เข้ม หัสวีร์ ปรี๊ด เอฟซีหอบครอบครัวไปนอนบ้านที่ตจว. พอเชิญออก เจอด่าไร้น้ำใจ


ให้คะแนน


แชร์

เข้ม หัสวีร์ ปรี๊ด แฟนคลับรุกล้ำพื้นที่ส่วนตัว หอบครอบครัวเข้าไปนอนบ้านตายายที่ตจว. พอเชิญออก กลับเจอด่าลับหลังไร้น้ำใจ

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

ทำเอาพระเอกหนุ่มชื่อดัง เข้ม หัสวีร์ ภัคพงษ์ไพศาล หัวร้อนขึ้นมาทันที หลังมีคนที่อ้างว่าเป็นแฟนคลับ ยกครอบครัวเข้าไปนอนบ้านคุณตาคุณยายที่ต่างจังหวัด แถมต้องปรี๊ดซ้ำ! เจอด่าลับหลังไร้น้ำใจหลังเชิญให้ออกจากบ้าน งานนี้ หนุ่มเข้ม ที่กำลังมีผลงานละคร ชาติพยัคฆ์ คมนักเลง ทางช่อง7HD ได้เผยให้ “ข่าวสดบันเทิงออนไลน์” ฟังว่า

พื้นที่ส่วนตัวผมมี แล้วมันก็เพิ่งเกิดเรื่องกับตัวเองพอรู้สึกว่าเราเป็นคนใจดีหรือให้ความรู้สึกกับคนรอบข้างมากๆ จนมันเกิดเหตุเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว มีแฟนคลับที่ผมก็ไม่รู้จักเขา ผู้จัดการก็ไม่รู้จัก แอดมินก็ไม่รู้จัก ไปที่บ้านผมที่ต่างจังหวัด เขาก็เคยไปทำบุญ 3-4 ครั้ง

แล้วก็ขอเบอร์คุณตาผมไว้ แล้วเขาเข้าไปนอนบ้านผม ผมก็เลยบอกว่าเอ้ยพี่! บ้านนี่มันคือพื้นที่ส่วนตัว มันไม่ถูกต้อง ถ้าเกิดว่าชื่นชอบผม รักผม อยากจะซัพพอร์ตผม มันก็ไม่ควรที่จะไปถึงบ้านเราขนาดนั้นหรือเปล่า

“แล้วคุณตาคุณยายเป็นคนที่ใจดี แล้วก็กลัวว่าเขาจะไม่รักหลาน แล้วก็กลัวว่าเขาจะได้ที่นอนที่ลำบากเลยให้นอนบ้านเราดีกว่า ซึ่งบางทีบ้านเราก็ไม่ได้พร้อม จริงๆ ผมแค่วัดจากตัวเองก่อน เราเป็นคนขี้เกรงใจคน แล้วเรามาเจอแบบนี้เลยรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้อง

มันค่อนข้างที่จะไม่มีมารยาทหน่อย ไม่มีความเกรงใจหน่อย ผมก็เลยให้ผู้จัดการโทรมาแจ้งเขาว่าขอไม่นอนบ้านผมได้ไหม แค่รู้จักบ้านผมก็ไม่โอเคแล้ว เพราะมันเป็นพื้นที่ส่วนตัวของตัวเอง ขนาดญาติบางครั้งเขาก็ยังไม่กล้าเข้ามานอนบ้านผมเลย เข้ามาแค่กินข้าวแล้วก็กลับ

“แล้วอันเนี้ยคือไม่มีใครรู้จักเขาเลย เขามากันเป็นครอบครัวเลยครับ เขาบอกว่าเป็นครูแต่เกษียณแล้ว เอาจริงๆ ผมไม่เคยเห็นหน้าแฟนคลับคนนี้เลย กลุ่มแฟนคลับก็ไม่รู้จัก แอดมินก็ไม่รู้จัก แล้วผมก็งงตาผมมาก

