“มาริโอ้” ควง “คิมเบอร์ลี่” เล่าเรื่องเบื้องหลังกล้อง “หมอหลวง” ถ่ายไปนอยด์ไป


ให้คะแนน


แชร์

คิม “จริงๆการแพทย์แผนไทยไม่แพ้ชาติใดเลยนะคะ ในเรื่องนี้จะหยิบมาเป็นความรู้ใหม่ๆ ให้กับคนดู ขนาดเราเล่นเรายังแบบ เฮ้ย มีอย่างนี้ ด้วยเหรอ แล้วก็ในยุค ร.3 มีขนาดนี้แล้วเหรอ ส่วนตัวของพี่โอ้ก็จะว้าวกับการรักษาปัจจุบันของเรา”

มาริโอ้ “คิมเค้าเป็นนักศึกษาแพทย์ยุคปัจจุบันครับ แล้วก็ทำให้เราเหมือนแอบรู้อนาคตจากเพื่อนเรา ที่เค้ามาเล่าให้ฟัง เราก็ ว้าว จริงๆแล้วทองอ้น ที่ผมเล่นก็เป็นเด็กที่มีความรู้เรื่องการแพทย์แผนไทยค่อนข้างเยอะ ได้จากพี่ ได้จากพ่อ ได้จากคนอื่นๆเยอะเลย”

ในเรื่องเป็นหมอเหมือนกัน ต้องทำการบ้านยังไงบ้าง?

คิม “ของคิมไม่ได้เยอะมากค่ะ แต่ก็จะมีเรื่องอาการทุกอย่างที่เป็นภาษาอังกฤษ เพราะเราเป็นหมอยุคปัจจุบัน ก็จะมีเรื่องอวัยวะ ภาษาที่เราไม่เคยได้ยินมาก่อน ก็จะต้องท่องแล้วก็จะต้องมาเล่าให้เค้าฟัง ต้องมาแลกเปลี่ยนความรู้กัน แต่ของพี่โอ้จะมีเรียนเยอะอยู่”

มาริโอ้ “เยอะครับ ก็ตั้งแต่วันแรกเลยที่เหยียบเข้ากองนี้ ก็เริ่มเรียนเลยครับ ในเรื่องจะมีนักเรียนหมอจริงๆมาสาธิตให้ดูตลอด มีแบบใช้ปลิงรักษา เอาปลิงมาเพื่อดูดพิษออก ดูดเลือดก็มี”

ต้องลงลึกขนาดไหนกับความรู้เรื่องแพทย์แผนไทย?

มาริโอ้ “ตั้งแต่เริ่มต้นเรื่องก็จะมีนักเรียนแพทย์และอาจารย์ที่เป็นหมอการแพทย์แผนไทยมาแทบทุกคิวเลยครับ ประกบตลอดในทุกการรักษา ทุกๆตัวยาในการที่จะทำอะไรก็ตาม เพราะมันค่อนข้างละเอียดมากๆ”

เคมีของเราทั้งคู่ในเรื่องนี้เป็นแนวไหน ค่อยๆรักกันเลย หรือว่าเอาชนะกัน?

คิมเบอร์ลี่ “เป็นความรักที่ค่อยๆเติมให้กัน มันค่อนข้างฟีลกู๊ดมากเลยนะคะเรื่องนี้ (ยิ้ม) เพราะมันจะมีพื้นฐานของความเป็นเพื่อน”

มาริโอ้ “เป็นคนแปลกหน้าก่อนแล้วค่อยมาเป็นเพื่อน ไว้ใจกัน”

ความสนิทของเรามันช่วยให้รับส่งกันง่ายมั้ย?

คิมเบอร์ลี่ “ช่วยเยอะเลยค่ะ ไม่ใช่แค่สนิทกับพี่โอ้นะ แต่คือทั้งกองสนิทกันหมดเลยกับทีมงานเหมือนมาอยู่กับพี่น้อง เหมือนอยู่บ้าน เหมือนไม่ได้มาทำงาน จนไม่อยากให้ปิดกล้องเลย”

คิมประทับใจอะไรในตัวมาริโอ้บ้าง?

