บุ๊ค สิคพัชศ์ เผยสถานะกับ ทาทา เข้าใจถูกมองไม่แมนโลกเปิดกว้างแล้ว (คลิป)


ให้คะแนน


แชร์

ยังคงถูกจับตามองในเรื่องความสัมพันธ์ สำหรับคู่ของ บุ๊ค สิคพัชศ์ กับ อมิตา ทาทา ยัง ซึ่งก่อนหน้านี้ฝ่ายหญิงได้ออกมาพูดแล้วว่า อยู่ในสถานะของเพื่อนสนิท แต่จากภาพที่เห็นทางโซเชียลนั้น มักจะโมเมนต์หวานๆ ของทั้งคู่ออกมาให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง 

ล่าสุดได้เจอ บุ๊ค จึงได้สอบถามตรงๆ เลยว่า สถานะกับ ทาทา ในตอนนี้พัฒนามากขึ้นกว่าเดิมหรือยัง เพราะภาพที่ออกมานั้นหวานกันสุดๆ ซึ่งเจ้าตัวได้บอกว่า 

รู้สึกยังไงบ้าง ที่หลายคนต่างก็โฟกัสที่ความสัมพันธ์ของเรากันเยอะ?

“ตกใจ ก็คุยกับอมิตา คือรูปที่เกิดขึ้นหลายคนก็เห็นอยู่แล้วตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ถ้ามาถึงตอนนี้ก็ 2 เดือนแล้ว จริงๆ มันก็เป็นรูปที่เราลงกันโดยปกติทั่วไป แล้วมันเป็นทริปที่เราไปเที่ยวกันแบบส่วนตัวครั้งแรก 8 โมงเช้า ตกใจมีข่าวหลายเพจลง ตอนแรกก็คงไม่มีอะไรหรอกพอตกบ่ายปุ๊บ ทุกเพจเลยทั่วประเทศมากันหมดเลย ตกใจครับ

ผมอึ้งนะ เขาก็อึ้ง ส่วนตัวผมเป็นห่วงเขามากกว่า เพราะเขาเป็นผู้หญิง เป็นศิลปินที่ชื่นชอบรู้จักกันทั้งประเทศ เราเองก็ ตายแล้วจะทำยังไงดี ก็คุยกันปรึกษากัน เย็นวันนั้นเลยในเมื่อข่าวมันออกไปแล้ว เกิดขึ้นแล้ว จะอย่างไรเพราะว่าหลังจากนั้นเขาก็บินไปพักผ่อนที่ภูเก็ต แล้วก็ไปงานต่อก็ คุยกันอยู่เรื่อยๆ งั้นเราปล่อยเป็นไปตามธรรมชาติของเรา”

จะมีการพัฒนาความสัมพันธ์กันไปเรื่อยๆ ไหม กำลังอยู่ในสถานะศึกษากันหรืออย่างไร?

“ก็เป็นเหมือนเดิมครับ คือเราเริ่มจากความเป็นเพื่อนที่รู้จักกันมา 3 ปีก่อน แล้วโควิดก็ไม่ได้เจอกัน พอโควิดหายก็กลับมาเจอกันใหม่ มีการพูดคุยกันสนิทกันมากขึ้น เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมาก่อนจะไปทริปนี้ภาพแรก ดังนั้นความสัมพันธ์ในการพูดคุย อย่างที่มันเป็นธรรมชาติ คอยๆ เรื่อยๆ จนพอเป็นข่าวทุกคนจับจอง ก็เลยมากขึ้น

ถามว่าพิเศษไหมคุยกันทุกวัน มีโอกาสก็เริ่ม ไปแฮงก์เอาต์มีเพื่อนๆ หลายๆ คน ส่วนตัวบ้างสองคนบ้าง แล้วก็คุยกันอาจจะมีลงรายละเอียดมากขึ้นบ้าง เขาก็เป็นเพื่อนที่พิเศษขึ้นมาอีก”

พอมีข่าวทำให้เรากดดันไหม?

“จริงๆ อย่างที่บอกครับเรามีความเป็นเพื่อนกันมากๆ มาก่อน แล้วเราก็สนิทกันมาประมาณหนึ่ง ผมได้รู้จักเขาในอีกแง่มุมหนึ่งที่หลายคนไม่รู้จัก เช่น หลายคนอาจจะคิดว่า เขาเป็นผู้หญิงเก่ง มั่นใจแต่จริงๆ เขามีมุมอ่อนไหวมาก

เซนซิทีฟมากเป็นคนใส่ใจรายละเอียดคนเยอะมาก 100 กับ 1,000 คือตัวอมิตาเลย เขาจะไม่แค่ 0 กับ 100 เขาเลยประสบความสำเร็จแล้วเป็นไอคอนแบบที่หลายคนเข้าใจ มี 100 กับ 1,000 ไปเต็มที่

อย่างคอนเสิร์ตล่าสุดเขาก็ทำเต็มที่ ครีเอทีฟเอง ตั้งใจดูโชว์เองทั้งที่ป่วย ผมก็จะได้เห็นเขาคอลวิดีโอคุยกับทีมงานต่างๆ ก็แอบดีใจพอลงมา เขาก็บอกในพาร์ตหนึ่งของคอนเสิร์ตวายทูเค เขาก็ทำพาร์ตหนึ่งให้เรา (ยิ้ม) เขาบอกแบบนี้”

ความสัมพันธ์จะมากกว่านี้ไหม หรือว่าอยู่ที่แค่เพื่อน?

