“ผมเป็นคนทะเยอทะยาน ทุกครั้งที่ขอเงินพ่อ พ่อจะบ่นเลยรู้สึกทุกครั้งว่าเหมือนขอทาน เราเลยต้องหาเงินเอง ยุคนั้นเป็นยุควัยรุ่นชอบเดินสยาม ไปหาพี่พจน์ อานนท์ ไปเดินหาแต่ไม่เคยเจอ ผมบอกพี่พจน์ไว้ตรงนี้เลย ผมแต่งตัวเหมือนเต๋า สมชายเลย นั่งรออยู่ตรงบันไดสยาม รอแล้วไม่เจอเลย สงสัยเด็กเต็มสังกัดแล้ว จนกระทั่งมีเอเจนซี่อื่นเรียกไปถ่ายโฆษณาเลยได้เริ่มเป็นนายแบบโฆษณา

แล้วพอดี 95.5 Virgin Hitz รับสมัครดีเจหน้าใหม่ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะตอนนั้นเป็นเจ้าของร้านเหล้าอยู่ มันลงตัวแล้ว แต่สุดท้ายพี่สาวไปสมัครให้ หลังจากนั้นเราก็ลองสักตั้ง” 

ดีเจเพชรจ้าเล่าวิธีการเตรียมตัวประกวดดีเจหน้าใหม่ในสมัยนั้นอย่างละเอียด โดยเน้นเอกลักษณ์ความเสียงดังของตัวเอง ใส่ความเป็นตัวเองลงไปเพื่อให้คนจดจำ 

“การเป็นดีเจมันจะต้องมีแพตเทิร์นว่า หนึ่งครั้งต่อการเปิดไมค์ต้องได้ประโยชน์จากสิ่งที่เราพูด เพราะฉะนั้นคุณต้องหาเรื่องอะไรก็ได้มาเล่าให้ตลก สนุกและมีความรู้ แล้วจึงโยนเข้าเพลง

บวกกับไปเจอพี่วู้ดดี้ แกสอนว่าหลักการง่ายๆ ทุกครั้งที่เปิดไมค์คุณต้องหัวเราะทุกครั้ง เป็นสิ่งที่แกสอนมา เพราะฉะนั้นเวลาฟังดีเจเพชรจ้าจัดรายการวิทยุ ผมหัวเราะทุกครั้ง พอคนฟังจะรู้สึกว่าสนุก อารมณ์ดี ผมเขียนโน้ตใส่กระเป๋าตังค์เลย ‘หัวเราะทุกครั้ง’ พอเวลาผมจัดวิทยุจะดึงมาวางบนบอร์ด แล้วมันจะไม่ลืมว่าเราต้องหาเรื่องเล่าแล้วหัวเราะ คตินี้ทำให้โมเมนต์ของการฟังรายการผมมันตลก ที่ฟังแล้วแจ่มใส นี่แหละที่ทำให้ผมชนะได้ที่หนึ่งมา”