กว่าจะมีวันนี้ แจ็คเกอรีน ตัวแม่นักข่าว LGBTQ หมดแต้มบุญ ปิดประตูกินพระเอก


ให้คะแนน


แชร์

อีกหนึ่งโลโก้วงการบันเทิงที่อยู่มาแล้วทุกยุค คงต้องอวยยศพูดถึง นักข่าวบันเทิงตัวแม่ตัวมัม ตัวบรรพบุรุษ แจ็คเกอรีน พัฒนะชัย อดิเรก นักข่าวบันเทิงขวัญใจประชาชนและเหล่าดาราในวงการบันเทิง ที่นำเสนอข่าวบันเทิงเป็นกระบอกเสียงเรื่องในวงการบันเทิงมายาวนานกว่า 20 ปี

ซึ่งกว่าจะมีวันนี้ “แจ็คเกอรีน” ต้องผ่านทุกดราม่าการเป็น LGBTQ เพื่อให้สังคมยอมรับ งานนี้ยอมเปิดเผยทุกเรื่องลับผ่าน รายการโต๊ะหนูแหม่ม กับพิธีกรตัวแม่ “หนูแหม่ม สุริวิภา” พร้อมแง้มเรื่องหัวใจและความรักแบบหมดเปลือก

กว่าจะมีวันนี้โลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงมากว่า 20 ปี ต้องต่อสู้อะไรมาเยอะมาก?

“เป็นนักข่าวมาได้ 20 ปีแล้วค่ะ คือตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะมาแต่งหญิง แต่ว่ามันก็เป็นสเตปๆ มา ตอนเรียนเราก็อยากจะพิสูจน์ตัวเองเรื่อง LGBTQ สมัยก่อนมันยังไม่ได้รับการยอมรับ เราต้องสู้ชีวิตมากเลยนะคะ เราต้องโดนล้อ ต้องไม่ได้รับการยอมรับ โชคดีที่พ่อแม่เป็นคนความคิดทันสมัย ลูกไม่ต้องคิดมากลูกจะเป็นอะไรเป็นได้เลย แต่ยุคนั้นมันยังไม่โอเค ยังไม่โอเพนขนาดนั้น เราจะโดนล้อเราจะโดนว่า เราก็เลยอยากจะพิสูจน์ตัวเองให้รู้ว่าต่อให้จะเป็นสาวสอง LGBTQ เราก็สามารถเลี้ยงตัวเองได้”

คำดูถูกคำไหนที่เป็นแรงผลักดันชีวิตเราจนมีวันนี้?

“ถ้าย้อนกลับไปตอนสมัยอยู่ต่างจังหวัด ก็จะมีคนข้างบ้านเนอะ คนต่างจังหวัดเค้าจะมาพูดให้แม่เราเสียใจ ขอใช้คำบ้านๆ นะคะ ว่าลูกมึงเป็นกะเทย ไม่ได้ดีหรอกจบไปจะไปทำอะไร เราก็รู้สึกว่าเออ…โอเคเราจะตั้งใจเรียนให้ดีที่สุด ก็ต้องขอบคุณอาข้างบ้านด้วยที่เป็นแรงกดดันเรา แต่มันก็เป็นเรื่องในอดีต แต่ตอนนี้ก็รักกันดีกับเพื่อนบ้านที่ต่างจังหวัดค่ะ”

ทำงานเยอะแบบนี้อยากรู้เรื่องหัวใจ มีแฟนหรือยัง?

“อันนี้เป็นมุกเฉยๆ นะคะ หนูไม่อยากมีแฟน มันเหมือนกับว่าเราใช้แต้มบุญไปเยอะแล้ว พูดไปมันเหมือนจะดูสวย มีหลายรูปแบบไปหมดเลยค่ะมีทั้งแบบฮาร์ดคอร์ แนวอะไรเยอะแยะมากมายเลย”

เป็นคนเลือกเยอะด้วยหรือเปล่า ถึงไม่มีแฟน?

“จริงๆ ไม่ได้เป็นคนเลือกเยอะเลยค่ะ แต่ว่ามันไม่มี แต่เอาจริงๆ เรามีความสุขมากเลยค่ะ เพราะเราเอาเวลามุ้งมิ้งกับแฟนไปอยู่กับครอบครัวแทน ไปอยู่กับพ่อกับแม่ คือจะบอกว่าคนที่ไม่มีแฟนไม่ต้องนอยด์นะคะ เราได้มีเวลาไปอยู่กับครอบครัว หนูมีความคิดว่า พ่อแม่เราตอนอายุเท่านี้เขาสามารถกินอร่อย หนูก็เอ็นจอยไปกับเค้าได้ แต่ถ้าวันนึงมันนานไปกว่านี้ หนูไปมีแฟนอาจจะไม่มีเวลาให้กัน”

เคยมีแฟน หรือมีพวกพระเอกมาจีบมั้ย?

“โอ๊ยสาธุ…แต่ไม่มีหรอกค่ะ หนูจะบอกว่าเอาเวลามีแฟน มาดูแลครอบครัวดีกว่า ดีกว่าเค้าไม่สบายแล้วต้องเอาหมอมาดูแลเค้า”

ยากมั้ยกว่าจะมายืนแถวหน้านี้ได้ เพราะต้องต่อสู้กับการเป็น LGBTQ

“ยากมากค่ะ ต้องขอบคุณโอกาสต้องขอบคุณหลายๆ อย่าง ต้องสู้กับตัวเอง ต้องสู้กับสังคม ต้องสู้กับหลายอย่างเพราะสิ่งที่หนูทำในยุคแรกๆ ของการเป็นนักข่าว ถือไมค์ไปสัมภาษณ์ดาราถือว่าเป็นยุคแรกๆเลย และเราก็เป็น LGBTQ ยุคแรกเลย การได้รับการยอมรับจากสังคมจากดารา จากคนในแวดวงบันเทิงมันหลายอย่างมาก แต่หนูก็ใช้ความจริงใจทั้งหมด ความตั้งมั่นที่จะตั้งใจทำงานที่ดี”

ตอนแรกคิดมั้ยว่าจะมาเป็นนักข่าวบันเทิง?

“ไม่เคยคิดเลยค่ะ หนูตั้งใจแค่ว่าจะตั้งใจเรียนและกลับไปต่างจังหวัดไปเป็นคุณครูสอน กลับไปอยู่ที่สุรินทร์ บ้านเกิด”

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2753093
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2753093