ซึ่งผมก็ตำหนิไปว่าใจดีเกินไปหรือเปล่า เรื่องแบบนี้มันก็มองได้หลายมุม เขาบอกว่าที่พักเต็ม แต่พี่สาวผมหาที่พักได้ถ้าเกิดว่าคุณต้องการ ผมก็เลยบอกผู้จัดการให้โทรไปบอกว่าให้เขาออกไป ผมไม่สบายใจที่เขาเข้ามาอยู่ในบ้านแบบนี้”

“พอออกไปปุ๊บตากับยายผมกลัวว่าเขาจะด่าหลานจะไม่โอเคกับหลาน นอนร้องไห้อยู่ 2 คืน ผมก็ต้องอธิบายให้ฟัง อันนี้คิดในแง่ร้ายแง่ลบ ถ้าเกิดเขาเป็นมิจฉาชีพล่ะ ในเมื่อเขาบอกว่าเขาเป็นครู ครูทำไมไม่จัดการในการวางแผนของตัวเองในเรื่องของการเดินทาง ที่พักอะไรต่างๆ หรือถ้าเกิดว่าหาไม่ได้ไม่ชิน คุณก็คุยกับพี่สาวของผมอยู่แล้วทักไปถามสิว่ามีที่พักที่ไหนไหม ถ้ามันเต็มจริงๆ จะนอนบ้านผม ผมก็ไม่มีปัญหา แต่นี่มันไม่ได้ผ่านพูดคุยอะไรเลย”

สรุปว่าเขาก็ไม่ได้นอนค้างคืน แล้วพอออกจากบ้านไป ตื่นเช้ามาไปว่าตาผมอีก ไม่ได้ด่าต่อหน้านะ ด่ากับพระบอกว่าตาผมไม่มีน้ำใจไม่ให้นอนบ้าน ผมก็เอ้ย! ตอนแรกผมจะไม่แจ้งเรื่องนี้ให้ใครรู้เลย แต่พอมันมากระทบตาผม แล้วคนในหมู่บ้านมองว่าตาผมใจดำ ผมก็เลยรู้สึกว่านี่มันคนละส่วนกันแล้ว ผมไม่โอเคเลยต้องขอพูดหน่อยว่าบางทีความเกรงใจในพื้นที่ส่วนตัวมันก็ควรจะมี ให้เกียรติกันหน่อย มีมารยาทหรือพื้นฐานในสังคมหน่อย

แล้วตอนนี้เขายังมาวนเวียนอยู่ไหม? “หายไปแล้ว ตาผมติดต่อไม่ได้ ไม่มีใครติดต่อเขาได้ พอเขาว่าตาผมเสร็จเขาก็ไปเลย แต่เรื่องนี้อันดับแรกเราต้องว่าคนในบ้านเราก่อน ก่อนที่จะไปว่าคนอื่น เพราะความผิดส่วนหนึ่งมันก็มาจากบ้านเราเองนั่นแหละที่เป็นคนไปชวน”

ป้องกันยังไงถ้าเกิดว่าในอนาคตมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก? “ผมก็น่าจะไลฟ์ด่าแล้วแหละ ผมของขึ้น มันเป็นเหตุการณ์ที่ผมรับไม่ได้เลยจริงๆ ตั้งแต่เข้าไปที่บ้านผมก็ว่าเรื่องใหญ่แล้วนะ ไปด่าตาผมอีก โอ้โห! ทำกับใครก็ได้ อย่าทำกับคนในครอบครัวผม ผมไม่ปล่อยหรอก”

เรียกว่าเป็นภัยจากความโด่งดังของตัวเราเลยไหม? “มันก็เกิดขึ้นได้ แต่ผมไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นกับตัวเอง ผมก็ขออนุญาตแจ้งตามสื่อต่างๆ เลยว่าบ้านคือสถานที่ส่วนตัวนะครับ บ้านไม่ใช่โรงทาน แล้วก็ไม่ใช่วัดที่คุณจะเข้าบ้านใครก็ได้โดยอำเภอใจของตัวเอง อย่าไปสุ่มสี่สุ่มห้าเข้าบ้านคนอื่นเขา ต้องเกรงใจเขา”

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_7336215
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_7336215