“ปันปัน-เต็มฟ้า” โสดแล้วแซ่บ! เลิกกันเพราะหมดแพสชัน อยากแต่งงานแล้ว


ให้คะแนน


แชร์

“ตอนนี้ปันทำงานประจำที่บริษัท ซิตี้คอร์ป ประเทศไทยค่ะ เป็นโบรกเกอร์รับเทรดหุ้นกองทุนต่างๆ ทำงานสายนี้มารวม 5 ปีแล้วค่ะ ก็ยังชอบอยู่ แต่ตอนนี้รู้สึกว่าเริ่มเข้าที่มากแล้วก็เลยอยากเปิดโอกาสกลับมาวงการบันเทิงบ้าง อาจจะไม่ได้เต็มที่เหมือนเดิม จะได้ไม่หายไปเลยค่ะ ถ้านับจากเล่นละครสลักจิตเป็นนางเอกคู่กับพี่หนุ่ม-ศรรามเป็นเรื่องสุดท้ายปี 2017 ค่ะ ก็นาน 5 ปีแล้วค่ะ”

เริ่มคิดถึงวงการบันเทิง?

“ค่ะ ก็เริ่มคิดถึง ก่อนจะหายไปเนี่ย คือเมื่อก่อนคุณแม่เป็นผู้จัดการส่วนตัวให้ ขับรถให้ เป็นทุกอย่างให้ปันแล้ว พอคุณแม่เสียหนูเลยพักเลยค่ะ รู้สึกไม่มีแรง สภาพจิตใจมันไม่ได้ด้วยที่จะกลับมารับงานเหมือนเดิม ก็เลยในเมื่อเราเรียนเศรษฐศาสตร์มาก็ขอลองไปตามเส้นทางที่เราเรียนสักตั้ง และเมื่อมันเป็นงานที่ได้เงินดีมั่นคงก็เลยลองทำไปให้สุดเท่าที่เราทำได้ก่อน แล้วตอนนี้ค่อนข้างทำได้สบายละ วงการบันเทิงเริ่มมีคนถามๆก็เลยสนใจกลับมา อาจเป็นงานที่ไม่ใช้เวลามากเกินไป จะได้ไม่ต้องทิ้งงานประจำของเรา”

ได้เข้าไปคุยกับผู้ใหญ่บ้างหรือยัง?

“เพิ่งได้เข้าไปเจอกับพี่บอย (ถกลเกียรติ วีรวรรณ) งานปีใหม่ของช่องวัน คือปันเซ็นกับแกรมมี่มาตั้งแต่แรกเลย จนได้มาเล่นละครเรื่องแรกบ่วงรักก็เป็นนางเอกเอง พี่ป้อนกำกับ ตอนนั้นอายุ 16 ปี ยังเด็กมากค่ะ ทำอะไรยังไม่เป็นเลย ยังไม่เข้าใจจริตอะไร ความรักเป็นอย่างไร แต่เขาก็ยังปรานีให้ปันเล่น เป็นสิ่งที่ปันประทับใจ ยังไงปันก็ต้องนึกถึงช่องวันก่อน แล้วกลับมาแกรมมี่ก็นึกถึงแม่ด้วยค่ะ”

เจอกับผู้ใหญ่แล้วเป็นอย่างไรบ้าง?

“พี่บอย พี่ป้อนก็บอกว่าเสียดายปันนะ ตอนนี้ก็อายุ 27 ยังเล่นได้อยู่ อย่าให้เวลามันเลยไป ถ้ามันห่างแล้วมันจะห่างไปเลย แล้วก็บอกว่าหน้าไม่ได้แก่ขึ้นยังเหมือนเดิมเขาก็เลยอยากให้กลับมาค่ะ”

แล้วได้คุยกันชัดเจนหรือยังว่าจะได้เล่นเรื่องอะไร?

“ยังไม่ได้คุยเรื่องบทชัดเจนค่ะ คือถ้าละครเนี่ยต้องใช้คิว 3 วัน ปันก็ต้องไปเคลียร์กับที่ทำงานก่อน อาจจะศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ หรือถ้าไม่ได้จริงก็อาจจะเล่นซีรีส์ที่ถ่ายแค่เสาร์-อาทิตย์ได้มั้ย ก็น่าจะมีโอกาสได้กลับมาทำค่ะ”

การกลับมาอยากเล่นบทอะไรเป็นพิเศษมั้ย?

“เล่นได้หลายรูปแบบนะคะ เพราะรู้สึกว่าถ้าเทียบก่อนที่จะไปเมืองนอกเนี่ยเราเข้าใจชีวิตเยอะ ไม่ว่าจะความรู้สึก เศร้า สูญเสีย ความรัก เรามีประสบการณ์ชีวิตมาหมดแล้ว ก็สามารถเข้าใจได้ทุกบทบาทค่ะ เราเป็นนักแสดงก็ไม่ได้เกี่ยงเรื่องบทอยู่แล้ว เราอยู่ในจุดที่เข้าใจตัวเองมากๆแล้ว ชีวิตเราต้องการอะไร”

แล้วธุรกิจเสื้อผ้าของเราล่ะ?

