ไขความลับคำสาปองค์พญาตรีเนตร และ สร้อยอัจนาจักระ ในละคร “ลออจันทร์”


ให้คะแนน


แชร์

ละครชุดฟอร์มยักษ์ภาคต่อ “สุภาพบุรุษจุฑาเทพ” กับเรื่องราวความรักของเหล่า “5 สิงห์แห่งวังจุฑาเทพ” ที่ได้สร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญให้กับประวัติศาสตร์ของวงการละครไทย จนเกิดเป็นกระแสคุณชายฟีเวอร์ สู่ความประทับใจรุ่นลูกที่ต้องมาสานพันธสัญญาความรักต่อ ในละครชุด “ดวงใจเทวพรหม” ที่มีทั้งหมด 5 ชุด คือ ลออจันทร์, ขวัญฤทัย, ใจพิสุทธิ์, ดุจอัปสร, พรชีวัน โดยมีการเปิดตัวคู่พระนางของละครในแต่ละชุดแล้ว ซึ่งกระแสตอบรับถือว่าค่อนข้างดีทีเดียว

เรื่องราวของ ลออจันทร์ (ญีนา ซาลาส) ลูกสาวคนเดียวของ วีระวงศ์ เรียนจบด้านอักษรศาสตร์จากประเทศฝรั่งเศส เดินทางกลับมากรุงเทพฯ หลังจากรู้ข่าวว่า เจ้าชายศตรัศมี (ภาสวิชญ์ บูรณนัติ) แห่งเวียงพูคำ จะนำสมบัติล้ำค่าคือ “สร้อยอัจนาจักระ” หรือ The Third Eye Sapphire มาจัดแสดงที่ห้างสรรพสินค้าเจทีเซ็นเตอร์

ลออจันทร์ แฝงตัวมาสมัครงานเป็นเลขานุการของ หม่อมหลวงภูธเนศ จุฑาเทพ (คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์) บุตรชายของ หม่อมราชวงศ์รัชชานนท์ (ดอม เหตระกูล) และ สร้อยฟ้า (รามาวดี นาคฉัตรีย์ สิริสุขขะ) ซึ่งมีตำแหน่งเป็นกรรมการผู้จัดการของห้างสรรพสินค้าเจทีเซ็นเตอร์ เพื่อหาทางใกล้ชิดกับภูธเนศโดยหวังจะชิงสร้อยเส้นนั้น โดยมี ซัน เพื่อนสนิทในวัยเด็กคอยช่วยเหลือ ซึ่งก็ได้ผล ภูธเนศหลงรักและไว้ใจเธอ ก่อนจะจับได้ภายหลังว่าเธอหลอกลวงเขา

ลออจันทร์ ยอมรับว่าเธอต้องการไพลินที่ประดับบนสร้อยอัจนาจักระ เพื่อนำกลับไปถวายคืนแด่องค์ตรีเนตร พญานาคราชปูนปั้น ซึ่งประดิษฐานอยู่ ณ ที่อันเร้นลับ เธอต้องการพิสูจน์ว่าต้นตระกูลของเธอไม่ได้ต้องการครอบครองไพลิน และไม่ใช่กลุ่มกบฏที่ต้องการล้มล้างราชวงศ์เวียงพูคำ การเดินทางตามหาองค์พญาตรีเนตรฯ ไม่ใช่แค่การพิสูจน์ความจงรักภักดีของบรรพบุรุษเธอเพียงอย่างเดียว แต่ยังทำให้เธอค้นพบความจริงบางอย่างที่สำคัญไม่แพ้กัน ความจริงที่ว่าเธอเป็นส่วนหนึ่งของ “เทวพรหม” ไทยรัฐออนไลน์จะพาไปไขปมปริศนาคำสาป องค์พญาตรีเนตร และ สร้อยอัจนาจักระ หรือ The Third Eye Sapphire 

