"มาร์ค-ไกด์" จากละคร "ตะนาวศรี" เผยความรู้สึกเลิฟซีนตอนปากแตะปาก


ให้คะแนน


แชร์

เป็นไงบ้างกับกระแสจากคนรอบตัวรวมทั้งในโซเชียล?

มาร์ค “ก็ดีใจครับที่มีคนพูดถึงเยอะมากในโซเชียล เห็นชัดถึงความแตกต่างจากเรื่องก่อนๆที่เคยเล่นมา คนทักมาเยอะเป็นพิเศษว่าเรื่องนี้มีความน่ารัก เคมีของมาร์คไกด์มันดี เป็นผลตอบรับที่แฮปปี้มากๆ และก็มีการคุยกับไกด์ตลอดว่าในแต่ละฉากจะออกแบบมายังไงให้มันดูดีที่สุด เพราะถือว่าเป็นการพลิกบทบาทของเราทั้งคู่เลยครับ”

ไกด์ “คือมีคนรอบตัวส่งข้อความหาไกด์เยอะมากว่าเล่นได้น่ารัก ผมก็รู้สึกดีใจที่ได้เห็นว่าการแสดงของเรามีคนตอบรับและชื่นชมเยอะขนาดนี้ ทั้งเรื่องการแสดงและเคมีต่างๆล้วนเป็นสิ่งที่ทำให้เราภูมิใจ ส่วนพ่อแม่ก็ดูตลอดเลย คอยส่งรูปมาอวดผม ซึ่งผมจะชอบดูในไลฟ์เฟซบุ๊กช่อง 8 มากๆ เลยครับ ทำให้เราได้รู้ว่าการแสดงของเราเป็นยังไง หากมีอะไรที่ไม่ดีผมก็จะหยิบไปพัฒนา ส่วนอะไรที่ดีผมก็จะเก็บไว้เพื่อเป็นแรงผลักดันต่อไปครับ”

ช่วยเล่าเรื่องราวตอนถ่ายฉากฟินๆให้ฟังหน่อย?

มาร์ค “ต้องย้อนไปเป็นฉากแรกๆเลยครับที่ชวนกันไปดูพระอาทิตย์ตก เป็นฉากที่ผมชอบมาก สิ่งที่หลายคนโฟกัสคือการที่เราเอาเข่ามาชนกัน เราว่ามันฟินมากเลยในฉากนี้ เป็นฉากที่ผมประทับใจมากที่สุด”

ไกด์ “จริงๆก็ฟินแทบทุกฉากเลยครับ ผมว่าคนดูก็น่าจะคิดเหมือนกับผม เพราะรู้สึกว่าผมกับพี่มาร์คเรามีความเป็นทั้งเพื่อนและพี่ ทำให้เวลาแสดงออกมามันเหมือนมีเคมีที่คล้ายกันๆครับ เรามีอะไรคิดอะไรเราจะพูดคุยกันตลอดทำให้ดูไม่เกร็งไม่กดดันและดูเป็นธรรมชาติ ซึ่งถ้าให้บอกว่าชอบฉากไหนเป็นพิเศษ บอกเลยว่าทุกฉากครับ”

ตั้งแต่ที่รู้ว่าต้องเล่นเป็นคู่วายรู้สึกอย่างไร ต้องเตรียมตัวอะไรมั้ย?

มาร์ค “ไม่ว่าจะเรื่องไหนปกติผมก็เตรียมตัวหนักอยู่แล้วครับ แต่ตะนาวศรีจะมีการเตรียมตัวที่พิเศษกว่าเดิมกับการทำความรู้จักกับไกด์ ซึ่งเป็นเรื่องแรกที่เล่นด้วยกัน สิ่งที่เราทำคือทำยังไงก็ได้ให้เราสนิทกัน เราเชื่อว่าถ้าเรายิ่งสนิทกันเร็วจะทำให้ดูมีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น เราจะชอบชวนกันไปฟิตเนสไปว่ายน้ำ เราจะได้รู้จักกันในมุมอื่นๆนอกเหนือจากการทำงาน จะได้ไม่เกร็งกัน”

