“มะตูม” เผยคู่ “พีเค-โยเกิร์ต” มีปัญหาจริง คาดจบลงด้วยการแยกทาง
“มะตูม” เผยคู่ “พีเค-โยเกิร์ต” มีปัญหาจริง คาดจบลงด้วยการแยกทาง
หลังจากที่เพจเม้าธ์ดาราอย่าง เพจอรรถรส ได้ออกมาเปิดประเด็นแซบว่า “เมิงงงง เรื่องนี้แซบบ พิธีกรชายรายการดัง ขอเมีย ตรงๆ ว่า อยากมีโลก 2 ใบ ก็ แล้วไง ฉันเลี้ยงทั้งเธอและเขาได้ – เมียเศร้ารับไม่ได้ ออกตัวก่อน ตัดพิธีกรโหนกระแสออกไป”
อ่านข่าวต่อ:“พีเค ปิยวัฒน์” โชว์ซิกแพคสุดเฟิร์มในวัย 50 ดูดีไม่แผ่ว
ล่าสุดเพจดังอีกเพจ อีกี้ขยี้ข่าว ก็ได้ออกมาโพสต์เฉลยว่าพิธีกรหนุ่มคนดังกล่าว คือคู่ของ “ดีเจพีเค ปิยะวัฒน์” และนางแบบสาว “โยเกิร์ต ณัฐฐชาช์” นั่นเอง
ล่าสุด “มะตูม เตชินท์” ได้เล่าในรายการแฉข่าวเช้า ด้วยว่า “ตูมขอใช้สิทธิ์ขออนุญาตพี่พีเค และคุณโยเกิร์ตเพราะเป็นชื่อพวกเขา แต่เราก็ต้องทำหน้าที่รายงานข่าวบันเทิง เพราะเราทำข่าวเช้า ตูมเล่าข่าวทุกอย่างจากเพจ “อีกี้ขยี้ข่าว ตามล่าอีตุ่นน้อย” ที่บอกว่า “แต่งงานกันมา 5 ปี เมียก็เด็กกว่า แถมยังสวยปิ๊ง
แต่พี่ขอเมีย มีอีกคน หนูคิดว่าไม่ว่าจะเป็นผู้หญิง คนไหน เค้าก็คงไม่โอเคหรอกนะ “พี่พีเค” การไปขอมีนางแบบต่างชาติท่านหนึ่งเพิ่มอีกคน หนูคิดว่าคำตอบของ “โยเกิร์ต” ก็คงไม่ต่างจาก ผู้หญิงคนอื่นๆ อายุก็เลข 5 แล้วนะคะ “พี่พีเค”ไหนบอกว่าถอดเขี้ยวเล็บแล้ว #ทีมโยเกิร์ต ซึ่งจากข้อความนี้ ก็มีมูลความจริงในฐานะที่ “ตูม” เป็นน้องก็ไม่โกหก พี่ๆ ทั้งสองคนมีปัญหาจริงๆ จากที่ตูมได้รู้ ได้พูดคุยสอบถามเบื้องต้น ก่อนที่ตูมจะเล่าข่าวคนใกล้ตัว ตูมต้องโทรไปเช็กอัพก่อน
เราพูดตามข่าว เราจะไม่มีการพูดอะไรเพิ่มเติมไป แต่อยากเซฟความรู้สึกความรู้สึกฝั่งเขาให้มากที่สุด ตูมลำบากใจเพราะใกล้ตตัว เป็นพิธีกรร่วมรายการแฉที่เจอกันทุกเช้า ซึ่งทาง “พีเค-โยเกิร์ต” แนวโน้มของคู่นี้ไปในทางที่น่าจะจบกันลง แต่ด้วยดีหรือไม่ดีไม่ทราบ ต้องให้ทั้งคู่ตอบเอง น่าจะไปสู่ในส่วนของการแยกทางกัน คอนเฟิร์มมาแล้ว เรื่องส่วนตัวหรือความสัมพันธ์ เป็นสามีภรรยากันแล้ว เป็นเรื่องเซนซิทีฟ เขาจะไปต่อหรือแยกอยากให้เขาพูด
แต่ที่ตูมได้ฟังมาคือไปในทิศทางว่า “แยกกัน” เขาไม่แถลงหรอกแต่จะออกมาคงต้องเคลียร์ เพราะสังคมตั้งข้อสงสัย ก็น่าจะได้ยินจากจากทั้งคู่เอง ซึ่ง “พีเค” จะพูดเรื่องนี้ในรายการคุยแซ่บโชว์ เวลา 13.00 น. วันนี้ (1 มี.ค. 67)
ดูข่าวต้นฉบับ
ที่มา : https://www.daradaily.com/news/136605/read
ขอขอบคุณ : https://www.daradaily.com/news/136605/read