ศรีสุวรรณ เห็นต่าง สนับสนุน โตโน่ ภาคิน ว่ายข้ามโขง ขอให้ทำดีต่อไป
กระแสสังคมตอนนี้ให้ความสนใจเป็นอย่างมากสำหรับ คนดังสุดฮอต พี่ศรี หรือ ศรีสุวรรณ ที่ก่อนหน้านี้โดนทำร้ายในขณะเดินทางไปร้องเรียนที่ ปอท. เกี่ยวกับกรณีของ โน้ต อุดม
ล่าสุดเจ้าตัวออกมาเปิดใจกับพิธีกรชื่อดัง หนูแหม่ม สุริวิภา ในรายการโต๊ะหนูแหม่ม พร้อมเผยความรู้สึกหลังได้โพสต์ถึงประเด็นนักร้องดัง โตโน่ ภาคิน ออกมาว่ายน้ำข้ามโขง ระดมทุนช่วยเหลือโรงพยาบาล
ตอนที่โพสต์รู้สึกอะไร?
คือจริงๆ ในคำพูดแบบนี้ก็มีการพูดถึงอยู่ในโซเชียลเยอะแยะเต็มไปหมด มันเป็นเรื่องที่แปลกในสังคมไทยในขณะนี้คนที่ไปทำกิจกรรมเพื่อช่วยเหลือสังคมอย่างน้องโตโน่ไปว่ายน้ำขอบริจาครับเงินช่วยเหลือโรงพยาบาล ผมมองว่าเป็นกิจกรรมที่ดี
แต่ก็มีหลายคนที่ออกมาตำหนิติเตียนเยอะแยะเลยในโซเชียล ซึ่งเรื่องนี้เค้าวางแผนกันมาหลายปี ผมเคยได้ยินข่าวว่าเค้าเคยไปภาคตะวันออกไปยังที่ต่างๆ เรียกว่าเค้ากระตุกความคิดว่าเราต้องรักษาสิ่งแวดล้อม
โดยเฉพาะสิ่งแวดล้อมทางน้ำ อย่าไปทิ้งขยะ ผมมองว่าเป็นกิจกรรมที่ดี แต่บางคนก็พยายามจะมาแซว มาแซะเขา ถึงแม้ว่าจะเป็นกิจกรรมที่หาเงินช่วยเหลือโรงพยาบาล ผมว่าเป็นกิจกรรมที่ดี คือถ้าเราไม่ชอบ อาจจะไม่ชอบเพราะโตโน่ไม่หล่อเท่าศรีสุวรรณก็อยู่ในใจพอ
วันนี้มีคนตามมาดูแลไหม?
มีๆ เดี๋ยวนี้ไปไหนมาไหนต้องมีเพื่อนไปด้วยตลอด แต่คนที่จะต่อยเราคงไม่มีมาเพิ่มแล้วแหละ เค้าอาจจะมองเห็นสีเสื้อผมที่ดูโดดเด่น แต่ประเด็นก็คือ คือว่ากิจกรรมที่ช่วยเหลือเพื่อประโยชน์สังคมนี้บางคนจะสนับสนุน แม้เราไม่เห็นด้วยก็ควรจะอยู่ในใจ ไม่ควรแสดงออก เพราะว่าในโซเชียลที่ตำหนิ มันทำให้คนที่มีเจตนาอยากจะเข้ามาทำแบบนี้เค้าท้อถอย
แล้วเรื่องล่าสุดของพี่ที่โดนทำร้าย?
เรื่องนั้นผมดำเนินคดีกับผู้ที่ทำร้ายผมไปแล้ว เพราะว่าไม่มีคำขอโทษจากเขาเลย และศรีสุวรรณก็สะกดคำว่าขอโทษไม่เป็นเลยจริงๆ ถ้ายกกระเช้ามาขอโทษ ก็ไม่มีคำว่าให้อภัย ไม่ถอนฟ้อง
เรื่องแบบนี้เป็นไปตามครรลองของกฎหมาย มิฉะนั้นมันจะกลายเป็นแบบอย่างของหลายคนที่ชอบคนดังไม่จำเป็นต้องเฉพาะผม แล้วไปเปิดรับบริจาคได้เป็น 1,000,000 ซึ่งเราทำงานแทบตายได้ค่าแรง 300-400 บาท เดือนหนึ่งก็ 10,000-20,000 เท่านั้น
ไปยุ่งอะไรกับโน้ตเค้า?
ผมก็ไม่ได้คัดค้านคำพูดของเค้าทั้งหมดบนเวที แต่มันมีคำพูดบางคำที่เป็นการส่งเสริมให้คนไปกระทำไม่ดี โดยเฉพาะที่เค้าบอกในลักษณะที่ว่า รถติดมากหน่อยอย่าไปตำหนิเขาเลย เพราะเค้าไปทำหน้าที่แทนเรา
คำพูดแบบนี้ผมมองว่ามันเป็นเรื่องของการสนับสนุนให้มีม็อบซึ่งสองสามปีที่ผ่านมาผมไม่เห็นด้วย เพราะเป็นม็อบที่ผิดกฎหมาย เพราะฝ่าฝืน พ.ร.บ.ฉุกเฉิน ฝ่าฝืนกฎของนายกรัฐมนตรี
ซึ่งม็อบเหล่านี้ถือว่าเป็นการแตะต้องระบบพระมหากษัตริย์ ซึ่งเราไม่ยอมอยู่แล้ว เดินหน้าดำเนินคดีเยอะแยะมากมายกับคนเหล่านี้เท่านั้นเอง เพราะฉะนั้นเมื่อเดี่ยว 13 ออกมาให้ท้าย ผมก็ฉุนเลย
ถึงยังไงผมจะโกรธขนาดไหน ผมก็ไม่คิดจะไปชก หรือทำร้ายโน้ต แต่ผมใช้กระบวนการทางกฎหมาย ก็คือไปร้องเรียนผู้เกี่ยวข้องเท่านั้นเอง ให้เค้าวินิจฉัยว่ามันผิดหรือไม่ผิด
ตอนถูกชกอายไหม?
ไม่อายครับ แต่ว่ามันเจ็บใจมากกว่า เพราะว่าเราทำหน้าที่ เราไม่ใช้กำลัง เราไม่ใช้ถึงเนื้อถึงตัว แม้เราจะเห็นความขัดแย้งในสังคม แต่ว่าเรามาทำหน้าที่ในตามทำนองของกฎหมายที่รัฐธรรมนูญให้การรับรอง
อาชีพหลักของเราคืออะไรตอนนี้?
หน้าที่หลักของผมคือร้องคดีให้กับชาวบ้าน ที่บ้านห้องทำงานผมเต็มไปด้วยสัมภาระเอกสารหลาย 1,000 คดี ไปถามได้ว่ามีทนายคนไหนที่ทำคดีเยอะเท่าผมบ้าง 4,000-5,000 พอดี และผมช่วยเหลือด้วยใจ ไม่เคยคิดค่าตอบแทน แต่เค้าก็จะมอบสินน้ำใจ ค่ารถ ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ให้กับเรา.
ดูข่าวต้นฉบับ
ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2532798
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2532798