ทั้งนี้ มิว ได้เปิดเผยว่า “ความน่าสนใจของละครเรื่องนี้เกี่ยวกับเพลง คงต้องย้อนไปตอนที่รับเล่นละครเรื่องนี้ครับ ซึ่งผมก็ไม่เคยรับละครที่เป็นมิวสิคัลมาก่อน จะเป็นมิวสิคัลตรงที่เราถ่ายทำกันอยู่ก็จะสามารถเข้าเพลงได้เลย ก็เป็นสไตล์ของมิวสิคัลเป็นละครเพลง และเป็นครั้งแรกที่ได้เล่นแบบนี้ แล้วก็ได้ร้องเพลงลูกทุ่งด้วย ซึ่งเพลง “มนต์รักลูกทุ่ง” เนี่ยถือได้ว่าเป็นเพลงครูเลย ผมก็เคยได้ยินมาบ้าง แต่พอได้มาร้องด้วยตัวเองทำให้รู้สึกกดดัน เพราะทุกเวอร์ชันทำออกมาได้ดีมาก แล้วก็ดังทุกเวอร์ชันด้วย ซึ่งก่อนเข้าห้องอัดผมก็มีการเตรียมตัวเยอะมาก หลายเดือนต้องไปฝึกเอง เรียนเพิ่มเองด้วย บอกครูพีครูสอนร้องเพลงเลยว่า ต้องร้องเพลงนี้ ฝากครูว่าให้ติวเข้มๆเลย แต่ละคำร้องยังไง เอื้อนโน้ตเอื้อนตรงไหนบ้าง หนักเบาตรงไหนบ้าง พอตอนเข้าห้องอัดจริงๆ ก็ได้ครูที่เป็นลูกทุ่งไดเรกต์ให้เลยว่าร้องอะไรยังไง ก็สบายใจ วันแรกไม่เก็ตเลยว่าจะต้องทำยังไง ยากมาก ต้องมีแบบอัดไปแปบนึง ต้องเบรก เพราะเพลงมนต์รักลูกทุ่งมันก็จะมีโน้ตบางอย่างที่เป็นเฉพาะของเค้า มีหนักเบามีลูกเอื้อน ที่สำคัญคือสำเนียงการออกเสียง แต่ละคำยากมากเลย ซึ่งเวอร์ชันนี้ เราก็อยากใส่ความเป็นเราลงไปด้วย”

ได้ยินมาว่าเพลง “มนต์รักลูกทุ่ง” ต้องร้องหลายรอบทีเดียว

“ใช่ครับ ถ้าเพลงอื่นอย่าง สิบหมื่น ก็ประมาณ 2-3 รอบ แต่เพลงมนต์รักลูกทุ่งหลายรอบมาก หลายชั่วโมงมากตัดเป็นท่อนก็จะร้องท่อนนี้สักประมาณ 10 กว่ารอบ หลอนเลย เพราะว่าเพลงยาวมาก มีสองเวอร์ชันด้วย มีทั้งเพลงช้าและเร็ว ซึ่งแต่ละเวอร์ชันก็ร้องไม่เหมือนกัน เหมือนอัดเพลงเดียว แต่เป็นสองเพลง ใช้เวลาเยอะมาก แล้วพอเราได้ฟังเพลงที่ตัวเองร้อง ก็โล่งใจครับ หวังว่าทุกคนจะชอบ เพราะผมชอบมาก เพราะยังคงมีความเป็นลูกกรุง ลูกทุ่งอยู่ มีอาร์แอนด์บีใส่ไปตามยุคสมัยด้วย แล้วก็มีที่เป็นเวอร์ชันเร็วด้วย ก็มีความสนุกสนานมากขึ้นเหมาะกับทุกเพศทุกวัยครับ อย่างไรผมก็ขอฝากเพลงมนต์รักลูกทุ่งเวอร์ชันปี 2567 หวังว่าจะเป็นเพลงในดวงใจใครหลายๆคนนะครับ แล้วก็ฝากมิวด้วย รับบทเป็น พี่คล้าว 2567 เป็นอีกเวอร์ชันหนึ่งที่คิดว่าทุกคนจะหลงรัก เพราะเวอร์ชันนี้จะไม่ได้น่าสงสารเหมือนเวอร์ชันก่อนๆ จะหล่อๆมีความน่ารักสดใส เหมือนเราเห็นทุ่งนาตอนพระอาทิตย์ขึ้น แบบมันส่องสว่างขนาดไหน ผมรู้สึกว่าตัวละครคล้าวเป็นแบบนั้นล่ะครับ”.