คิม “ประทับใจในการทำงาน เพราะว่าไม่เคยได้ยินพี่โอ้บ่นเลยสักครั้ง ถึงแม้เค้าจะร้อนขนาดไหน พี่ชุเดินมาถามโอ้ร้อนมั้ย พี่โอ้ก็จะบอกไม่เลยครับพี่ชุ แต่ก็ปาดเหงื่อไปด้วยนะ เราก็จะบอกสุดยอดการแสดงเยี่ยม (หัวเราะ) คือเราขี้บ่นไง จะพูดไปเรื่อยโอ้ยร้อนหิว แต่พอเห็นพี่โอ้ เราก็เลยรู้สึกว่าต้องทำแบบพี่โอ้บ้าง (หัวเราะ)”

ส่วนมาริโอ้ก็พูดถึงคิมว่า?

มาริโอ้ “เค้าเป็นคนตั้งใจ เป็นคนที่เวลาเล่นแล้วไม่กั๊ก รู้สึกว่าเค้ามีความธรรมชาติเวลาเล่นกับคิมมันเหมือนรู้ใจกัน พอจะเข้าฉากดราม่า เราจะรู้ใจ ไม่เล่นกันเยอะ จะเงียบๆ ถ้าเฮฮา เราก็จะเล่นกันเต็มที่ ที่กองมันทำให้เราสองคนจูนกันง่ายมากครับ ทำงานกับน้องง่ายมากๆ”

ตอนญาญ่าเล่นละครกับมาริโอ้ ชมว่าโอ้ หล่อมาก สำหรับคิมล่ะรู้สึกยังไง?

คิมเบอร์ลี่ “โอ้ว เค้านัมเบอร์วันอยู่แล้ว (หัวเราะ) เค้าจ้างทุกคนเลยให้พูด (หัวเราะ) ไม่มีมุมไหนที่พี่โอ้ไม่หล่อเลย อันนี้พูดจริงๆ เพราะว่าพี่โอ้หน้าเล็กไง”

แล้วคิมสวยมั้ย?

มาริโอ้ “สวยสิจ๊ะ ราศีเค้าจับ ช่วงที่เค้าเดินอยู่ในกอง เป็นช่วงที่ได้แหวนมาใหม่ๆ เรียกยังไงก็ไม่หัน สวยมากอะน้อง ตอนนั้น เดินเชิดเลยอะ ผมจะถามคิมเมื่อยมั้ย คิมเดินชูมือตั้งแต่ลงรถมาเลย”

ฉากเข้าพระเข้านางของเราเป็นยังไง?

คิม “เป็นเลิฟซีนที่มีความน่ารัก เป็นแบบฟีลกู๊ด เป็นความรักที่ไม่ได้มีผลต่อกันเลย แค่อยากให้คนมีความสุข แค่อยู่ใกล้ๆก็แฮปปี้”

ด้วยความที่มันเรื่องราวของวิชาชีพ เรากลัวคนดูจับผิดมั้ย?

มาริโอ้ “ห่วงครับ อย่างที่บอกว่าเรามีแพทย์มาดูให้หมด ทั้งแพทย์แผนไทย และแผนปัจจุบัน ซึ่งถ้าผิดก็เทกใหม่ บางทีแค่นิดๆหน่อยๆ แค่เทตัวยาผิด ก่อนหรือหลังกันก็ไม่ได้ ต้องทำให้ถูกต้องตามหลักการแพทย์ทั้งหมดเลย ตอนถ่ายกังวลทั้งแบบแผน กังวลทั้งบล็อกกิ้ง กังวลทั้งไดอะล็อก กังวลไปหมด เพราะว่าผิดก็ต้องถ่ายใหม่ บางทีกดดันตรงที่ตัวยามีน้อย ใช้สอยอย่างประหยัดเทพลาดไปเทกนึง ทีมพร็อบมองหน้าเลย บทก็ต้องพูดเทยาก็ต้องแต่น้อย ลำบากไปหมด”.

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/novel/news/2681368
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/novel/news/2681368