แห่ห่วง “ทาทา ยัง” แอดมิตด่วนกล่องเสียงอักเสบรุนแรงแถมยังเป็นงูสวัดอีก!
ทำเอาหลายคนตกใจกันอย่างมากมาย พร้อมบอกว่าทำไมเป็นแบบนี้กันอีกด้วย เพราะสงสารสาว ทาทา ยัง หนักมาก หลังเธอเจอพิษป่วยเป็นกล่องเสียงอักเสบ แถมยังเป็นงูสวัดอีก โดยสาวทาทาลงรูปและสตอรี่ในอินสตาแกรม เป็นรูปของเธอเองที่นอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาล แต่เธอก็ยังคงชูสองนิ้วสู้ๆ
โดยสาวทาทาออกมาลงรูปตัวเอง พร้อมข้อความเล่าว่า “เรื่องมีอยู่ว่า ทามาหาคุณหมอเพราะเสียงแห้ง แล้วเวลาพูดหรือร้องเพลงในบางครั้งมีเสียงหาย ทาเป็นมาได้สักพักแล้ว โดยเฉพาะ 2-3 วันที่ผ่านมานี้ อาการหนักขึ้น มีไข้ เวียนศีรษะ อาเจียน อาการไม่ดีขึ้น อาทิตย์หน้าทามีงานคอนเสิร์ต แล้วอาทิตย์ถัดไปก็มีงาน The 90’S Forever Concert กลัวหายไม่ทัน เลยรีบมาให้คุณหมอตรวจดู ตรวจเรื่อง หู คอ จมูก เสร็จเรียบร้อย ส่องกล้องดูคอและเส้นเสียงเสร็จ สรุปกล่องเสียงอักเสบรุนแรง จำเป็นต้องพักเสียง ให้ยาแก้อักเสบ ลดบวม ล้างจมูก ดื่มน้ำให้มาก พักผ่อนให้เพียงพอ แต่ที่พีคเข้าไปอีกคือพอตรวจเรื่อง หู คอ จมูก เสร็จ ทาลองเปิดเสื้อบริเวณไหปลาร้าให้คุณหมอดู เพราะมีผื่นขึ้น เป็นลักษณะวงสีแดงประมาณ 10 ซม. ตอนแรกเริ่มจากเป็นเหมือนรอยช้ำ แล้วไม่ถึง 3-5 วัน ก็ค่อยมาเป็นตามที่อธิบายก่อนหน้านี้ วันก่อนที่จะมาหาคุณหมอ เริ่มมีตุ่มน้ำใสๆ เกิดขึ้น คุณหมอ 2 ท่าน (ที่ดูแลเรื่องเสียงของทา) เห็นแล้วถึงขนาดกุมขมับ ส่งทาไปให้คุณหมอพิเศษเฉพาะทางอีกท่านวินิจฉัย สรุปเป็นงูสวัดจ้า”
“ที่จำเป็นต้องแอดมิตเพราะยาที่ใช้ต้านอักเสบของกล่องเสียง ต้องระมัดระวังอย่างมากในช่วงวันสองวันแรกของการรักษางูสวัด
หมอจึงแนะนำให้ยาฉีดฆ่าเชื้องูสวัด เพื่อป้องกันการกระจายเชื้อและควบคุมโรคงูสวัดให้ได้เร็วๆ รวมถึงไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนของงูสวัด และเพื่อจะได้ให้ยาต้านการอักเสบของกล่องเสียงต่อได้ ตอนนี้ตุ่มน้ำของงูสวัดเริ่มตกสะเก็ดแล้ว แต่ยังมีอาการปวดร้าวของเส้นประสาทแขนซ้าย คุณหมอและทาเชื่อว่าจะหายทัน พ้นระยะการแพร่เชื้อก่อนงาน concert ที่จะเกิดขึ้นทั้งหมดแน่นอนคะ เรื่องมันก็ประมาณนี้แหละค่ะ”
หลังจากมีการลงเรื่องราวไป หลายคนก็ไม่พลาดมาให้กำลังใจและปลอบใจเธอว่าเดี๋ยวก็หาย รักเธอและขอให้เธอดูแลตัวเองเยอะๆ อย่าคิดมากสู้ๆ เป็นต้น
ขอขอบคุณภาพประกอบจากอินสตาแกรม tataamitayoung
ดูข่าวต้นฉบับ
ที่มา : https://www.dailynews.co.th/news/3159769/
ขอขอบคุณ : https://www.dailynews.co.th/news/3159769/
