‘นุสบา’ เล่าระทึกเครื่องบินลงจอดฉุกเฉิน จิตตกเกือบเป็นผู้ประสบภัยสงคราม
เรียกได้ว่าทำเอานักแสดงสาวรุ่นใหญ่อย่าง “นุสบา ปุณณกันต์” ถึงกับตกใจอยู่ไม่น้อย หลังจากที่เจ้าตัวบินไปเที่ยวที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่งในระหว่างที่เดินทางกลับ ได้เจอเหตุการณ์ระทึก เครื่องบินจำเป็นต้องลงจอดฉุกเฉินที่เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี และพอเครื่องลงจอด ก็เห็นข่าวมีการถล่มยิงขีปนาวุธ ปิดน่านฟ้า โดย นุสบา ได้โพสต์เล่าเรื่องราวผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว @nusbapunnakanta ระบุว่า
“ช่วงนี้หลายคนเป็นผู้ประสบภัยธรรมชาติ แต่ฉันเฉียดเป็นผู้ประสบภัยสงคราม! ในระหว่างที่บินกลับจากลอนดอน ด้วยสายการบินกาตาร์ ซึ่งจะต้องไปต่อเครื่องที่โดฮา ในประเทศกาตาร์ ในระหว่างที่นอนหลับอยู่ กัปตันประกาศด้วยน้ำเสียงวิตกกังวลอย่างมากว่า มีความจำเป็นต้องลงจอดฉุกเฉินที่อิสตันบูล ตุรกี ซึ่งอยู่นอกเส้นทางการบิน
ช่วงที่เครื่องบินลงจอด ฉันจิตตกคิดอะไรไม่ออก ไถดูข่าวเห็นแต่ข่าวมีการถล่มยิงขีปนาวุธ ปิดน่านฟ้า แม่เจ้า! เราอยู่ในดงเลยนะ! คิดอะไรไม่ออก ก็ได้แต่เก็บของ เพราะคิดว่าจะต้องลงจากเครื่อง หรือต้องไปอยู่ที่ไหนสักที่หนึ่ง จากนั้นกัปตันก็ได้ประกาศอีกว่า ให้นั่งอยู่กับที่ ตอนนี้ยังไม่สามารถแชร์ข้อมูลใดๆ ให้ได้ ถ้ามีข้อมูลเพิ่มเติมจะแจ้งให้ทราบ! คืออะไรๆๆๆ
ทุกคนอึ้ง บางคนก็ยกโทรศัพท์ติดต่อทางบ้านกันเสียงดังลั่นเครื่อง ผ่านไปไม่ถึงชั่วโมง กัปตันประกาศอีกครั้งว่า เครื่องพร้อมขึ้นสู่โดฮาตามเป้าหมาย ไปได้อะ?!! เรายังแอบคิดว่า เอ๊ะทำไมเปิดน่านฟ้าเร็วจัง แล้วจะปลอดภัยมั้ยเนี่ย แล้วถ้ายิงถล่มกันอยู่ล่ะ มันใกล้มากเลยนะ แต่เอาเถอะ ก็ทำอะไรไม่ได้แล้วได้แต่ลุ้น พอเครื่องลงสนามบินโดฮา ทุกคนก็เดินกรูแบบมึนๆ กันไปที่เคาน์เตอร์ บางคนทะเลาะแย่งคิวกันวุ่นวาย เพราะล้วนตกเครื่องที่จะต่อไปจุดหมายปลายทาง เราต้องหาเครื่องเข้า กทม. รอไป 7 ชั่วโมง!
แต่ทางสายการบินก็บริหารจัดการดีมาก แบ่งผู้โดยสารเป็นกลุ่มประเทศ ใครรอเครื่องนานให้ทั้งโรงแรมที่พักและ voucher ฟรี กินอาหารอย่างเอร็ดอร่อยในสนามบินหรูหราอลังการที่โดฮาเป็นค่าตกใจ แป๊บเดียวเคลียร์ผู้โดยสารที่ค้างรอหมดเลี้ยง หายเครียดเดินทางกลับบ้านปลอดภัย พี่กาตาร์ เขาไม่ธรรมดาจริงๆ ม้วนเดียวจบ โชคดีพร้อมกับขีปนาวุธก็หยุดถล่มทันที”..
ขอบคุณภาพประกอบ : nusbapunnakanta
ดูข่าวต้นฉบับ
ที่มา : https://www.dailynews.co.th/news/3359848/
ขอขอบคุณ : https://www.dailynews.co.th/news/3359848/