“ธุรกิจเสื้อผ้าปันทำตอนช่วงโควิดแล้วเวิร์กฟรอมโฮมช่วง 2019 แบรนด์ TIANA BRAND และแบรนด์ลูก TAI by TIANA แบรนด์แม่มันเริ่มจากที่ปันทำงานออฟฟิศแล้วรู้สึกว่าจะหาชุดที่ใส่ทำงานใส่ประชุมสวยๆยาก ถ้าจะซื้อร้านทั่วไปไม่ถูกใจเรา ก็เลยอยากทำเสื้อผ้าที่คนทำงานใส่ได้แล้วต่อไปดินเนอร์ได้ด้วย พอทำไปเรื่อยๆมาเจอโควิดก็เลยสร้างแบรนด์ลูกขึ้นมา ไอเดียคือแฟชั่นที่วัยรุ่นขึ้น”

ล่าสุดโพสต์ไอจีประกาศว่าโสดแล้ว มันยังไง?

“ใช่ค่ะ ก็ห่างกันมาสักพักแล้วค่ะ หลักเดือนแล้ว ถ้าคุยกันก็จะคุยเฉพาะเรื่องงาน เราก็ห่างมาประมาณนึงแล้ว ก็เลยถือโอกาสว่าประกาศเลย ก่อนนี้ก็รู้เฉพาะเพื่อนที่สนิทๆเท่านั้นค่ะ ตอนนี้เราก็ตัดสินใจว่าอยากจะเริ่มต้นใหม่ สตาร์ต เฟรช อยากเป็นตัวเองแล้ว ก็เลยตัดสินใจพูด”

ก่อนที่จะประกาศ เราสองคนได้เคยคุยกันก่อนมั้ย?

“ได้คุยกันค่ะว่าปัญหาอยู่ตรงไหน มันแก้ไขมา 1-2 รอบก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันดีขึ้น ที่ผ่านมาที่เราเจอกันเนี่ยก็ทำให้เราทำงานเก่งขึ้น ความรู้สึกของแฟนมันเฟดลง แพสชันมันหมด มันก็ควรให้เราต่างก็ไปมีชีวิตของตัวเอง ไม่ใช่เลิกกันไม่ดีค่ะ เลิกกันด้วยความเข้าใจ”

ได้คุยถึงสาเหตุที่ทำให้ห่างเหินกันแบบนี้มันเพราะอะไรมั้ย?

“น่าจะเป็นด้วยเวลาด้วยค่ะ เราต่างก็ผิดด้วยกันทั้งคู่ค่ะ อาจจะใส่ใจกันไม่เพียงพอมันก็สะสมมาเรื่อยๆ ปันก็อาจจะโฟกัสเรื่องงานเยอะเกินไป แล้วไม่มาใส่ใจรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ เขาเองก็เช่นกัน เรื่องเล็กๆน้อยๆพวกนี้มันสะสมมาเรื่อยๆจนทำให้ความรู้สึกของความเป็นแฟนมันหมดไปเลย กลายเป็นเพื่อนที่คุยเรื่องงาน มันไม่สปาร์กกันแล้วค่ะ เลยรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของคนเป็นแฟนกันมันไม่ควรเป็นแบบนี้ แต่ยังไงก็ยังเป็นเพื่อนเป็นพี่น้องได้”

เสียดายเวลามั้ย?

“คบกันมา 4 ปีค่ะ สำหรับปันไม่เสียดายนะคะ เพราะตอนที่เราคบกันมีแต่จะดันให้แต่ละคนดีขึ้นกว่าเดิม ปันก็ช่วยสนับสนุนในหน้าที่การงานเขา เขาก็ช่วยแนะนำเรื่องงานทำให้ปันได้เติบโตในหน้าที่การงานได้เร็วขึ้น แต่จุดนี้ก็อาจทำให้เราเลิกกันก็ได้ เพราะเอาหน้าที่การงานมาเป็นอันดับหนึ่ง เลยเหมือนคนที่ทำงานด้วยกันมากกว่าเป็นแฟนกัน มันเป็นอีกปัญหาหนึ่งที่ทำให้ความรู้สึกของแฟนมันหมดไป”

ตอนที่ตัดสินใจเลิก เสียใจมั้ย ร้องไห้มั้ย?

“มันก็มีค่ะ ปกติอยู่แล้ว ขนาดปันทำงานยุ่งแต่พอแน่ใจว่าความรักมันพังลงไปปันก็ร้องไห้หนักเหมือนกันนะคะ มีเพื่อนมาช่วยซัพพอร์ตเยอะมากให้กำลังใจเยอะมาก เลยทำให้ปันเสียใจแป๊บเดียว เพื่อนก็ช่วยกันอุ้มขึ้นมาก็ต้องขอบคุณเพื่อนๆด้วยค่ะ”

ความรักที่พังไม่เป็นท่าครั้งนี้ เราได้บทเรียนอะไรบ้าง?

