โดยสาว ศิตา พูดถึงบทบาทใน “ป้อมปางบรรพ์” ว่า “รับบทเป็นกระต่าย เป็นสาวเนิร์ดกระฉับกระเฉง ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการนักแสดง เจ้ากี้เจ้าการนั่นนี่ตลอด เป็นเส้นเรื่องที่คอมเมดี้มากกว่าคนอื่น อย่างตัวพระนางก็จะปะทะอารมณ์กันตลอด เราเองที่คอยอยู่ประกบนางเอก ก็จะคอยห้ามทัพไม่ให้ตีกัน แต่จะออกเป็นแนวโก๊ะๆ”

การมาทำงานกับทางค่ายดีด้า และช่อง 7 เป็นครั้งแรกเป็นไงบ้าง?

“ก็แฮปปี้ค่ะ ทีมงานน่ารัก เพื่อนๆในกองก็น่ารัก กับพี่ลอร์ดก็คือไม่เคยร่วมงานด้วยเลย แรกๆก็ตื่นเต้นเพราะว่าเป็นการทำงานครั้งแรก แต่ทุกคนน่ารักเป็นกันเองเลยช่วยลดความกดดันไปได้เยอะมากเลย ในกองก็จะสนิทกับแก้มที่สุด เพราะว่าเข้าฉากด้วยกันเยอะมากค่ะ ส่วนฉากที่ประทับใจจะเป็นคิวบู๊ เพราะว่าขึ้นสลิงครั้งแรก ไม่เจ็บตัวนะ ชอบมาก คิดว่านี่แหละทางที่รอมาตลอด สำหรับพี่ไม้ที่เล่นคู่กัน ก็น่ารักมาก ตอนแรกก็เกร็งหน่อย เพราะไม่เคยทำงานกันมาก่อน แล้วพี่ไม้พูดเพราะ สุภาพมาก แต่พอทำงานด้วยแล้ว พี่เค้าน่ารัก คอยแนะนำ หลังๆหนักไปทางแซวจนชิน ก็สนุกเลย”

ที่หายไปคือไปทำธุรกิจ?

“ใช่ค่ะ นี่กลับมารับงานละครในรอบ 3 ปี หลังจากที่เล่นเรื่องมาตุภูมิแห่งหัวใจ และหันไปทำธุรกิจจริงจัง ทั้งร้าน Bchu runway ธุรกิจเกี่ยวกับชุดราตรีแบรนด์เนมให้เช่า ที่มีทั้งของผู้ชายและผู้หญิง แล้วก็มีเครื่องสำอาง มาดามออแกนนิค และอาหารเสริมตัวช่วยของสาวๆอย่าง CHU CHOIRE ซึ่งพอกลับมารับละครหลังห่างไปนาน 3 ปี ก็ปรับตัวเยอะเลย เพราะว่าหายไปนาน ก็ลืมบรรยากาศในกองถ่ายไปแล้ว เหมือนเริ่มต้นใหม่อีก มีต้องไปเรียนแอ็กติ้งเพิ่ม เรียนการใช้เสียงเพิ่ม จริงๆเป็นคนที่เรียนแอ็กติ้งอยู่แล้ว ไม่ใช่เพราะต้องเล่นละคร แต่ชอบการแสดง พอมีเวลาก็จะไปคอยเรียนเพิ่มเติม เพราะรู้สึกว่าไม่อยากเป็นน้ำเต็มแก้ว และรู้สึกชอบเพราะการเล่นละครเป็นแพสชันที่ทำแล้วมีความสุข สนุก ได้เป็นตัวเองที่ชอบ แต่ธุรกิจเป็นสิ่งที่ทำได้ดี วางแผนได้ดี แต่พอมีโอกาสได้เล่นละครก็ขอแว้บมาทำอะไรที่เราได้เปลี่ยนบทบาท แต่ไม่ทิ้งธุรกิจ ทำควบคู่กันไป”

ฝากผลงาน “ป้อมปางบรรพ์” หน่อย

“เรื่องนี้ก็ทำเต็มที่มากๆ ตัวละครกระต่ายก็จะเป็นตัวที่สร้างความผ่อนคลายให้กับเรื่องซึ่งไม่เคยรับบทแบบนี้มาก่อน ก็อยากจะฝากละครเรื่องนี้และเป็นกำลังใจให้กระต่ายด้วยนะคะ”