ปมปริศนาองค์พญานาคตรีเนตร

เรื่องราวขององค์ตรีเนตร ในตำนานเวียงพูคำกล่าวไว้ว่า เมื่อครั้งก่อนพุทธกาล มีพญานาคองค์หนึ่งนามว่า “องค์ตรีเนตร” (ฐกฤต ตวันพงค์) อาศัยอยู่ที่เมืองบาดาลใต้แม่น้ำสายใหญ่ ซึ่งไหลผ่านอาณาจักรพิมพา องค์พญานาคจะขึ้นฝั่งมาถือศีลบำเพ็ญเพียรใต้ต้นไม้ใหญ่ริมน้ำในคืนวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เป็นเวลา 18 วัน ในทุก 18 ปี

เมื่อเจ้าช้างเผือก (บอล กัมมัญญ์ กลมแก้ว) ผู้ครองอาณาจักรพิมพารู้เข้า จึงอัญเชิญเครื่องสักการะมาถวาย ซึ่งในขณะนั้นองค์ตรีเนตรได้นั่งหลับตาตั้งมั่นในสมาธิ องค์ตรีเนตรได้รับของถวายจากเจ้าช้างเผือก และประทานทองให้แก่เจ้าช้างเผือก และชาวเมืองไพลินที่ร่วมขบวนมาด้วย ชาวบ้านต่างตื่นตาตื่นใจกับทองที่องค์ตรีเนตรประทานให้ แต่เจ้าช้างเผือกไม่ได้สนในทองเหล่านั้นเลย เพราะไม่อาจละสายตาจากไพลินดวงตาที่สามเม็ดงามนั้นได้ จึงเกิดความโลภอยากจะครอบครอง ดวงตานั้นไว้เสียเอง

หลังจากนั้นเจ้าช้างเผือกได้กลับมาอีกครั้งพร้อมบริวารของถวาย นางรำ และได้วางอุบายให้สนมเอกของตนเองที่ชื่อ อั้วคำ (ฑาริกา อินสุวรรณ์) เป็นคนอัญเชิญเครื่องสักการะมาถวายแก่องค์ตรีเนตรในครั้งนี้ หวังว่าจะให้ อั้วคำ ได้ดูแลใกล้ชิดองค์ตรีเนตรมากขึ้น แต่องค์ตรีเนตรยังเคร่งครัดในการถือศีล รับเพียงของถวาย และท่านยังคงมีเมตตาประทานทองให้แก่ขบวนชาวไพลินที่มาอีกเช่นเคย

เจ้าช้างเผือกยังให้สนมอั้วคำอยู่ปรนนิบัติองค์ตรีเนตร ดูแลถวายอาหารและน้ำจันทน์อย่างไม่ขาด แต่องค์ตรีเนตรยังคงปฏิเสธ และยังคงอยู่ในศีลอย่างเคร่งครัด อั้วคำใช้มารยาหญิงหลอกล่อให้องค์ตรีเนตรหลงใหล มัวเมา ดำดิ่งในกิเลส ตัณหา ราคะ จนละเว้นการถือศีลปฏิบัติธรรมที่เคยปฏิบัติสืบเนื่องมานับร้อยปี เมื่ออานุภาพถดถอย พลังและอานุภาพของดวงตาที่สามก็เสื่อมลง 

นางสนมอั้วคำ ได้วางยาพิษองค์ตรีเนตร และเมื่อยาพิษออกฤทธิ์ พญานาคผู้ยิ่งใหญ่ก็หมดสิ้นเรี่ยวแรง ไร้ซึ่งฤทธิ์เดช เจ้าช้างเผือกจึงใช้โอกาสนี้ควักเอาดวงตาที่สามซึ่งเป็นไพลินเม็ดงามมาถือครองจนได้ ทำให้องค์ตรีเนตรเจ็บปวดทุรนทุรายถึงขั้นสาปแช่งเจ้าช้างเผือกกับอั้วคำอย่างเจ็บแค้นไว้ว่า

“มันผู้ใดที่ช่วงชิงดวงตาที่สาม ที่กูได้รับการการบำเพ็ญเพียรอันยาวนานหลายร้อยปี กูขอให้พวกมันรวมถึงลูกหลานของมันพบเจอแต่ความวิบัติฉิบหายสืบเนื่องทุก 18 ปี ตราบนานเท่านาน”

