“MORRISON มอร์ริสัน” ผลงานการกำกับเรื่องที่ 2 ของ “ป้อม พุฒิพงษ์ อรุณเพ็ง” ที่ถูกรับเลือกให้ไปฉายในเทศกาลภาพยนตร์ปูซาน ครั้งที่ 28 (28th BUSAN International Film Festival) ที่ประเทศเกาหลีใต้ การันตีคุณภาพจากผลงานสร้างชื่อ กระเบนราหู (รางวัล Orizzonti Award สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม 2018 เทศกาลภาพยนตร์เวนิส ครั้งที่ 75)

ภาพยนตร์ฝีมือคนไทยที่เคยคว้ารางวัลจากเวทีระดับโลก ครั้งนี้จะมาเนรมิต เรื่องราวที่จะพาผู้ชมไปสัมผัสแสง สี เสียง และ ความนอสตัลเจีย (Nostalgia) ซึ่งหมายถึง โรคทางจิตที่เกิดจากความเจ็บปวดในการคิดถึงบ้าน หรือ โหยหาอดีต ผ่านตัวละครของ จิมมี่ ที่ถ่ายทอดบทบาทโดย “ฮิวโก้ จุลจักร จักรพงษ์”

• ที่มา MORRISON แรงบันดาลใจจากการเปิดโลกแห่งจินตนาการของ 2 คนดัง

“พุฒิพงษ์ อรุณเพ็ง” ผู้กำกับ ที่ฝากผลงานสร้างชื่อ กระเบนราหู (2018) เผยถึงแรงบันดาลใจเกี่ยวกับภาพยนตร์นี้ว่า ย้อนไป 4-5 ปีที่แล้ว ทำ POST กระเบนราหู หนังเรื่องแรก มีโอกาสพาลูกสาว 11 เดือน เดินทางไปทำงานที่ปารีสครั้งแรก พักอยู่ใกล้กับสุสานแปร์ ลาแชส พบว่า มีหลุมศพของ “จิม มอร์ริสัน” นักร้องนำวง The Doors ความรู้สึกของ ผมตื่นเต้นมาก ปลื้มปิติและเกิดความผูกพันธ์

ปี 2015 เคยมีโอกาสได้คุยกับ “แหลม มอริสัน” มือกีต้าร์เมืองไทย ช่วงนั้นอยากทำภาพยนตร์เกี่ยวกับเค้า ก่อนที่เขียนโปรเจกต์นี้ ผมได้เดินทางไปอุดรธานี เพื่อทำรีเสิร์ช ช่วงที่ไปมีนิทรรศการศิลปะที่ ค่ายรามสูร (เป็นค่ายทหารอเมริกันสร้างค่ายทหารในประเทศไทยสมัยสงครามเวียดนาม) ในภาพยนตร์  MORRISON อาจจะเป็นการทบทวนความทรงจำของผม เกี่ยวกับความชอบส่วนตัวบางอย่าง  

• บท จิมมี่ ต้อง ฮิวโก้ เท่านั้น

“พุทธิพงษ์ อรุณเพ็ง” ผู้กำกับ เปิดใจ “บท จิมมี่ ต้อง ฮิวโก้ อยากได้ฮิวโก้ตั้งแต่ตอนเขียนบทเลย ผมเคยทำหนังเป็นอาร์ตไดเรทเตอร์ เรื่อง 999-9999 หลังจากนั้น ไม่ได้เจอเค้าเลย แต่ลองเสี่ยงติดต่อไป หลังจากที่ฮิวโก้ได้อ่านบท เค้าถึงรับเล่น ฮิวโก้บอกว่า ถ้าไม่ใช่ผมก็ไม่รู้จะเป็นใคร ซึ่งผมเองไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรในตัวฮิวโก้ ในการให้เค้ามารับบทนี้”

• ภาพยนตร์ของ ฮิวโก้ ในรอบ 8 ปี

“ฮิวโก้ จุลจักร จักรพงษ์” ผู้รับบท จิมมี่ ถือเป็นการคัมแบ็กวงการภาพยนตร์อีกครั้งในรอบ 8 ปี เปิดความในใจว่า “ในชีวิตผมที่ผ่านมา มีบทที่ติดต่อมาหลายบท เรื่องนี้เป็นเรื่องน่าสนใจที่ผมได้อ่าน บวกกับ ภาษา ภาพที่เห็นใน กระเบนราหู ทำให้ตัดสินใจว่า ผมต้องเล่นเรื่องนี้ คาแรกเตอร์ในเรื่องเป็นอดีตนักดนตรี เปลี่ยนอาชีพ เป็นวิศวกร มาตรวจสภาพตึก ซึ่งเป็นโรงแรมร้าง บทบาทค่อนข้างแตกต่างจากชีวิตจริง เพราะเป็นเรื่องของบทนี้โดยเฉพาะ ที่รู้สึกว่า ผมต้องทำ ผมเข้าใจจากการอ่านบทว่าเค้าต้องการให้เป็นผม หนังเรื่องนี้ที่ชอบคือทั้งบทและก็สิ่งที่สัมผัสได้จากมอนิเตอร์ช่วงที่ถ่าย เรื่องมู้ดที่เล่าด้วยกล้อง ผมเป็นแค่ส่วนหนึ่งของฉากก็เท่านั้น”