“เรื่องนี้ความสัมพันธ์ของเราดีมากแล้วเราทั้งสองฝ่ายเราไม่อยากจะเสียความสัมพันธ์นี้ไปเลย เพราะว่าเราเริ่มจากความเป็นเพื่อนกัน และสนิทกันมากขึ้น ดังนั้นเราเลยคิดทุกอย่าง เราปล่อยไปเป็นตามธรรมชาติไม่รีบไม่ร้อน ไม่เร่งเราทำปัจจุบันให้ดีที่สุด

ส่วนผลลัพธ์จะออกมาในรูปแบบไหน ผมเชื่อว่าเมื่อเรามีความจริงใจทั้งคู่ ในสถานะปัจจุบันมันจะเป็นยังไง เราทั้งคู่ก็ยังคง Support ซึ่งกันและกัน เรายังคงจับมือกันได้ กอดกันได้ ยังคงให้กำลังใจที่ดีๆ กันได้จะได้มากขึ้น

ตอนนี้ก็ไม่ได้คุยกับใครนะครับ ต้องไปถามเขาเองว่าเขาได้คุยกับใครหรือเปล่า อยู่ในเฟรนด์โซน ไม่อึดอัดกับข่าว เราก็เข้าใจว่าเขาอยู่ในงานด้านนี้

ถ้ามีการเขียนไป ทุกคนสงสัย เราตอบ แล้วถ้าสิ่งที่เราตอบให้ทุกคนได้ไปตามให้ทุกคนได้ทราบได้เห็น ถามว่าเราดีใจไหมเวลาที่เราลงรูปแล้วมีคนชื่นชม มีคนรักมีคนเชียร์มีคนหวังดี เราทั้งคู่ก็ขอบคุณมากๆ แล้วผมก็มักจะได้ยินคำว่า ขอบคุณนะที่มาทำให้อมิตาสดใส สวยขึ้น ผอมขึ้น แต่ซึ่งความผอมนั้นไม่ได้เกี่ยวกับผมเลย เขาลดของเขาเอง”

เราศึกษากัน เรามีตั้งเป้าเป็นแฟนกันไหม?

“อย่างที่บอกเมื่อกี้เลยครับ ยังยืนยันคำเดิมว่าเราไปเรื่อยๆ เลย ตอนนี้ปล่อยให้ปัจจุบันทำหน้าที่ให้มันดีที่สุด”

ถ้าเราบอกว่าเราเป็นแค่เพื่อน เราสามารถคุยกับคนอื่นได้ไหม หรือว่าเราต่างคนต่างศึกษากันเองแค่นี้พอ?

“ถ้าเอาจากใจผม แมนๆ เลยนะ คือเขาเข้ามาครั้งแรกก็คือมาพูดคุยกับเราปรึกษาเราในเรื่องของความรักที่มีคนเข้ามาจีบเขา เห็นว่ามีคนเข้ามาจีบเขาอยู่เรื่อยๆ แล้วในระหว่างที่เป็นข่าวก็ยิ่งเยอะเข้าไปใหญ่ เยอะกว่าเดิมอีก ถามว่าผมมีไหมผมก็มีบ้าง เป็นเรื่องปกติ แต่ไม่ได้ซีเรียสไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องนี้”

มีหลายคนสงสัยในความเป็นเรา มักจะถูกคนถามว่าเราแมนหรือไม่แมน? 

“คำถามนี้ผมบอกได้เลยว่ามันไม่ใช่คำถามแรกที่ผมเจอตั้งแต่เข้าวงการมา แล้วผมอาจจะไม่เคยยืนสัมภาษณ์ตรงนี้ ผมขอบคุณพี่ๆ ทุกคนมากเลยที่วันนี้สัมภาษณ์ผม ผมเกิดจากบทบาทซีรีส์วาย แรงเงา ย้อนกลับไปก็เป็นคู่จิ้นสมัยยุคแรกๆ แล้วก็มีอีกหลายเรื่องที่ผมเล่นและคนติดภาพ

ในเรื่องนี้ผมก็ไม่ตกใจในคำถามนะ แต่ถ้าถามผมว่าแล้ว Status คุณเป็นอะไรล่ะ เป็นยังไง ผมอยากจะบอกทุกคนว่า อยากจะมองผมแบบไหนไม่เป็นไรเลย ผมคิดว่าโลกสมัยนี้มันเปิดกว้าง ความหลากหลายของแต่ละคนมันมีเยอะมาก

ดังนั้น วันนี้บุ๊คเคารพตัวบุ๊คเอง เคารพพี่ๆ เคารพอมิตา เคารพคนอื่นๆ ด้วย และที่สำคัญเรารู้ว่าเราไม่ได้ทำให้คนอื่นเดือดร้อน เราอยู่ในพื้นฐานที่ทำตัวให้เป็นตัวอย่างที่ดี เพราะเราอยู่หน้าสื่อ เพราะเรื่องราวความรักของสองคนมันเป็นความสัมพันธ์ของคนสองคนจริงๆ

คุยแล้วรู้สึกดีต่อกันปรารถนาดีต่อกัน จับมืออุ่น กอดแล้วอุ่น คุยภาษาเดียวกัน ปรึกษากันเรื่องทุกข์เรื่องสุข แล้วเข้าใจกัน มันเป็นเรื่องของคนสองคนเลย ดังนั้นคนจะถามผมอีกกี่รอบ เขียนแบบไหนอีกกี่รอบผมสบายมาก อยากจะให้ทุกคนเปิดกว้างความเท่าเทียมกันหมด ผมไม่ซีเรียสเลยว่าคุณจะมองผมแบบไหน”.

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/celeb/2689935
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/celeb/2689935