กอบกู้อาณาจักรหลังคำสาปองค์ตรีเนตร

หลังจากนั้นชาวเมืองพิพาช่วยกันกอบกู้สร้างเมือง และมีเจ้าผลัดเปลี่ยนขึ้นมาครองเมืองหลายพระองค์ จนมาถึงเจ้าเมืองที่มีนามว่าเจ้านันทะ ซึ่งเจ้านันทะนั้นเองที่เป็นผู้รวบรวมชาวเมืองสร้างเทวสถานขึ้นมาที่บริเวณถ้ำ ซึ่งเป็นจุดที่องค์ตรีเนตรสิ้นชีพ โปรดให้สร้างองค์ตรีเนตรที่มีขนาดใหญ่ โดยนำไพลินสีน้ำเงินเข้มที่กล่าวกันว่าเป็นดวงตาที่สาม ถวายประดับต่อองค์รูปปั้นนั้น ด้วยความหวาดกลัวต่อคำสาปแช่ง และตำนานอันน่ากลัวของท่าน ด้วยแรงศรัทธา หลังจากนั้นเจ้านันทะก็ครองเมืองอย่างสงบสุขยาวนานเกือบ 50 ปี และยังเป็นเจ้าเมืองที่มีอายุยืนยาวที่สุดอีกด้วย และหลังจากนั้นลูกหลานของท่าน ก็ได้ขึ้นครองเมืองหลังจากนั้นตลอดหลายร้อยปี

เมืองพิมพาไม่มีอยู่ในแผนที่เวียงพูคำ

เมืองพิมพาหายสาบสูญไปหลังจากที่ขอมเรืองอำนาจ บวกกับเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในช่วงเวลานั้น จึงไม่มีอยู่ในแผนที่โบราณของเวียงพูคำ ส่วนไพลินดวงตาที่สามกับเทวสถานก็หายสาบสูญไปพร้อมกับเมืองพิมพาเช่นกัน ไม่มีใครได้เห็นอีกเลย

ปลุกคำสาปองค์พญาตรีเนตรอีกครั้ง

จนเข้ารัชสมัยเจ้าหลวงอาทิตยวงศ์ขึ้นครองเมืองพูคำ ได้มีนายพรานเข้าไปล่าสัตว์ในป่าทางตอนเหนือ ไปพร้อมกับเพื่อนที่เป็นช่างอัญมณีในวังหลวง แล้วก็ไปพบเทวสถานโดยบังเอิญ พรานป่ากับช่างอัญมณีตัดสินใจเข้าไปสำรวจด้านในเทวสถาน จนไปพบจารึกคำสาปแช่งที่หินก้อนใหญ่ แต่เมื่อเห็นรูปปั้นและไพลินที่สามขององค์ตรีเนตร ทั้งคู่ก็เกิดกิเลสอยากครอบครองไพลินเม็ดนั้น จนถึงขั้นปีนขึ้นไปงัดดวงตาที่สามออกมา และนำกลับมาที่เวียงพูคำ แล้วหลังจากนั้นมีเรื่องร้ายๆ เกิดขึ้นมากมาย

จากดวงตาที่สาม ถึงสร้อยอัจนาจักระ?

เรื่องเริ่มที่เจ้าสีวิไล น้องชายของ เจ้าหลวงอาทิตยวงศ์ โดยเจ้าสีวิไลรู้เรื่องดวงตาที่สามจากนายพรานซึ่งเป็นเพื่อนเก่าแก่ของท่าน เลยมาที่บ้านช่างหลวงเพื่อขอซื้อไพลินเม็ดนั้น แต่ช่างหลวงมีอาการขวัญผวา เพราะกลัวคำสาปแช่งขององค์ตรีเนตร และกำลังนำไพลินไปคืนที่เทวสถานตามเดิม แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะเกิดภาพหลอนเหมือนพญานาคเข้ามาฉกตัวตลอดเวลา แต่เจ้าสีวิไลยังคงยืนยันจะซื้อไพลินดวงตาที่สามเม็ดนี้ให้ได้ แต่ทางนายพรานและช่างทองก็ยังยืนยันจะเอาไปคืนในเทวสถานให้ ไม่อยากให้เจ้าสีวิไลต้องเจออาถรรพณ์เหมือนที่ตัวเองเจอ ไม่อยากให้เจ้าสีวิไลเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับอาถรรพณ์นี้ ไม่งั้นจะเจอกับความหายนะ