“อาจตอนนั้นช่วงคุณแม่เสียด้วยมั้ง ก็เลยโฟกัสอนาคตตัวเองมากเป็นอันดับหนึ่ง จึงไม่ได้ใส่ใจคนรอบข้างเท่าที่ควร เพราะเราต้องทำอนาคตตัวเองให้มั่นคงให้ได้ แต่ตอนนี้
ทุกอย่างมันลงตัวแล้ว ปันก็ต้องเรียนรู้ที่จะใช้หัวใจมากขึ้น ในการที่จะรักใครคนหนึ่งเราต้องใช้หัวใจให้มากขึ้น ใช้สมองบ้างแต่ไม่ต้องใช้เยอะ ใช้หัวใจในการคบคน และต้องมีความสุขกับปัจจุบัน จะได้ทำให้อีกฝ่ายมีความสุขไปด้วย และต่างก็ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน อยากได้คนดี และคล้ายๆกัน ไม่อยากได้ใครที่เข้ามาแล้วทำให้เครียด คนต่อไปก็อยากแต่งงานแล้วอะค่ะ เพราะตอนนี้อายุก็เข้า 28 แล้ว”

ตั้งเป้าไว้มั้ยว่าจะแต่งงานสักอายุเท่าไหร่?

“ก็ 29-30 ปีค่ะ เพราะฉะนั้นก็ต้องสถานีต่อไปแล้วค่ะ ไม่งั้นก็ไม่ทันแล้ว เพราะคบผิดไปคนนึงก็จะยืดยาวไปอีกช็อตนึง”

คิดมั้ยว่าการคบกันนานไปก็มีส่วนดีแต่บางทีก็ไม่ดี?

“ปันก็คิดว่าใช่ แต่มันก็อาจจะอยู่ที่ช่วงชีวิตของคนด้วยค่ะ สองฝ่ายจะพร้อมเหมือนกันหรือเปล่า เราพร้อมเขาไม่พร้อม เขาพร้อมเราไม่พร้อม มันก็ไปไม่ถึง มันก็เป็นบทเรียนที่ว่าไม่ว่าคนนั้นจะดีแค่ไหน ในแต่ละช่วงชีวิตมันก็มีช่วงที่เราเป็นแฟนไม่ดี อาจเป็นช่วงที่ค้นหาตัวเอง ช่วงที่คุยกับคนเยอะ เพราะฉะนั้นต้องเลือกในช่วงชีวิตที่เขาพร้อมดีกว่า คนที่อาจเป็นพ่อที่ดีมาก แต่เขาอาจเคยเป็นคนนิสัยไม่ดีมากๆตอนอายุ 27-28 แต่ไม่ใช่หมายความว่าเขาเป็นคนไม่ดี แต่มันเป็นช่วงจังหวะชีวิตของเขา ดังนั้นคนต่อไปปันก็จะเลือกคนที่ช่วงชีวิตเขาพร้อมแล้ว มองไปจุดนั้นแล้ว เราก็จะมาช่วยเสริมกันได้ และมองไปในทิศทางเดียวกัน”

พอประกาศโสดนี่เราแซ่บเลย คนฮือฮากันใหญ่?

“ใช่ (หัวเราะ) ฮือฮาเลย คือถ้าประกาศว่าโสดแต่เรียบร้อยคนอาจไม่สนใจ จริงๆไม่ใช่ไอเดียปันนะคะ ไอเดียเพื่อนปันค่ะที่เป็นพีอาร์อยู่แกรมมี่บอกว่าลงภาพแบบนี้ไปเลย รับรองคนไปพูดต่อจนรู้กันหมด คือตอนแรกปันบอกพี่เขาขำๆว่าปันโสดแล้ว หาคนคุยให้หน่อยสิ พี่เขาก็บอกว่าปันก็ประกาศไปเลย แล้วใช้ภาพชุดว่ายน้ำลงไป คนก็อู้หูแบบนี้เลยเหรอ เพื่อนปันที่เขาโสดเหมือนปันยังบอกว่าเขาอิจฉาปันมากนะ เป็นดาราพอลงภาพนี้ไฟสปอตไลต์ส่องมาเยอะมาก ยังงี้โสดไม่นานหรอก”

เกี่ยวมั้ยว่าเพราะโสดเลยกล้าเซ็กซี่ ไม่ต้องเกรงใจใคร?

“นิดนึงค่ะ แต่ก็ไม่ได้เรียกว่าปันพลิกไปเลย เพราะก่อนหน้านั้นตอนที่ปันยังมีแฟนอยู่ เขาก็ไม่ได้บังคับเยอะ ห้ามโป๊นะ แต่พอตอนนี้ก็ยิ่งสบายขึ้นค่ะ สบายใจอย่างไหน พอใจแบบไหนก็ทำไปถ้าเรามีความสุข”.

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2606291
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2606291