ป้าตือ สมบัษร บอกว่า “ไปเที่ยวจริง ต้องบอกก่อนว่าขอบคุณ ‘สรปุ๊ก’ เขาก็เช็กเรา เช็กคนรอบข้างเรา ก็พูดเป็นเสียงเดียวกันหมด ก็ตามที่ปุ๊กเขาเขียน แล้วตามหลักฐานที่มี ก็จบ มีหลักฐานที่เป็นความจริงที่ปุ๊กเขาโพสต์ลงไป 

คือสองฝั่งก็เล่าคนละม้วน คือก่อนพูดเรามีคำว่าขอโทษก่อน ‘ขอโทษนะคะ พอตกับบุหรี่มันต่างกันยังไง’”

กับกรณีที่ถูกกล่าวอ้างว่าเทเบียร์ลงบนโต๊ะนั้น ป้าตือ บอกว่า “คว่ำแก้วค่ะ เพราะว่าน้องเขาพูดจริงว่า ถ้าอายุ 61 แล้วเป็นแบบป้า เขาไม่อยากจะมีชีวิต เราก็บอกว่างั้นไม่เอาแล้ว ไม่อยากคุยแล้ว แล้วก็คว่ำแก้ว เทใส่โต๊ะ เดินออกจากโต๊ะ งานนี้ก็ต้องขอโทษที่ความสวยเป็นเหตุ ไปขอบุหรี่ผู้ชาย”

“ส่วนกับเจ้าของร้านก็มีการพูดคุยกัน เขาก็คอลมาคุย ขอโทษ เราก็บอกว่าไม่เป็นไร ไม่ต้องคิดมาก จอยๆ สบายๆ ไม่อยากให้ใครเดือดร้อน เราถือว่าเป็นเรื่องของคนไปสนุก ไม่อะไรอยู่แล้ว และเราไม่รู้จักกัน มาคุยด้วย เราก็คุยกับผู้ชาย แต่เราก็ไปกับตาหนวดนะ อยู่ข้างๆ จับมือกันตลอดเวลา กับเขาคุยกันจอยๆ ไม่มีอะไร”

“เช้าตื่นมาก็ยังไหว้พระเลย ถ้าเมื่อคืนเราหรือใครเกิดอะไรขึ้น ก็ขออโหสิกรรมให้กันและกัน แค่นั้นเอง คือเราก็ไม่เคยรู้จักกับเขามาก่อน (คู่กรณี) กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็งง แต่เรื่องก็เป็นไปตามที่สรปุ๊กเขียน ขอบคุณเขาจริงๆ แต่ถามว่าติดใจอะไรไหม ก็ไม่ เราทำงานอาชีพแล้ว ก็อยู่กันตรงนี้มา เราจะไปอะไรกับใคร”

“ซึ่งร้านนี้ก็ไปครั้งแรก เรื่องก็จบไปแล้ว ตือพูดตรงๆ ว่า ไม่ว่าอะไรก็ตามทุกอย่างมีสองด้าน ก็คือต้องฟังสองด้าน พูดได้แค่นี้ คือพอสรปุ๊กพูดปุ๊บทุกอย่างก็เคลียร์ เราเองก็ไม่พูดอะไร เงียบดีกว่า อยู่เฉยๆ แล้วก็บอกให้ร้านอยู่เฉยๆเพราะทุกอย่างเราไม่โทษใคร ถามว่าจะเลิกเที่ยวไหม ไม่เลิกค่ะ เที่ยวตั้งแต่อายุ 14 จนถึงปัจจุบัน”