พ่อบ้านใจกล้า มิค บรมวุฒิ เปรียบภรรยาเป็นอึ่งอ่าง ตัวเองถึงขั้นต้องซักชุดชั้นในให้


ให้คะแนน


แชร์

นับเป็นครอบครัวที่น่ารักและอบอุ่นมาก สำหรับคู่รัก มิค บรมวุฒิ และ เบนซ์ พรชิตา พร้อมด้วยทายาททั้ง 3 คน น้องปริม, น้องปราง, น้องเปรม โดยล่าสุด พ่อมิค ได้ออกมาแชร์โมเมนต์น่ารักๆ ของลูกผ่านรายการโต๊ะหนูแหม่ม กับพิธีกรตัวแม่ หนูแหม่ม สุริวิภา พร้อมเผยเรื่องราวสุดโหดของภรรยาในช่วง 2 ปีแรกที่คบกัน

พัฒนาการลูกๆ เป็นยังไงบ้าง?

ทุกคนมีคาแรกเตอร์ชัดเจน ซึ่งก็ยังซนเหมือนเดิมไม่มีคำว่าหายเหนื่อย ปกติเวลาไปโรงเรียนสามทุ่มต้องนอนแล้ว แต่เวลาไปปาร์ตี้ไปหาคนที่สนิทเค้าก็จะอยู่ถึงเที่ยงคืนตีหนึ่งเลย สามารถอยู่ได้ยันหว่างเลย

ภูมิใจไหมที่สามารถเลี้ยงลูกได้ด้วยตัวเอง?

ภูมิใจและดีใจมากและก็ดีใจที่เราไม่ต้องใช้พี่เลี้ยง เราไปยืมตัวพี่สะใภ้เบนซ์ เอาญาติมาเลย เราอยากให้เค้าดูลูกเราด้วย อย่างน้อยเค้าก็สอนลูกเราว่าอันนั้นพูดไม่ได้นะลูกอันนี้พูดไม่ได้นะ

ตอนนี้ลูกสาวเป็นยังไงบ้าง?

ตอนนี้ลูกสาวสองคนส่งเรียนเทควันโด โชคดีมากที่โรงเรียนที่เอาไปเรียนเค้าบอกยังไม่ต้องจ่ายเงิน สามารถลองเรียนได้ก่อนว่าชอบไหม พอเรียนเสร็จลูกชอบมาก มีความสุขครอบครัวทุกคนน่ารัก จนล่าสุดสามารถสอบได้สายเขียวทั้งคู่เลย

ลูกและเมียทำให้ชีวิตนี้เปลี่ยนไปยังไง?

เปลี่ยนตั้งแต่ตอนแต่งงานแล้ว เพราะสมัยก่อนอยากได้อะไรก็ซื้อ อยากทำอะไรก็ทำ ใช้ชีวิตเสี่ยงเพราะเราสนุกแล้ว แต่พอมาทุกวันนี้ทำให้เราเห็นภาพชัด รู้เลยว่าชีวิตเราต้องอยู่ต่อไปเพื่อใคร เราอยากเห็นวันที่ลูกเราเรียนจบ แต่งงานมีคู่ที่ดี ทำให้เราอยากมีชีวิตอยู่ต่อ อารมณ์ร้อนก็ใจเย็นลง

และความเจ้าชู้ลดลงไหม?

ลดลงตั้งแต่ตอนมาเจอเบนซ์แล้ว ยอมรับว่าช่วงที่โสดก็แซ่บระดับหนึ่ง ถึงขั้นไปดูหนังกับสาวคนอื่นอยู่ดีๆ แต่หน้าโรงนัดเจอกับอีกคนนึง ก็นั่งดูสองคนเลย (พิธีกรแซว คนไม่เลวจริงทำไม่ได้) ความหมายของเราคือเป็นคนโกหกไม่ค่อยเป็น เพราะตอนที่ผมคุยหลายคนผมก็บอกทั้งหมดว่าผมคุยหลายคนอยู่นะ อย่ามาตีกันนะเพราะว่าผมไม่ได้โกหก แต่สุดท้ายเวลาเราคบใครเราคบคนเดียวหมด โกหกไม่รอดและจับได้หมด

แล้วทำไมถึงมาจบที่เบนซ์?

ช่วงแรกๆ ทุกคนก็ถามว่าทำไมเราถึงมาคบกับเบนซ์ และเค้าเคยบอกว่าสองปีแรกจะเลวร้ายกับเราให้ถึงที่สุด ซึ่งก็เป็นจริงอย่างเวลาอยู่กับเพื่อนนางพองตัวเหมือนอึ่งอ่าง ซึ่งเพื่อนก็ตกใจหนีหมดไม่อยากเจอคู่เรา แต่สุดท้ายเค้าบอกว่าถ้าพี่ทนหนูได้ 2 ปีนี้ พี่จะไม่เจอเวอร์ชันที่หนูแย่ไปกว่านี้ และพอผ่านตรงนั้นมามันก็จริงพอแต่งงานปุ๊บถามเราว่าอยู่ไหน เราก็บอกอยู่บ้าน ซึ่งเขาก็บอกเราว่าพี่นัดเพื่อนไว้ออกไปเดี๋ยวนี้เลยเดี๋ยวเสียคน เหมือนสองปีตอนนั้นเค้าอยากทดสอบเราให้เต็มที่ ทนได้ก็ทน ทนไม่ได้ก็ไม่ต้องทน ก็ยังหาคำตอบไม่ได้ในตรงนั้น

จนพอมามีลูก และเขาเป็นแม่ที่ยอมเสียสละทุกอย่าง อยู่บ้านเพื่อเลี้ยงลูกเราและเป็นแม่ที่ทุ่มเทมาก ให้นมยังลูกคนที่สาม คือเค้ายอมทิ้งงานทุกอย่างทิ้งทุกโอกาสที่มาถึง แล้วก็เลี้ยงลูกอย่างเดียวเลยถือเป็นความเสียสละมหาศาล ซึ่งตอนแรกก็ไม่เข้าใจมีความน้อยใจเหมือนกัน แต่พอมานึกถึงว่าสิ่งที่เค้าเสียสละให้ลูกเราเราจะไม่มีวันเจอใครที่ดูแลลูกเราเท่ากับเบนซ์ ซึ่งเรารู้สึกว่าพอเค้าเสียสละแล้วเราก็อย่าทำให้เขามีปัญหา หรืออย่าทำให้เค้าเสียใจเลย

ถึงขนาดซักกางเกงในให้เมียเลย?

คือต้องบอกว่าเบนซ์เป็นคนที่แยกสีไม่ออก อย่างเช่นเราบอกว่าอันนี้คือผ้าสีอันนี้คือผ้าขาว มันก็จะมีวันนึงนางเอาเสื้อสีเขียวกับสีน้ำเงินไปใส่ในผ้าขาว และนางก็ไม่เข้าใจจนถึงทุกวันนี้ จากวันนั้นจนถึงวันนี้ 10 กว่าปีก็เป็นคนซักผ้า รวมทั้งซักทุกอย่างของเมียให้หมด ไม่ว่าจะเป็นชุดชั้นในเสื้อชั้นใน เราก็เป็นคนทำให้หมด ซึ่งผมก็งงเหมือนกันว่าทำไมผมรู้ทุกอย่าง เพราะก่อนหน้านั้นมีคนทำให้ผมมาตลอด แต่พอมาคบกับเบนซ์ทำไมผมกลายเป็นเบ๊ เรียกว่าทุกหน้าที่ในบ้านทุกคนมีสิทธิ์ช่วยเหลือกัน.

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2675123
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2675123