เมื่อถามถึงเรื่องแต่งงาน น้ำตาล เผยว่า ก็ได้คุยกันในเรื่องนี้อยู่เรื่อยๆ ซึ่งทางพี่ไผ่เองก็ตามใจ มาตอนนี้คิดถึงอนาคตมากขึ้น รอวันฝ่ายชายทำเซอร์ไพรส์

ครบรอบ 11 ปี?

“ก็ดีค่ะ ปีนี้ได้เดินทางไปบาหลี ทุกปีเวลาฉลองครบรอบจะเป็นวันเกิดของเขาอยู่แล้ว คือวันที่ 30 กันยายน ก็รวบยอดเลยทีเดียว”

ทริปบาหลีหวานขนาดไหน?

“โอ้โห นึกว่าไปเข้าค่าย ปกติเวลาไปเที่ยวต่างประเทศส่วนใหญ่เราจะเป็นคนวางแพลนแล้วเราจะบาลานซ์กันระหว่างตัวเขากับตัวเรา คือไม่ให้มันหนักมากเกินไป อย่างที่ทุกคนรู้เวลาพี่ไผ่เขาเที่ยวเขาจะเต็มที่กับชีวิตมากๆ แต่ว่าครั้งนี้เราถือโอกาสให้พี่เขาลองวางแพลน ก็คิดว่าครบรอบ 11 ปีเขาคงไม่พาเราไปลำบากลำบนขนาดนั้นหรอก โอ้โห สุดๆ ทุกอย่างค่ะ แต่ว่ามันก็สนุก”

ที่ว่าลำบากทริปนี้คืออะไร?

“เขาบอกว่าไหนๆ เรามาเที่ยวบาหลีแล้วเราคงไม่ได้มาเที่ยวบ่อยๆ เราลองเที่ยวแบบ local หน่อยดีไหม ไปพักแบบที่มัน local มากๆ คือขึ้นไปมีแค่เราเท่านั้น แล้วประชาชนอยู่ตรงไหน ภาพบาหลีที่เราฝันเอาไว้ว่ามันจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้มันค่อนข้างจะห่างไกล

แต่ก็โอเคค่ะ ได้ไปอยู่กับชาวบ้านเขาก็ทำอาหารให้เรากิน แล้วก็ในแต่ละวันไปน้ำตกประมาณ 5 ที่ เข้าป่าประมาณ 3 ที่ ขึ้นรถไปแล้วแต่ละที่มันไกลมากเดินทางที่ละ 1 ชั่วโมง เขาเองเป็นคนขี้เมารถด้วย ไม่ต้องหวังว่าเขาจะมาเทคแคร์ดูแลเราได้ เราต้องไปดูแลเขาอีก พอไปถึงนางก็เมารถต้องลากนางขึ้นไปบนเขาอีก เราก็รู้สึกว่าชีวิตสุดๆ ค่ะ”

เริ่มชินกับความแอดเวนเจอร์ของเขาแล้ว?

“แรกๆ ด้วยความที่เขาตามใจตลอด พอหลังๆ เขาก็จะพยายามในเมืองบ้าง ตามเขาบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นในเมืองหลักๆ แต่ว่าครั้งนี้เราลองให้เขาแพลน 80 เปอร์เซ็นต์เป็นแพลนของเขาหมด แล้ววันสุดท้ายพอเขาได้พาไปพูลวิลล่าจริงๆ หนูร้องไห้เลย (หัวเราะ) เป็นเซอร์ไพรส์ของเขา

มันมีครั้งหนึ่งเขาพาเราไปล่องเรือ เช่าเรือแล้วลงไปดำน้ำ ตาลก็มองไปที่พักที่หนึ่งที่มันอยู่ริมหน้าผามันสวยมาก แล้วเขาก็ถาม ทำไมอยากพักที่นี่เหรอ แต่เราก็บอกไม่เป็นไร ไม่อยากให้เขาเสียใจไง แต่สุดท้ายมันก็เป็นที่นั่นจริงๆ วันสุดท้าย”

เป็นแผนของเขาหรือเปล่า ให้ลำบากก่อนแล้วค่อยเซอร์ไพรส์?

“ใช่ เขาบอกมันจะได้คุ้มค่า แต่เราก็แบบ มาเร็วๆ ก็ดี (หัวเราะ)”

ระหว่างทางช่วงลำบากเรามีบ่นกับเขาไหม?

