ระทึกโลกที่ปรสิตเข้าแทรกซึม และการต่อสู้ดิ้นรนของมวลมนุษยชาติเพื่อต่อต้านการรุกรานของเหล่าปรสิต “Parasyte: The Grey (ปรสิต: เดอะ เกรย์)” ซีรีส์เกาหลีแนวไซไฟระทึกขวัญเรื่องใหม่จาก Netflix ขยายจักรวาลของ Parasyte มังงะต้นฉบับเรื่องฮิตของ “ฮิโตชิ อิวาอากิ” โดยจะเล่าถึงเรื่องราวใหม่ที่เต็มไปด้วยฉากแอ็คชั่น ปรัชญาแง่คิด ไปจนถึงความหวาดหวั่นต่อตัวตนและการดำรงอยู่  

ซีรีส์เรื่อง “Parasyte: The Grey” ต่อยอดมาจากมังงะต้นฉบับเรื่อง “Parasyte” โดยฮิโตชิ อิวาอากิ ที่มียอดขายรวมกว่า 25 ล้านเล่มในกว่า 30 ภูมิภาคและประเทศ ซึ่งครองใจแฟนๆ ด้วยเส้นเรื่องเปี่ยมจินตนาการอันเฉียมแหลมที่ว่าด้วยการที่ปรสิตบุกเข้ายึดสมองและควบคุมร่างกายของมนุษย์ อีกทั้งสอดแทรกปรัชญาเอาไว้ให้นักอ่านได้ขบคิดตาม

ผู้กำกับ “ยอนซังโฮ” ผู้กำกับภาพยนตร์ ด่วนนรกซอมบี้คลั่ง (Train to Busan) และ ทัณฑ์นรก (Hellbound) นั่งแท่นรังสรรค์ผลงานเรื่องนี้ กล่าวว่า “มังงะเรื่องนี้เป็นหนึ่งในผลงานที่มีอิทธิพลต่องานภาพยนตร์ของเขา เขาจึงตั้งใจที่จะผสมผสานแก่นของมังงะเข้าไปในซีรีส์ฉบับคนแสดงเรื่องนี้ และขยายจักรวาลของมังงะเรื่อง Parasyte ไปสู่สถานที่แห่งใหม่ นั่นก็คือประเทศเกาหลี”

“สำหรับผม มังงะเรื่อง Parasyte พูดถึงประเด็นการอยู่ร่วมกัน และผมก็อยากให้ซีรีส์เรื่อง ปรสิต: เดอะ เกรย์ (Parasyte: The Grey) สะท้อนถึงแก่นเรื่องเดียวกันนี้ด้วย ผมจึงตั้งคำถามว่ามนุษย์จะสามารถอยู่ร่วมกับสิ่งมีชีวิตอื่นหรือมนุษย์กลายพันธุ์ที่ไม่เหมือนกับพวกเขาได้อย่างสันติหรือไม่”

ฮิโตชิ อิวาอากิ กล่าวว่า “ผมรู้สึกได้เลยว่าผู้สร้างซีรีส์ ปรสิต: เดอะ เกรย์ (Parasyte: The Grey) ให้ความเคารพผลงานต้นฉบับเป็นอย่างมาก และในขณะเดียวกัน ผมก็ได้เห็นไอเดียต่อยอดที่สร้างสรรค์ออกมาได้อย่างมีเอกลักษณ์ตลอดทั้งเรื่อง และยังได้เพลิดเพลินกับซีรีส์เรื่องนี้ทั้งในฐานะผู้เขียนมังงะต้นฉบับและในฐานะ ผู้ชม อย่างแท้จริง แต่ละตอนมีจังหวะเดินเรื่องที่ฉับไวและทรงพลัง ซึ่งทำให้ซีรีส์เรื่องนี้ดูสนุกมากครับ”

เรื่องย่อ  Parasyte: The Grey : เล่าเรื่องราวของ ซูอิน หญิงสาวที่ติดอยู่ระหว่างความเป็นมนุษย์และการโดนปรสิตยึดร่าง คือภาพแทนของแก่นเรื่องที่ว่าด้วยการอาศัยอยู่ร่วมกัน เฉกเช่นที่ไฮดี้ ปรสิตที่เข้ายึดร่างซูอินหลังเผชิญเหตุการณ์เฉียดตาย ได้กล่าวไว้ว่า “ถ้าหากว่าเราไม่รวมร่างกัน เราคงตายไปแล้วทั้งคู่ ยังไงซะเราทั้งสองก็ต้องอาศัยอยู่ด้วยกัน”

แต่เมื่อต้องอยู่ในฐานะมนุษย์กลายพันธุ์ที่ครึ่งหนึ่งเป็นปรสิต อีกครึ่งหนึ่งเป็นมนุษย์ ทว่าซูอินก็ไม่สามารถอยู่ข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายปรสิตที่พยายามยึดครองสังคมมนุษย์ หรือฝ่ายทีมเฉพาะกิจของมนุษย์ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อกำจัดปรสิตอย่าง “ทีมเกรย์” ซึ่งนำทีมโดย จุนกยอง (อีจองฮยอน) และความตึงเครียดนี้เองที่จะตรึงผู้ชมไว้ ณ ใจกลางความขัดแย้งในซีรีส์เรื่องนี้ 

โปสเตอร์ที่ปล่อยออกมาเผยภาพเมืองที่กำลังโดนรุมล้อมด้วยปรสิตอวัยวะบิดเบี้ยว บอกเป็นนัยถึงความโกลาหลและการทำลายล้างโดยเหล่าปรสิตผู้บุกรุก แต่ขณะเดียวกันก็เน้นย้ำให้เห็นถึงการโต้กลับอย่างไม่ลดละของฝ่ายมนุษย์ โดยมี ซูอิน (จอนโซนี) เผชิญหน้าอย่างท้าทายต่อภัยคุกคามที่กำลังอุบัติขึ้น โดยมี คังอู (คูคโยฮวาน) จุนกยอง (อีจองฮยอน) ชอลมิน (ควอนแฮฮโย) และวอนซอก (คิมอินควอน) ยืนหยัดเคียงข้าง

ส่วนตัวอย่างอย่างเป็นทางการได้แง้มให้เห็นโครงข่ายความสัมพันธ์อันซับซ้อนที่มีทั้งแนวร่วมพันธมิตรและคนทรยศ ซึ่งจะค่อยๆ เปิดเผยเมื่อซูอินพาผู้ชมไปพบกับสังคมที่ถูกแบ่งแยกโดยอิทธิพลอันมีเงื่อนงำของเหล่าปรสิต อีกทั้งยังเผยความตื่นตาของงานวิชวลเอฟเฟกต์ที่เนรมิตสิ่งมีชีวิตจากนอกโลกขึ้นมาด้วยรายละเอียดชวนขนลุก รับรองว่าซีรีส์เรื่องนี้จะทำให้ผู้ชมตื่นตะลึงราวกับต้องมนต์สะกดอย่างแน่นอน