พ่อรอง น้ำตาคลอ! ใจหายวูบ สูญเสีย ถนอม สามโทน เผยเพิ่งรู้ว่าป่วยได้ 2 เดือน


ให้คะแนน


แชร์

พ่อรอง เค้ามูลคดี น้ำตาคลอ! ใจหายวูบ สูญเสีย ถนอม สามโทน ศิลปินฝีมือดีเป็นที่รักของเพื่อนดาราเผยเพิ่งรู้ว่าป่วยได้ 2 เดือน

วงการบันเทิงสูญเสียอีกครั้งกับการจากไปของ นายวิทยา เจตะภัย หรือ ถนอม สามโทน ศิลปินชื่อดัง เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งตับ ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เมื่อเวลาประมาณ 00.20 น. วันที่ 30 มี.ค. 66 ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โดยครอบครัวได้นำร่างไปบำเพ็ญกุศล ที่วัดนวลจันทร์ กรุงเทพฯ ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของครอบครัว ญาติมิตร เพื่อนพ้องคนวงการบันเทิงรวมทั้งแฟนคลับ

ด้าน รอง เค้ามูลคดี นักแสดงอาวุโส ซึ่งเดินทางมาร่วมรดน้ำศพ ได้เปิดใจถึงการสูญเสีย ‘ถนอม สามโทน’ ว่า “กับถนอมเราสนิทกันมาก ตอนเช้าจะกู้ดมอร์นิ่งกันทุกวัน ในกลุ่มไลน์จะมีสมเล็ก พ่อ และอีกหลายๆ คน 3-4 เดือนเราจะนัดกินข้าวกันที แต่นัดครั้งสุดท้ายเมื่อ 2 เดือนที่แล้วถนอมไม่ไป เราก็เอ๊ะทำไมไม่ไปก็เริ่มสงสัยก็ให้สมเล็กติดต่อดูสิ กระทั่งวันหนึ่งถนอมติดต่อเข้ามาในไลน์ว่า ผมอยู่โรงพยาบาล ผมเป็นมะเร็ง ทุกคนใจหายวูบเลย ได้แต่ภาวนาอย่าให้เป็นอะไรเลย

ก่อนหน้านี้ไม่ทราบข่าวเลยว่าป่วย?ไม่รู้เลยว่าถนอมเป็นโรคนี้ ไม่รู้ด้วยว่าถนอมไม่สบาย คิดว่าติดงานหรือยังไง ไม่ติดต่อเลย (ที่นัดกินข้าวกันไม่มีอาการว่าป่วย?) ไม่มีเลย ปกติ กินข้าวทุกครั้งถนอมเฮฮาสนุกสนานเหมือนเดิม คือถนอมเป็นคนเป็นคนที่ไม่มีอะไรกับใครเลย จะสนุกสนานไปเรื่อย พอมาครั้งหลังสุดนี้ขาดถนอมไปก็รู้สึกว่ามันไม่สนุก มันขาดอะไรไปสักอย่างหนึ่ง ซึ่งทุกคนก็รักถนอมมาก

2 เดือนก่อนคือที่ทราบข่าว? “ประมาณมกราคม ที่มาบอกว่าป่วยนอนอยู่โรงพยาบาลเป็นมะเร็ง แล้วก็ไม่ได้ไปเยี่ยมเลยไม่มีเวลา วันนี้พ่อถ่ายละครอยู่ทีนี้ที่กองบอกว่า 3-4 โมงนี้ไม่มีถ่าย ถ่ายอีกทีทุ่มกว่า ไปดูในรถมีเสื้อสีดำพอดี ก็มารดน้ำดีกว่า”

หลังจากทราบว่าป่วยได้มีโอกาสถามไถ่อาการกันไหม? “หลังจากที่ให้ข่าวมาตอนนั้นว่าอยู่โรงพยาบาลก็ติดต่อไม่ได้เลย ทุกคนติดต่อไม่ได้ เราก็ไม่รู้จะติดต่อทางไหน เมื่อเช้าตอน 6 โมงเช้า ก็มีคนไลน์มาบอกว่าถนอมไปแล้ว ใจนี่หายวูบเลย”

