด้วยการปรับบท หรือโยนไดอะล็อกบางอย่างลงไปได้ สามารถเชื่อมต่อกันได้ และโชคดีว่าซีนที่เหลืออยู่ในซีเคว้นซ์ต่างๆ มันไม่ได้เยอะมากครับ และอยู่ในช่วงท้ายประจวบเหมาะพอดีที่จุดจบของตัวละครตัวนี้เราวางไว้แบบนี้ มันก็เลยโอเค ค่อนข้างลงตัว ไม่ได้ถึงกับยากมากในการแก้ไขปัญหา เพราะซีนที่มันหลงเหลืออยู่พอไปไล่ดูจริงๆ ก็ต้องยอมรับว่าตอนแรกๆ พอทราบข่าวก็เครียด แต่พอมานั่งไล่ทำการบ้านดูแล้ว ก็โอเค เราแก้ได้

แสดงว่าจุดเริ่มต้นกับจุดจบมีอยู่แล้ว แต่ตรงกลางต้องถ่ายเพิ่มเติม? เอส : “เรียกว่ามันแทบไม่ได้ตัด คือตั้งแต่เกิดปัญหาขึ้นมาก็ไม่ได้ทำให้ตัวละครตัวนี้ดูเบาบางลง หรือน้ำหนักมันหายไป ต้องบอกว่าตัวเกลียวเกศเป็นตัวเดินเรื่องเลย เป็นตัวสำคัญมาก
ฉอด : “และเผอิญตอนช่วงถ่ายทำกันตลอดมา พอดีพิ้งกี้ก็จะมีคิวเยอะ ก็เลยซัดกันไปเต็มหมดแล้ว เหลือน้อยมาก”

กลัวว่ากระแสละครจะไปอิงกับข่าว ทำให้มีปัญหามั้ย? ฉอด :อันนี้ก็ต้องแล้วแต่คนดูนะคะ เพราะอย่างพวกเราทำงานเราก็ตั้งใจทำงานกันที่สุด รวมถึงการแก้ปัญหาต่างๆ อย่างดีที่สุด แต่คนดูจะชอบไม่ชอบ หรือจะมีข้อวิจารณ์ในเรื่องใดๆ ก็เป็นสิทธิ์ของคนดู พวกเราก็ทำได้แค่ทำให้ดีที่สุดในหน้าที่ของเรา

ได้อัพเดตข่าวจากทางพิ้งกี้บ้างมั้ย? ฉอด : “รู้ข่าวเท่าๆ กับทุกคนเลยค่ะ (ยิ้ม)”

ยังยืนยันว่าออนแอร์วันเวลาเดิม? ฉอด : “เหมือนเดิมค่ะ” เอส : “ตอนนี้ก็เหลืออีกไม่เยอะมากแล้วครับ ประมาณ 20% ต้องทันครับ (ยิ้ม) ชินแล้วครับ”

เห็นว่าจะมีโอกาสร่วมงานกับ ทับทิม อัญรินทร์? ฉอด : “คือเราเองก็ฟอลโลว์ไอจีคนอยู่ประมาณ 700 กว่าคนเนอะ ก็เลยคิดว่าการฟอลโลว์ไอจีมันมีผลสำคัญขนาดนั้นเลยเหรอ ต้องเรียนว่าไม่ว่านักแสดงคนไหนก็ตามที่ยังมีสัญญาใดๆ กับช่อง ทางเชนจ์เองเราไม่มีสิทธิไปก้าวล่วงใดๆ อยู่แล้ว แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่น้องๆ หมดสัญญาและตัดสินใจที่จะไม่ต่อสัญญากับช่อง อันนั้นเราถึงสามารถเข้าไปทำงานด้วยได้ อันนี้ก็เป็นกติกาสากลค่ะ จากที่มีคนชอบพูดกับว่าเชนจ์หรือพี่ฉอดชอบไปอะไรยังไง คือเราไม่สามารถมีส่วนเข้าไปในการตัดสินใจของน้องๆ ได้นะคะ เพราะว่าการที่อยู่กับช่องใดๆ มา ช่องใหญ่ๆ และบอกว่าจะไม่ต่อสัญญา อันนั้นก็เป็นเรื่องใหญ่ในชีวิตเขามาก เชนจ์ก็เป็นบริษัทผู้ผลิตเล็กๆ เองค่ะ เพราะฉะนั้นเราไม่สามารถที่จะไปชักจูง ชักนำหรือดึงอะไรได้เลยนะคะ เราก็ได้แต่รอว่าแล้วแต่ว่าใครที่สามารถมาทำงานกับเราได้ ก็ถ้ามีบทที่เหมาะสมกับเขาคนนั้น เราก็จะได้ทำงานกัน เหมือนอย่างน้องๆ หลายคนที่เป็นอยู่ตอนนี้ (ยิ้ม)”

มีบทที่เหมาะสมกับทับทิมหรือยัง? ฉอด : “ก็ต้องรอจนกว่าน้องจะตัดสินใจว่าน้องจะออกจากช่องแน่ๆ อันนี้เรายังไม่ทราบ นี่ก็เพิ่งเป็นข่าว เราทุกคนรู้ข่าวเท่าๆ กัน (ยิ้ม) จริงๆ นักข่าวรู้ก่อนพวกเราอีก (หัวเราะ)”

กดดันมั้ย คนจะมองว่าพอใครหมดสัญญาก็อยากมาอยู่กับเรา? ฉอด : “ไม่ค่ะ เราถือว่าน่าจะเป็นเรื่องดีๆ ด้วยซ้ำไป เพราะทางเชนจ์เราก็ไม่ได้มีนักแสดงเป็นของตัวเอง ก็มีแต่น้องๆ เด็กๆ อยู่ เพราะฉะนั้นถ้ามีนักแสดงเก่งๆ อยากมาร่วมงานกับเราก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีค่ะ (ยิ้ม)”

แต่กับทับทิมยังไม่ได้มีการคุยอย่างเป็นทางการใช่มั้ย? ฉอด : “ต้องรอจนกว่าแต่ละคนจะหมดสัญญาค่ะ ไม่อย่างนั้นเราก็ไม่สามารถไปทำอะไรได้ ข่าวก็ยังเป็นข่าวต่อไปค่ะ แต่การฟอลโลว์ไอจีก็ฟอลโลว์ไปเรื่อยๆ เลยนะคะ (หัวเราะ) เราเจอใครเราก็ฟอลโลว์ พอเห็นมีข่าวว่าพี่ฉอด พี่เอสฟอลโลว์น้อง เราก็ยังตกใจเลยว่าการฟอลโลว์ไอจีมันเป็นเรื่องขนาดนี้เลยเหรอ (หัวเราะ) ต่อไปนี้จะระวังแล้ว ไม่กล้าฟอลโลว์ใครแล้ว (หัวเราะ)”

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_7261088
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_7261088