ไกด์ “รู้สึกตื่นเต้น แถมเรายังถือได้ว่าเป็นเด็กใหม่ของช่อง 8 ผมเคยได้ยินแต่ชื่อพี่มาร์คแต่ไม่เคยเจอตัวจริง พอรู้ว่าได้มาเล่นละครคู่กันตอนนั้นผมกดดันนิดนึง เราก็กลัวเป็นภาระของเขา จังหวะที่ได้เวิร์กช็อปครั้งแรกพี่มาร์คให้การต้อนรับดีมาก มาชวนคุยตลอด ทำให้ผมรู้สึกว่าเรายิ่งดูเหมาะสมกันที่สุดแล้ว ความกดดันที่มีในตอนแรกมันหายไปหมดเลยครับ มันเลยไหลลื่นอย่างดี สุดท้ายก็ทำให้ผมมีความสุขมากๆครับ”

แสดงว่าตอนที่อยู่ในกองถ่ายก็ช่วยเหลือกันตลอดเลย?

มาร์ค “ครับ น้องเป็นเด็กดีมาก ตอนแรกผมแอบกลัวนะครับว่าน้องจะปีนเกลียวผมมั้ย ผมไม่ชอบเด็กแบบนั้นเลย แต่พอมาสัมผัสนิสัยใจคอกันจริงๆน้องเป็นคนที่อ่อนน้อมถ่อมตนมาก ทำให้เรารู้สึกอยากจะช่วยเหลือตลอดเวลาครับ”

ไกด์ “ใช่ครับ ส่วนใหญ่จะเป็นพี่มาร์คที่ช่วยผมมากกว่า ทั้งเรื่องการแสดงและเรื่องบทบาท เพราะพี่มาร์คมีความรู้และประสบการณ์เยอะมาก ทั้งเรื่องรอบตัวและเรื่องการแสดง ก็จะคอยสอนผมตลอด”

ช่วยเล่าโมเมนต์ตอนเข้าฉากเลิฟซีนหน่อยว่า ปากของอีกฝ่ายนุ่มน่าจูบแค่ไหน?

มาร์ค “ตอนแรกไม่มีเลยนะเรื่องจูบ มันเป็นส่วนหนึ่งในฉากที่เราเล่นน้ำตกกัน ผู้กำกับไม่สั่งคัตเราก็เล่นไปเรื่อยๆ ตามฟีลลิ่ง เริ่มจากการกอดใกล้ชิดกันซบกันมองตากัน พอฟีลมามันเลยเกิดเป็นการจูบกัน ซึ่งมาร์คประทับใจฉากนี้มาก เป็นการจูบกันที่สองตัวละครต่างรู้สึกกันจริงๆ ที่สำคัญคือการจูบกับผู้ชายครั้งแรกของเราด้วย ซึ่งเป็นสัมผัสที่แปลกดีครับ อยากจะบอกว่าปากไกด์หวานแล้วก็นุ่มมากเลย พูดแล้วก็เขินเลยครับ (หัวเราะ)”

ไกด์ “เอาจริงๆในบทมันไม่ได้มีบอกว่าให้เราต้องมาจูบกันนะครับ แต่มันเป็นความรู้สึกของผมที่อินไปกับตัวละครมากกว่า ว่าถึงจุดนั้นแล้วมันจะต้องจูบเพราะอารมณ์มันมาถึงจุดนั้นแล้ว ทั้งผมและพี่มาร์คต่างก็รู้สึกตรงกันครับ และเป็นการจูบกันครั้งแรกของผมด้วย มันมีความตื่นเต้นมาก ตอนที่ปากผมสัมผัสกับพี่มาร์ค คิดว่าพี่มาร์คคงเตรียมตัวมาอย่างดีแน่นอน เพราะลิปกลอสของพี่มาร์คทั้งเย็นและก็หอมกลิ่นมิ้นต์มากครับ ยิ่งทำให้ผมเคลิ้มไปอีก (หัวเราะ) ด้วยความที่เราอยู่ในบทบาทอยู่ในตัวละคร มันเลยไม่ได้คิดว่าเราต้องมาจูบกัน แต่มันเป็นการแสดงความรู้สึกของเราทั้งคู่มากกว่า”

หลายคนเชียร์ให้เรามีผลงานคู่กันอีกแบบเต็มเรื่อง รู้สึกอย่างไรและอยากเล่นแนวไหน?