ความสนิทสนมกัน? “ไม่รู้จะพูดยังไงมันสนิท มันอยู่ด้วยกันเวลาอยู่กองถ่ายจะแหย่พ่อตลอด วันไหนถ่ายไม่มีเขารู้สึกเหงานะ ส่งมุขในกอง เป็นคนเฮฮาไม่มีอะไรกับใคร สัมผัสได้นะว่าถนอมเป็นคนจริงใจ ถนอมรักเพื่อนฝูง และเป็นคนที่เคารพผู้อาวุโสกว่า เป็นคนที่เรียกว่าอยู่ในเกณฑ์ดี เป็นคนมีฝีมือ”

ภาพในความทรงจำที่ไปกินข้าวด้วยกันเป็นยังไงบ้าง? “ไปถ่ายหนังด้วยกันที่เชียงใหม่ มันไม่นอนเลย ตอนนั้นกินแล้วติดลม มันไม่กิน แต่มันนั่งรอจนกว่าพ่อจะเลิก มันกลัวพ่อจะเดินกลับโรงแรมไม่ไหว มันมีความเป็นห่วง ถึงบอกว่าใจหายวูบ”

ถ้าสังเกตจากสีหน้าและแววตามีน้ำตาคลอ? “คือต้องบอกว่าเรามางานคนที่เรารัก ปิดยังไงมันก็ปิดไม่ได้หรอก มันต้องออกให้เห็นอยู่ดี (มันเร็วไปใช่ไหม?) เราก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นระดับไหน แต่ว่าทำไมไม่มีใครส่งข่าวเป็นระยะๆ ว่าน้องเป็นขนาดไหนแล้ว อยู่โรงพยาบาลไหนแล้วเราจะได้ไปดูไปเยี่ยม”

ในกลุ่มก็ไม่มีใครทราบเรื่องป่วยเลย? “ไม่มีใครรู้อะไรเลย ในกลุ่มนี้ประมาณ 8-9 คน สมเล็กพยายามติดต่อแล้วไม่รู้จะติดต่อกับใครทางไหน (แสดงว่าก่อนหน้านี้เขาก็สุขภาพแข็งแรงดี?) แข็งแรงกว่าพ่ออีก มันเดินเหินได้สบาย แล้วทุกครั้งที่ไปทานข้าวมันก็สนุกสนานเป็นตัวโจ๊กของกลุ่ม”

วันนี้มาส่งน้องเป็นครั้งสุดท้ายมีอะไรอยากจะบอกกับเขาไหม? “เมื่อกี้ก็จำนามสกุลมันไม่ได้ ก็ไปดูชื่อ วิทยา เจตะภัย พ่อใส่บาตรทุกเช้าแล้วก็สวดมนต์แทบทุกคืนถ้าวันไหนไม่ไหวจริงๆ ก็ไม่สวดจะได้ทำบุญอุทิศให้มัน คนดีๆ เราให้อะไรเขาไม่ได้แล้วตอนนี้เราจะให้กุศลเท่านั้น”

ถ้าพูดถึงเรื่องการแสดงของเขา? “เขาก็อยู่ในเกณฑ์ใช้ได้เลย แต่ต้องบอกว่าเขาไม่ได้คลุกคลีในวงการแสดงมากนัก เขาไปอยู่ในวงการเพลงเยอะแต่เขาก็เป็นคนที่รับอะไรได้เร็วมาก (แต่ในส่วนของบทที่เป็นภาคเหนือต้องเป็นเขา?) ต้องเขา ต้องเขาแหละ (แล้วในส่วนของความเป็นน้องของเรา?) ต้องบอกว่ามันขาดอะไรไปอย่าง เวลานี้ในกลุ่มก็เริ่มส่งรูปร้องไห้กันมา”.

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_7588216
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_7588216