‘นุ่น ดำดง’ ซบอกวงใหม่แล้ว ลั่นถ้าไม่สุดจริงหนูคงไม่ร้องไห้


ให้คะแนน


แชร์

จากกรณีประเด็นร้อนแรงที่ชาวเน็ตบนโลกออนไลน์ยังคงจับตามองอยู่ต่อเนื่อง สำหรับเรื่องราวของลิเกสาว “นุ่น เนตรชนก” หรือที่ทุกคนรู้จักในชื่อ “นุ่น ดำดง” หลังจากที่ได้ร่ำไห้ประกาศลาออกจากลิเกคณะ “ศรราม น้ำเพชร” กลางไลฟ์สด จึงทำให้กลายเป็นกระแสดราม่า แฟนๆต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ ตามที่เคยเสนอข่าวไปนั้น

ล่าสุด นุ่น ดำดง ได้เปิดใจให้สัมภาษณ์กับรายการแฉ เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวที่เกิดขึ้นทั้งหมด โดยนุ่นได้เผยว่า “ในเรื่องของดราม่าจริงๆรับมือไว้แล้วในระดับนึง ว่ายังไงก็จะต้องมีสิ่งที่ดีมา สิ่งที่ลบก็จะต้องตามมา ก็ทำใจไว้ส่วนนึงแล้ว แต่ว่าบางทีก็โถม ฉุดไม่อยู่ ก็ต้องแก้ปัญหาโดยที่เงียบไปก่อน เวลาหนูร้องไห้ ถ้ามันไม่สุดจริงๆ หนูจะไม่ร้องเลย เพราะด้วยความที่เราเป็นเสาหลักของครอบครัว”

“ส่วนในเรื่องการออกจากวง มันเป็นเรื่องข้างในมากกว่า คุยกันแล้ว แต่ว่าโอเคไม่เป็นไร ก็ถอยออกมา จริงๆ ก่อนหน้าที่จะไลฟ์ ได้คุยกันแล้ว ก่อนหน้านี้ที่เล่นไปแล้วเหมือนต่างคนต่างอึดอัดแต่ไม่ใช่ทั้งหมด แล้ววันที่ 27 ก็เลยพักก่อนหยุดก่อน แล้วมันเป็นวันที่เราไม่สบาย เราก็เลยส่งข้อความส่งความในใจทั้งหมดส่งทางเฟซบุ๊ก ให้พี่คนนึง และคนที่อยู่กับป้าดวงแก้วส่งไปทั้งหมดเลย ซึ่งทุกคนไม่รู้ว่าจะออก

“ส่วนในเรื่องของการแสดงลิเกนั้นไม่เลิกเล่นแน่นอน หนูยังเล่นลิเกอยู่ และมีคณะอื่นเข้ามาทาบทาม แต่ตอนนี้ถ้าเป็นคณะอื่นๆ ที่ยังไม่เคยไปหรือยังไม่คุ้นชิน ก็ถือโอกาสบอกเขาไปว่าเดี๋ยวมีโอกาสจะไปรับเชิญ รอให้พร้อมก่อน ส่วนตอนนี้ขอเล่นกับคณะพ่อของหนุที่โคราชก่อน และขอเล่นกับเพื่อนที่คุ้นชินกันไปก่อน”

นุ่น ได้เผยต่ออีกว่า “เล่นลิเกทุกคืนมา 8 ปี ซึ่งตอนช่วงโควิดก็เล่นกลุ่มปิดออนไลน์ เติบโตกับครอบครัวลิเกมาตลอด แต่ต้องหาเลี้ยงตัวเอง อยู่กับวงของพ่อ แล้วก็มาอยู่กับคณะศรราม น้ำเพชร ตอนนี้ก็ได้ออกมาจากคณะแล้ว ตอนนี้ก็ใช้ชีวิตปกติ ไม่ได้รับมือกับความดังในตอนแรกไม่ได้ตั้งใจด้วย คิดว่าถ้าโอกาสมาแล้วก็ทำให้ดีที่สุด บกพร่องให้น้อยที่สุด”

