อ.โอเล่ เล่าชีวิตต้องอยู่กับผีตั้งแต่เด็ก เห็นจนเป็นเรื่องปกติ โดนล้อว่าบ้า


ให้คะแนน


แชร์

อาจารย์โอเล่มีทั้งคนเชื่อและไม่เชื่อ เวลาเจอคนมาพูดว่าไม่จริงหรอก ไม่เชื่อ อาจารย์โอเล่รับกับความรู้สึกตรงนี้ยังไง?

ตรงนั้นคือสิทธิส่วนบุคคลของเขา เขามีสิทธิเลือกที่จะเชื่อ เลือกที่จะศึกษาได้ ก็ไม่เป็นไร แต่คนที่เชื่อแล้วไม่เข้าใจอันนี้น่ากลัวกว่า หมายถึงเชื่อแล้วงมงาย เชื่อแล้วแปลความหมายไปอีกทางหนึ่ง

เวลามีคอมเมนต์แย่ๆ มันมีคำไหนที่ติดอยู่ในใจไหม?

อันนี้ก็เป็นสิทธิของเขานะ แล้วแต่เขาจะเขียน แต่ให้เขาดูเอาเองดีกว่าว่าสิ่งที่เกิดขึ้น สิ่งที่นำเสนอ สิ่งที่เป็นไปเอาไปศึกษาแล้วสรุปเอาเองดีกว่า คอมเมนต์แย่ๆ มีอยู่ทุกที่แหละ เพียงแต่ว่าเขาจะมองยังไงก็แล้วแต่สักวันหนึ่งผมเชื่อว่าเขาคงเข้าใจ

ตอนเด็กอาจารย์เจอผี แล้วเกือบเสียชีวิตมาแล้วด้วย?

ปู่ ย่า ตา ยาย เล่ามาว่าสมัยก่อนกินเยอะ จำไม่ได้ว่ากี่ขวบ แต่ว่าเขาป้อนกล้วยแล้วติดคอ จนเขียวไปหมด คุณยายเป็นผู้มีพระคุณดูดจากจมูกขึ้นมา จึงรอดตายมา ในช่วงชีวิตวัยเด็กผูกพันกับสิ่งเหล่านี้ แล้วมารู้ตัวได้ยังไงว่าสิ่งเหล่านี้มันไม่ใช่

อย่างสมมตินั่งคุย เขาก็มานั่งคุย แต่มันไม่ใช่สมาชิกของคนในบ้าน มันเป็นใครก็ไม่รู้แล้วเราไปถามเขาว่าคนคนนี้คือใคร เขาก็บอกว่าไม่มี เป็นเด็กเพ้อเจ้อ เด็กโกหก บ้าหรือเปล่า ถ้าจำความได้น่าจะประมาณ 4-5 ขวบ

ยังไม่พอที่บ้านขายของชำ คุณยายมอบหมายให้ ถ้ามีคนมาซื้อของให้ไปเรียกนะ ปรากฏว่าเรียกบ่อยมากมีคนมายืนหน้าร้าน อยู่ดีๆ มีอะไรสักอย่างที่ไม่ใช่คนแต่งตัวแปลกๆ เราก็หัวเราะขึ้นมา เพราะมันไม่เหมือนคนที่เขาแต่งกาย ยายมีคนมาซื้อของกลับไปอีกทีไม่เห็นมีใครเลย เล่นอย่างนี้ไม่โอเคนะ เขาก็กลับไป นี่เขายืนอยู่ตรงนี้ ไม่มีเพ้อเจ้อหรือเปล่า

พอคนอื่นไม่เห็นเขาก็จะคิดว่าเราแปลก?

ใช่ครับ

พอคิดว่าเราแปลกบ่อยๆ ก็จะเริ่มต่อต้านแล้วภายนอก เราก็ต้องอยู่ในโลกของตัวเองตลอด ตอนเด็กเป็นแบบนั้นไหม?