มาร์ค “ก่อนอื่นเลยคือดีใจมากที่ได้รับฟีดแบ็กดีๆ ต้องขอบคุณที่ให้การสนับสนุนพวกเรามากๆนะครับ ถามว่าอยากเล่นคู่กันอีกไหม อยากเล่นอีกครับ เพราะเรารู้สึกแฮปปี้มากเวลาเล่นด้วยกัน มันมีความไหลลื่น และไกด์เป็นเด็กน่ารักมากๆ ส่วนแนวละครผมชอบแนวแฟนตาซีในลักษณะย้อนเวลาสลับร่างครับ”

ไกด์ “ยินดีมากๆครับ อยากเล่นคู่กันอีกสักเรื่อง เพราะผมกับพี่มาร์คก็คุยกันว่าอยากมีละครคู่กันอีก เพราะเราอยากจะแสดงคู่กันให้มากกว่านี้ และอยากให้คนดูเห็นมุมมองอื่นๆนอกเหนือจากการแอ็กชันผจญภัย และถ้าได้เล่นละครแนวคู่วายอีกผมอยากลองเล่นแนวกีฬาครับ เพราะเราทั้งคู่ชอบเล่นกีฬากันอยู่แล้ว”

อยากส่งผ่านความรัก LGBTQ+ ในสังคมปัจจุบันอย่างไร?

มาร์ค “อยากบอกว่าความรักมันเป็นเรื่องของบุคคลที่ไม่จำกัดเพศ ใครจะรักใครเป็นเรื่องที่ธรรมชาติมากๆ มันเป็นความรู้สึกมากกว่า อาจจะฟังดูเป็นเรื่องที่ซับซ้อนนะ แต่จริงๆการใช้ใจสื่อสารกันมันเป็นเรื่องโรแมนติกมาก เราอย่าไปผูกติดเรื่องเพศเลยครับ”

ไกด์ “ตั้งแต่ที่ผมรับบทบาทคู่วายในเรื่องนี้ จากเด็กธรรมดาคนหนึ่งเรากลายเป็นกระบอกเสียงของกลุ่ม LGBTQ+ ได้ บางคนอาจมองว่าความรักคือการที่เห็นคนที่เรารักมีความสุข คือการครอบครอง คือการให้ ซึ่งมันก็เช่นเดียวกันกับละครเรื่องนี้ เราไม่จำเป็นต้องมามองเลยว่าเพศชายต้องคู่กับหญิง สุดท้ายมันไม่มีนิยามครับ เพราะรักก็คือรัก”

คนโฟกัสผิดจุด หุ่นแซ่บ/ชมพู เขินไหม?

มาร์ค “ตอนแรกเขินมากเลยครับด้วยความที่เราไม่ค่อยมั่นใจในรูปร่างตัวเอง ผมเลยออกกำลังกายและคุมอาหารเพื่อให้ภาพรวม มันออกมาดี และกระแสตอบรับก็ดีตามไปด้วย ไม่ว่าจะโฟกัสที่ตรงไหนผมไม่ซีเรียสครับ”

ไกด์ “หลังจากที่ผมได้รับเล่นบทบาทนี้ผมก็ตั้งใจเข้าฟิตเนสเลยครับ เพื่อสนับสนุนให้ตัวละครออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด ถ้าคนดูจะชื่นชมในรูปร่างของผม หรือจะชอบในบทบาทที่ผมได้รับ ผมยินดีมากๆเลยครับ”.

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/novel/news/2644908
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/novel/news/2644908