ซึ่งจุดเริ่มต้นการเป็นลิเก สาวนุ่นเผยว่า “อยู่ในโรงลิเกตั้งแต่ยังไม่ถึง10ขวบ ตอนนี้อายุ 30 ปี ทำอาชีพลิเกเป็นหลัก พ่อกับแม่เป็นลิเกอยู่แล้ว ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะในจังหวัดโคราช ไม่ได้มีงานเยอะ แต่ก็เรื่อยๆ ตั้งแต่จำความได้ภาพที่เห็นคือแม่เล่นเป็นตัวโกง พ่อเป็นพระเอก เลี้ยงนุ่นมาจากโรงลิเกเลย พอเริ่มโต แม่ก็เริ่มแต่งหน้าแต่งตัวให้ แล้วให้ใส่ชุดลิเก ตอนนั้นก็ 10 ขวบ ด้วยความที่เราเห็นลิเกทุกวันอยู่แล้ว ก็เลยรู้แนวว่าลิเกก็คือประมาณนี้ พอออกไปแม่ก็บอกว่าให้ร้องกลอนนี้ แต่คือเราฟังอยู่ทุกวันอยู่แล้ว ก็เลยจำได้ มันอยู่ในสายเลือด ตอนอายุ 15 ปี ตอนนั้นเป็นนางเอก แต่ว่าตอนนั้นปู่ป่วยหนัก ป่วยติดเตียง พ่อก็เลยต้องไปดูปู่ ก็เหลือแค่นุ่นกับแม่ที่เล่นลิเก ตอนนั้นเพิ่งจะได้เป็นตัวที่ไดรับหน้าที่ ที่เป็นบทนางเอก บทอะไรแบบนี้ ก็ใครหาก็ไป แต่การเดินทางมันจะยาก เราต้องขึ้นรถโดยสารเพราะแม่ก็ขับรถไม่เป็น เราก็ไม่เป็น ก็ต้องแก้ปัญหาไป ซึ่งหนูจะอยู่สองคนกับแม่อยู่แล้ว ก็อยู่บ้านเช่า ไม่เคยมีตังติดตัวกับแม่เกินสองร้อยบาทในทุกวัน หาได้ก็ใช้ เพราะว่าลิเกไม่ได้มีทุกวัน ก็คือไปวันนึงหยุดสามวัน ไปสองวันหยุดอีกห้าวัน มันได้มาก็ใช้ไป ก็มันอดแต่ก็ลำบาก เป็นแบบนี้อยู่นาน จนลุงมนต์รักพ่อของศรรามโทรมาชวนไปอยู่ด้วย หนูก็ตกลงไปอยู่ด้วย จังหวะพอดีไม่รู้จะไปอยู่ไหน งานแรกได้ 1,200 บาท เยอะมาก หนูก็เอาเงินให้แม่ อยากซื้ออะไร ก็ซื้อได้เลย เล่นวันแรกยังไม่มีรางวัลหน้าเวที เริ่มเล่นบทนางเอกกับ ศรราม น้ำเพชร มา 8 ปี เล่นดำดงมา 5 ปี เป็นจุดเปลี่ยนชีวิต งานเขาแน่นมานานแล้ว”

“ส่วนเรื่องบทบาทดำดงนั้น เปลี่ยนชีวิตเราไวมาก พอกระแสมาปุ๊บ ทุกอย่างก็เข้ามาพร้อมๆ กัน ด้วยงาน คนดูหน้าใหม่ๆ เอฟซีหน้าใหม่ๆ เข้ามา ได้พวงมาลัยเงินเยอะสุด 2 ล้าน ส่วนรถฮุนไดที่ได้มาเป็นค่าพรีเซ็นเตอร์”

หลังจากที่รายการได้ออนแอร์ไป ก็กลายเป็นที่น่าสนใจอย่างมาก เพราะแฟนๆที่ติดตามสาวนุ่นได้ส่งกำลังใจให้กับสาวนุ่นผ่านโซเชียลส่วนตัวของเธอเป็นจำนวนมาก…

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เนตรชนก นุ่น

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.dailynews.co.th/news/3438514/
ขอขอบคุณ : https://www.dailynews.co.th/news/3438514/