‘กานต์’ เปิดใจคว้ามงฯ นางสาวไทย เผยเหตุใช้ภาษามือ อู้คำเมืองขอบคุณ แม่ร้องไห้


ให้คะแนน


แชร์

‘กานต์’ เปิดใจคว้ามงฯ นางสาวไทย เผยเหตุใช้ภาษามือ อยากสื่อสารกับน้องๆ ที่พิการทางการได้ยิน เผยเหตุการณ์ที่อยู่ในใจมาตลอด อู้คำเมืองขอบคุณ แม่ร้องไห้

วันที่ 19 มี.ค.66 หลังคว้ามงกุฎ “นางสาวไทย คนที่ 54” ประจำปี 2566 พ่วงด้วยรางวัลขวัญใจช่างภาพสื่อมวลชน ในการประกวดรอบตัดสิน ที่แจ้งวัฒนะ ฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ จัดโดยบริษัท ทีพีเอ็น โกลบอล จำกัด และสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์

กานต์ น.ส.ชนนิกานต์ สุพิทยาพร สาวงามจากจังหวัดเชียงใหม่ ให้สัมภาษณ์ว่า “ตื่นเต้นมาก รู้สึกเหมือนฝัน ใช่ความจริงไหม แบบนี้เลยค่ะ รู้สึกว่าเหนือความคาดหมายที่เรามายืนตรงนี้ ตอนจับมือบอกกับเพื่อนว่าเราเป็นกำลังใจให้ไม่ว่าใครจะได้ เพราะเราต้องไปประกวดต่อ ที่บอกว่ารู้สึกเหนือความคาดหมายเพราะเราคิดไว้อยู่แล้วว่าอยากได้มงกุฎนางสาวไทย แต่นั่นคือความหวังของเรา คนตัดสินคือกรรมการ พอเราได้ก็รู้สึกว่าช็อก มันเกิดขึ้นจริงๆ ตามที่เราตั้งใจไว้ ตอนตอบคำถามรอบแรก เรารู้สึกเอ๊ะ! จะใช่ไหมนะ แต่พอคำถามรอบสุดท้ายเรารู้สึกว่าสามารถนำประสบการณ์ที่เรามีมานำเสนอให้ทุกคนรู้จักตัวตนเราได้ ยากมากค่ะ เป็นเวทีระดับประเทศครั้งแรกของกานต์ เหตุผลที่ได้มงกุฎเพราะกานต์คิดว่าเราเป็นคนสู้ และสามารถปรับตัว พัฒนาตัวเองได้ตลอด”

กานต์ เผยว่า หลังจากนี้อยากฝึกภาษาเพิ่มขึ้น ตอนที่ได้มงกุฎได้ใช้ภาษามือ เพราะอยากสื่อสารกับน้องๆ ที่โรงเรียนโสตศึกษาอนุสารสุนทร จังหวัดเชียงใหม่ อยากบอกน้องๆ ว่าพี่ทำได้แล้วนะ และน้องๆ ทุกคนก็ทำได้เหมือนกัน เพราะเคยมีเหตุการณ์ที่เราไปทำกิจกรรมกับน้องๆ แล้วมีน้องผู้หญิงคนหนึ่งเดินมาหาเราพร้อมภาพวาด แล้วพูดด้วยภาษามือบอกกับเราว่า “พี่คะ ช่วยนำผลงานของหนูออกไปโชว์ระดับประเทศและระดับโลกได้เห็นได้ไหมคะ” เป็นเหตุการณ์ที่อยู่ในใจเรามาตลอด

เมื่อกานต์ขึ้นเวทีทุกครั้งจึงพยายามสื่อสารกับน้องๆ เราเคยฝึกภาษามือ กานต์คิดว่ายังมีคนมากมายที่ยังเข้าไม่ถึงโอกาส เราอยากเป็นสะพานเชื่อมโอกาสไปถึงน้องๆ ให้เขาได้แสดงศักยภาพ นี่คือแรงบันดาลใจสำคัญของกานต์ เมื่อต้องไปเวทีมิสเวิลด์กานต์อยากนำโครงการ “Underprivileged to precious ด้อยโอกาสสู่ได้โอกาส” โครงการเพื่อผู้ด้อยโอกาสซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากการทำกิจกรรมร่วมกับน้องๆ ผู้ที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน กานต์เริ่มโครงการนี้ตอนหาเสียงเลือกตั้งเพื่อเป็นนายกสโมสรนักศึกษา เนื่องจากที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่มีทั้งนักศึกษาที่บกพร่องทางการได้ยิน การมองเห็น และอีกหลายๆ อย่าง เมื่อคิดว่าจะต้องเดินไปด้วยกันกานต์จึงทำโครงการนี้ขึ้นมา

สำหรับการไปประกวดมิสเวิลด์ นางสาวไทย ประจำปี 2566 กล่าวว่า ขั้นแรกกานต์อยากไปเรียนภาษาอังกฤษเพิ่ม และอยากกลับไปฝึกภาษามือให้คล่อง กานต์มองว่าข้อดีของกานต์คือการพูด และจะดีเมื่อกานต์สื่อสารได้หลายภาษา สามารถส่งสารที่อยากจะบอกออกไปให้ได้ครบ

นางสาวไทยสาวงามจากเมืองเชียงใหม่ อู้คำเมืองด้วยว่า “ขอบคุณจ๊าดนักนะเจ้า” อยากขอบคุณคนเชียงใหม่ และคนในประเทศที่เชียร์กานต์ เพื่อนๆ ของกานต์ องค์กรต่างๆ ที่เราเคยเข้าร่วม ขอบคุณซีพี กองประกวดนางสาวไทยเชียงใหม่ ขอบคุณแม่ วันนี้แม่กับน้ามาด้วย ขอบคุณแม่ที่เลี้ยงกานต์มา ทำให้เราเป็นเราทุกวันนี้ กานต์ทำได้แล้วนะแม่ พรุ่งนี้อยากกินข้าวกับแม่เป็นอย่างแรกค่ะ ครอบครัวเป็นแรงบันดาลใจสำคัญที่ทำให้กานต์มีวันนี้ ครอบครัวเป็นแรงผลักดันที่ทำให้กานต์กล้าทำ กล้าคว้าทุกโอกาสมาเป็นของกานต์ แม่เป็นคนพูดน้อยค่ะ แต่แม่คอยอยู่ข้างๆ เสมอ ไม่ว่ากานต์จะทำอะไร สุดท้ายกานต์อยากขอบคุณพี่สื่อมวลชนที่คอยสนับสนุนกานต์ และขอให้ทุกคนคอยเป็นกำลังใจให้กานต์ต่อไปด้วยนะคะ กานต์จะทำให้ดีที่สุดไม่ให้เสียชื่อประเทศไทยค่ะ”

ด้านคุณแม่วันเพ็ญ สุพิทยาพร อายุ 49 ปี อาชีพเย็บผ้า เผยความรู้สึกว่า “ดีใจมากค่ะที่ลูกทำได้ แม่ตื้นตันใจ ร้องไห้หลายรอบแล้วค่ะ (หัวเราะ) ตอนลูกจับมือลุ้นมาก พอประกาศชื่อเป็นลูกก็กรี๊ดเลยค่ะ ลูกสาวบอกพรุ่งนี้อยากไปกินข้าวด้วยเป็นอย่างแรก กานต์ชอบกินน้ำพริงอ่องเจ้า”

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_7567638
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_7567638