“ก็มีบ่นบ้าง แต่ว่าก็ไม่ได้อยากให้เขามีความรู้สึกไม่ดี เพราะที่ผ่านมาเขาก็ตามใจเราค่อนข้างเยอะ แล้วเราก็ปฏิเสธทริปอะไรแบบนี้ไปบ่อยๆ เพราะหลังๆ พี่อยากไปกับเพื่อนก็ไปเลย อยากทำอะไรไปเลย เต็มที่ เพราะเราก็รู้ว่าคนเรามันมีความชอบคนละแนว ไม่ได้เหมือนกัน เมื่อก่อนหนูอาจจะตามผู้ชายหน่อย แต่ตอนนี้เราไม่ไหวแล้ว (หัวเราะ) ความรักไม่ได้ทำให้เราสามารถทำได้ทุกสิ่ง บางทีเราก็รู้สึกว่า ฉันก็ต้องความสบายบ้าง”

แต่ละทริปครบรอบของเราดูมีสตอรี่ตลอด?

“มีสตอรี่ตลอด โดนน้ำดูดไป 45 เมตรบ้าง แต่ว่าก็ดีค่ะ เรียกได้ว่าผ่านความเป็นความตายด้วยกันมาเยอะ”

เรียกว่าเป็นแฟนพี่ไผ่ต้องอดทน?

“ถ้าอดทนมันหมายถึงว่าเราไม่โอเคกับเขา แต่สำหรับตาล มีความรู้สึกว่าเราก็พยายามเป็นในแบบที่เขาชอบให้ได้ก็ครึ่งๆ กลางๆ”

เหมือนเป็นบททดสอบทริปร่วมทุกข์ร่วมสุขกันทุกปี?

“ใช่ หนูก็ว่าอย่างนั้น มันเป็นทริปที่พร้อมจะหยุมหัวกันตลอดเวลา เราก็ได้แต่อดทนไว้ก่อนเพราะเราก็เป็นคนบอกเองให้เขาเป็นคนแพลน เราก็ทำอะไรไม่ได้”

อะไรที่ทำให้เรายอมทนกับทริปที่หนักและทรหดของเขา?

“หลายๆ อย่างที่เขาก็ไม่ได้ชอบ เขาก็ยังมาร่วมกิจกรรมกับเรา ไปแฮงเอาต์กับเราได้ อยู่กับเพื่อนๆ ยายแจ็คกี้บ้าง เขาก็ยังเทคแคร์กับเรากับเพื่อนเราได้ ไปเที่ยวในแบบที่เราชอบ ดังนั้นถ้าเราสามารถทำได้ เราก็อยากจะเอาตัวเองไปอยู่ในจุดนั้นเหมือนกัน ผลัดๆ กัน มีลำบากบ้าง มีสบายบ้าง เป็นสีสันชีวิต”

มีทะเลาะกันไหมว่าทริปนี้มันหนักไป?

“มันก็มีบ่นๆ บ้างบางทีเราถ่ายละครหนักๆ ไปเราก็คาดหวังว่าจะได้พักผ่อนเต็มที่ แต่มันก็ค่อนข้างหนักไปแต่เขาก็ไม่ได้ทำให้ลำบากทั้งทริปขนาดนั้น เขาก็มีเซอร์ไพรส์เราก็รู้สึกชุ่มชื่นหัวใจ (ยิ้ม)”

เมื่อไรจะแต่ง?

“(ยิ้ม) คงไม่ได้อยากรอนานขนาดนั้น ถามว่ามีการพูดคุยกันบ้างไหมมันก็มี นี่ก็ครบรอบ 11 ปีแล้ว เราก็ร่วมทุกข์สุขมาเยอะผ่านอะไรมาเยอะ แล้วปีนี้พี่เขาก็มีเรื่องราวในชีวิตมากมาย ทริปนี้ก็ถือว่าตามใจเขา เขาอยากทำอะไรก็ทำเพราะพี่ไผ่เพิ่งเสียคุณพ่อไป เราก็อยากให้เขาได้ทำอะไรในสิ่งที่เขาต้องการถึงแม้เราจะหอบนิดนึงแต่เราก็พร้อมสู้ (ยิ้ม)”

แสดงว่าทริปนี้เราก็แอบคาดหวังว่าจะมีเซอร์ไพรส์?