พยายามอธิบายจนร้องห่ม ร้องไห้ ก็ไม่มีใครเชื่อว่าเราไม่ใช่คนโกหก ถ้าไม่ใช่คนโกหกเขาก็บอกว่าไอ้เด็กเพ้อเจ้อ ไอ้เด็กบ้า บ้าหรือเปล่า คำนี้แหละเหมือนล้อเรา

เพราะฉะนั้นเราถึงต้องกดและเก็บมันเอาไว้ แต่มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เรารู้จักคอนโทรลควบคุมตัวเองได้ ถ้าเราย้อนกลับไปในสมัยเรียน ผมว่าน่าจะเป็นครูบาอาจารย์ หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์เขาต้องการที่จะคอนโทรลเราด้วย

จะให้เราอยู่หรือเห็นใจอะไรเราบางอย่าง ผมจะนั่งสมาธิได้นานกว่าเพื่อนๆ แล้วก็สงบกว่าเพื่อนๆ ตั้งแต่ช่วงนั้นเป็นต้นมาในวิชาพุทธศาสนาหรืออะไรก็แล้วแต่มันมีความสุข มันจบไปด้วยดีในการที่ไม่เห็นในสิ่งแปลกๆ ในช่วงนั้น หรือถ้าอยากเห็นหรืออะไรมันจะมีอีกมติหนึ่งที่เชื้อเชิญเข้าไป

อาจารย์โอเล่โดนผีถามทางเหรอ?

คนเราถ้ารีบร้อนเข้าห้องน้ำ ปวดฉี่ หรือเหนื่อยมาเรื่อยหรืออะไรก็แล้วแต่ ครูบาอาจารย์บอกว่าให้เราเจริญสติเอาไว้ทุกขณะจิต แต่ผมก็คนธรรมดาไม่ได้อะไรมากมาย เหนื่อยก็คือเหนื่อย ล้าก็คือล้า

เมื่อหลายปีที่แล้วลงจากเขาลูกหนึ่งจังหวัดจันทบุรี ไปไหว้พระนี่แหละ จะต้องไปถึงผ้าแดง เขาให้ไปทางปกติ แต่เราไปทางลัด ไปเร็วไม่ต้องคนเยอะ นี่เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีนะ มาทางลัดปรากฏว่ามีน้องคนหนึ่งเขาถามทางว่า พี่ค่ะ ผ้าแดงไกลหรือเปล่า

ผมบอกว่าเพิ่งลงมา น้องอย่าไปเลยทางนี้ เปลี่ยว อันตราย ไปลำบาก มันจะ 6 โมงเย็นใกล้ค่ำแล้ว มากับน้องอีกคนหนึ่งเขาก็ทักมาว่าอยากไปตรงนี้ไกลไหม แต่ดูสายตาน้องแวบนึงมันแปลกๆ ทำไมหน้ามันซีดๆ แล้วแต่งตัวไม่เหมือนคนในยุคนี้ ใส่เอี๊ยมยีนส์ สะพายกระเป๋า ผูกเปีย ซึ่งมันเป็นอีกยุคนึง

เราก็ช่างมันเถอะ ก็ตะโกนว่าเดี๋ยวจะมีอีก 2 คนเขามา น้องไม่ต้องไป แล้วน้องก็มากับพี่ 2 คนนี้มาเจอกับพี่ข้างล่าง แล้วขึ้นทางปกติ เดี๋ยวพี่จะรออยู่ข้างล่าง

หลังจากนั้นผมกับน้องอีกคนก็ไปยืนรออยู่ข้างล่าง พี่ 2 คนก็วิ่งตามมาติดๆ เหนื่อย ทำไมไม่เอาน้องอีกคนมาด้วยล่ะ ไม่มี น้องที่ไหน น้องคนที่แต่งชุดอย่างนี้ๆ ไม่มียังไงก็ไม่มี สรุปว่าไม่ใช่คน

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/celeb/2669733
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/celeb/2669733