เจ้าสีวิไลยืนยันจะซื้อไปกำนัลพี่ชาย (เจ้าหลวงอาทิตยวงศ์) ให้ได้โดยขู่ช่างหลวง “อยากตายเพราะคำสาป ถ้ายังไม่ขายให้ก็ตายเช่นกัน” โทษฐานลักขโมยสมบัติแผ่นดิน และญาติพี่น้องก็ต้องเดือดร้อนเพราะเรื่องนี้เช่นกัน ช่างหลวงจึงได้มอบไพลินดวงตาที่สามให้เจ้าสีวิไล แต่ทั้งหมดเป็นแผนของนายพราน โดยให้นายพลลือชามาปล้นดวงตาที่สามจากเจ้าสีวิไลอีกที แต่ไม่เป็นดังนั้น เจ้าสีวิไลจะนำไพลินเม็ดนี้ไปแต่งสังวาลเพื่อถวายแก่พี่ชาย (เจ้าหลวงอาทิตยวงศ์) เพื่อสยบข่าวลือที่น้องจะยึดครองบัลลังก์พี่ชาย และเป็นกลุ่มกบฏ สุดท้ายแล้วนี่คือแผนที่เจ้าสีวิไลจะได้ขึ้นครองบัลลังก์เป็นกษัตริย์องค์ต่อไปของเวียงพูคำ แต่นายพลลือชาก็ยังคาใจเรื่องสร้อยสังวาล หลังผลัดแผ่นดิน สร้อยเส้นนี้จะตกเป็นของใคร เจ้าสีวิไลยืนยันจะเป็นของ “สมาคมสถาปนา”

สุดท้ายไพลินเม็ดนั้นก็ได้ถูกนำมาทำเป็นสร้อยอัจนาจักระ หลังจากที่เจ้าสีวิไล นำขึ้นถวายต่อเจ้าอาทิตยวงศ์ ในวันฉลอง 15 ปีขึ้นครองราชย์ขององค์เจ้าหลวง หลังจากนั้น 18 ปี เจ้าหลวงอาทิตยวงศ์ก็ได้เสด็จสวรรคตด้วยโรคที่ไม่เคยพบเห็นที่ไหนมาก่อน และที่แปลกไปกว่านั้นคือ เจ้าสหัสรังสี (ลูกของเจ้าหลวงรังสิมันตุ์) ได้สิ้นพระชนม์ด้วยอาการพระทัยวาย ขณะขี่ม้าลงเขาออกเยี่ยมชาวบ้านที่กำลังประสบภัยน้ำท่วม หลังจากที่เจ้าหลวงรังสิมันตุ์ได้ขึ้นครองราชย์ครบ 18 ปีพอดี เหตุการณ์ร้ายๆ เกิดขึ้นทุก 18 ปี ไม่น่าจะใช่เรื่องบังเอิญแน่ หรือเรื่องคำสาปแช่งจะเป็นจริง?

มาร่วมไขความลับคำสาปขององค์พญาตรีเนตร กับสร้อยอัจนาจักระ และเรื่องราวเหนือปาฏิหาริย์สุดเข้มข้นไปพร้อมกับละครชุด “ดวงใจเทวพรหม” เรื่อง “ลออจันทร์” ได้ทุกวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ เวลา 20.20 น. ทางช่อง 3 ดูทีวีกด 33 ดูมือถือกด 3Plus

ขอบคุณภาพและเนื้อเรื่องจากช่อง 3

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/novel/news/2770112
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/novel/news/2770112