“เพื่อนก็บอกว่าซื้อชุดขาวหรือยัง (หัวเราะ) ต้องเตรียมชุดขาวไปนะ แต่หนูอยากบอกว่ามันเหนื่อยมาก คือที่พักแม้กระทั่งไดร์เป่าผมยังไม่มี หนูเลยคิดว่าฉันจะสวยได้ยังไง คือหนูเลยไม่คาดหวังว่าเพราะเคยบอกเขาว่าถ้าจะขอหนูต้องสวย (ยิ้ม) คือถ้าขอตอนไม่สวยต้องขอใหม่”

สำหรับเราแล้วก็เต็มอิ่มแล้วกับสถานะแฟน เตรียมพัฒนาไปอีกขั้นแล้ว?

“มันก็มีเรื่องราวให้เราได้ปรับตัวเรื่อยๆ ให้เราได้เซอร์ไพรส์เรื่อยๆ เหมือนเราเติบโตด้วยกันในแต่ละช่วงจังหวะชีวิต อย่างปีนี้มีหลายเหตุการณ์ที่เรามีความรู้สึกว่า เราต้องอยู่เคียงข้างเขา แล้วก็พยายามให้กำลังใจเต็มที่ มีช่วงที่เขาบวช คนก็คิดว่าบวชแล้วต้องแต่งงานแน่เลยแต่จริงๆ เขาบวชเพื่อพ่อเขา ซึ่งตอนนั้นเราก็พูดไม่ได้ว่าพ่อของเขาป่วยอยู่”

สิ่งที่คุยกันมากขึ้นคือไปในทิศทางไหน?

“เหมือนแพลนชีวิตเราเปลี่ยนไปแล้ว ก็พอเราผ่านเรื่องราวของคุณพ่อมา เราก็เลยมาคุยกันจริงจังเรื่องของชีวิตมากขึ้นว่า โอเค ชีวิตบั้นปลายอยากเป็นแบบไหน ครอบครัวของแต่ละคนเป็นยังไง มันก็เหมือนมีการวางแผนมากยิ่งขึ้น”

วางแผนสเตปต่อไปละเอียดมากขึ้น?

“ใช่ค่ะ แล้วก็คิดถึงอนาคตมากขึ้น ปกติเราจะไม่ได้แพลนเรื่องราวในชีวิตขนาดนั้น แล้วเรื่องของครอบครัวเป็นเรื่องไกลตัว แต่พอมีเรื่องราวอะไรแบบนี้เกิดขึ้นเราก็ต้องกลับมาคิดมากยิ่งขึ้น”

เป็นเรื่องครอบครัวของทั้งสองฝ่ายด้วยไหม?

“ทั้งสองฝ่ายด้วยค่ะ แล้วก็ทางคุณพ่อตาลก็ถามๆ ทางเขาเอง เหมือนพอเกิดเหตุการณ์ของคุณพ่อพี่ไผ่ครอบครัวเราก็ได้มาเจอกัน (ถามงานแต่งหรือถามหาหลาน?) อาจจะข้ามสเตป เพราะก่อนหน้านี้ต้นปีคุณพ่อตาลเพิ่งรถชน เขาก็ผ่านความเป็นความตายมาเขาก็เริ่มคิดถึงแล้ว เพราะตอนนี้เราก็ 32 แล้ว”

เราก็ยังคิดที่จะมีงานแต่งงานใช่ไหม เพราะบางคนคบกันนานก็มองข้ามจุดนี้ไปแล้วก็มี?

“สำหรับตาลมันก็ยังเป็นความฝันของตาลอยู่ เขาก็บอกว่ายังไงก็ตามใจน้องเลย อยากเป็นแบบไหน เราก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามงานแต่งของเพื่อน เพื่อนคนนี้แต่งแบบนี้ อ่ะจำไว้ (หัวเราะ) เป็นตัวอย่าง”

ถ้าจบที่สายผจญภัยล่ะ?

“(หัวเราะ) อย่างที่บอกถ้าตาลไม่สวยก็ขอใหม่ (หัวเราะ) เขาก็ชอบมาถามเล่นๆ ว่าที่เหนือไหม ที่ใต้ทะเลไหม เพราะครอบครัวเขาเมื่อก่อนอยู่ที่จังหวัดตรังด้วย เขาก็ว่าทะเลก็ดีนะน้อง แต่เราก็ภาคเหนือ”

ก็ลุ้นเร็วๆ นี้แหละ?

“ก็ลุ้นๆ (ปีหน้า?) หนูก็ลุ้นอยู่ (หัวเราะ) เดี๋ยวว่ากันอีกค่ะ เป็นปีๆ ไป”.