สเตฟานเกิดและเติบโตที่สวิตเซอร์แลนด์ เพิ่งย้ายมาเมืองไทยได้ 4 ปี ทำงานด้านอิเล็กทรอนิกส์ที่นั่น แต่ชอบดนตรีมากกว่าเลยตัดสินใจทิ้งทุกอย่างที่นั่นแล้วมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่นี่

จากนั้น ไอซ์ ปรีชญา ได้เล่าย้อนจุดเริ่มต้นความรักที่ทั้งคู่ได้เจอกันเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ว่าเจอกันที่สถานที่แห่งหนึ่งต่างคนต่างพาน้องหมาไปเดินเล่น เราก็ชอบหมาเขา ถามชื่อเขาบอกไม่รู้ เพราะเป็นหมาของแฟนเขา (หัวเราะ)

สเตฟาน เล่าต่อว่า พอโสดเลื่อนไอจีเจอเขา ก็เขียนไปหาเลยว่าจำได้มั้ย คุณน่ารักนะ ก็จีบแหละ ผมก็พูดอะไรก็แล้วแต่ ที่ต้องให้เขาตอบให้ได้ เล่าว่าเคยเจอที่ไหน เหตุการณ์เป็นยังไง บอกเขาว่าหวังว่าสักวันจะได้เจอกันอีก

หลังจากนั้นประมาณ 1 อาทิตย์ เขาก็ส่งรูปมาว่าอยู่โรงพยาบาล ตอนนั้นผมอยู่เมืองนอก ก็เลยถามว่าให้ไปหามั้ย ตอนนั้นก็เป็นห่วงเขาและก็อยากเจอเขาด้วย ก็บินมาหาเขาเลย

ซึ่งไอซ์ยอมรับว่าหลังจากนั้นกลายเป็นตัวเองที่คุยกับเขาเยอะ เขาเป็นคนถามเก่งมาก ซึ่งจริงๆ มีคนดีเอ็มหาไอซ์เยอะมาก ดารา ศิลปิน แต่ไม่เคยตอบใครเลย แต่ตอบเขา เราก็งงตัวเอง เหมือนว่ามีอะไรที่ต้องถามเขาต่อ ตอนที่อยู่โรงพยาบาลที่ส่งรูปหาเขา เป็นภาวะอ่อนแอ ก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องส่งหาเขาเหมือนกัน

สเตฟาน น้ำตาซึมในตอนที่เล่าถึงเรื่องราวความรักกับไอซ์ให้ฟังว่า ตอนนี้ก็คบกันมา 9 เดือนแล้ว ยอมรับว่าผมร้องไห้บ่อย แต่ไม่ได้น้อยใจแล้วร้องไห้นะ เพราะไอซ์เป็นซึมเศร้า เวลาเขาทุกข์เราก็ทุกข์ไปด้วย เวลาเขาร้องไห้ เราก็ร้องไห้ตามไปด้วย ผมสงสารเขา

เขาตื่นมาเขาไม่มีความสุข ผมงง เพราะเราเองเป็นคนที่มีความสุข ตื่นมามีความสุขได้เลย ผมเป็นคนขี้เล่น ผมมีความสุขทุกวัน แล้วทำไมเขาไม่มีความสุขเหมือนที่ผมเป็น (ร้องไห้) ผมสงสารเขา เวลาเขาเศร้าผมก็เลยเศร้า ผมจะรู้สึกมากกว่าเขาอีก

ผมก็เลยพยายามพาเขาไปในทางที่มันถูกต้อง เพื่อให้เขามีความสุขไปเรื่อยๆ อย่างรอยสักที่เป็นชื่อแฟนเก่า ตอนนี้ก็สักทับไปแล้ว เพราะไอซ์ไม่สบายใจ เขาเป็นคนสักให้เองด้วย ที่ผมยอมเพราะเวลาผมรักใครผมรักเลย ผมไม่แบ่งให้คนอื่น ให้แฟนคนเดียว

ไอซ์ ปรีชญา เล่าให้ฟังว่าเคยงอนฝ่ายชาย เพราะเห็นรอยสักชื่อแฟนเก่า แต่ไม่มีชื่อตัวเองก็เลยน้อยใจ ซึ่งจริงๆ มีก็ไม่แปลก แต่ทำไมไม่บอกว่ามีแค่นั้นเอง ตอนนี้เขาสักทับไปแล้ว เลือกลายและลงมือสักให้เอง (หัวเราะ) จริงๆ แล้ว การเจอกับเขาถือว่าโชคดี เขามาในจังหวะที่พอดีด้วย