“ครูไพบูลย์” เดือดฟาดรัวหลังอดีตภรรยาจุดไฟดราม่าไม่ยอมจ่ายค่าเลี้ยงดูลูกอีกแล้ว
วนกลับมาให้ได้ปวดหัวกันอีกแล้วสำหรับเรื่องราวในครอบครัวของ ครูไพบูลย์ แสงเดือน หนุ่มเจ้าเสน่ห์สุดฮอตกับอดีตภรรยาคนแรก ที่ออกมาฟาดกันไปมาเรื่องค่าเลี้ยงดูลูกชายคนแรก ซึ่งทำเอาหลายคนอยากรู้เรื่องราวและพากันติดตามเกาะติดเรื่องนี้หนักมาก
ล่าสุดหลังเรื่องเงียบไปและอดีตภรรยาออกมาแฉในครั้งนี้ เรื่องก็ไปถึงหูครูไพบูลย์ และไม่พลาดออกมารีโพสต์ข้อความเก่าเมื่อ 26 มกราคมที่ผ่านมา โดยมีการเขียนข้อความกำชับว่า “ผมเคยชี้แจงไปแล้วนะครับ เรื่อง #ค่าเลี้ยงดูบุตรจนตอนนี้ผมก็ยังไม่ได้เลขบัญชีที่ผมจะโอนให้ลูก เพราะเรานัดกันเปิดบัญชีมา 2 รอบแล้ว แต่เขาก็ไม่มาเปิดสักที แต่ถ้าเขาเปิดให้ลูกแล้ว ส่งเลขบัญชีมาเลย ผมพร้อมโอนให้ และโอนเผื่อไว้ให้ด้วยครับ พอเถอะครับกับวิธีการแบบนี้ ต่างคนต่างอยู่ต่างทำหน้าที่พ่อแม่ที่ดีนะครับ ขอร้องหละครับ”
จากนั้นครูไพบูลย์ก็เดือดต่อและมาร่ายยาวอีกหนว่า “ขอใช้พื้นที่ส่วนตัวชี้แจงนะครับ ความจริงแล้ว ล่าสุดที่ขึ้นศาลด้วยกันทุกฝ่ายชัดเจนว่าค่าเลี้ยงดูคุณพูดเองว่าไม่อยากได้ไม่ต้องให้ แต่สิ่งที่ลูกสมควรได้เราสองคนก็เห็นต้องตรงกันว่าจะให้ผมเก็บเงินไว้ให้ลูกในเดือนละ ๑๐,๐๐๐ บาท โดยเปิดบัญชีที่ลูกสามารถถอนออกมาได้เมื่ออายุครบ ๒๐ ปี บริบูรณ์แล้วทุกฝ่ายก็ตกลงตามนั้น #ผมเคยโพสต์ชี้แจงแล้วด้านล่างก่อนออกจากศาลผมจะพากันไปเปิดบัญชีที่จังหวัดเลย ก็บอกว่าไม่พร้อมเรื่องเอกสารลูกไม่ได้เอาบัตรประชาชนมาขอเลื่อนวันเปิดบัญชีออกไป ก็เลยนัดวันใหม่เพื่อไปเปิดบัญชีตามที่ตกลงกันที่เซ็นทรัลขอนแก่นกันอีกครั้ง พอถึงวันนัดผมก็ไปนั่งรออยู่หน้าธนาคารหลายชั่วโมง ติดต่อกลับมาบอกบัตรประชาชนลูกหายต้องทำใหม่ หลังจากนั้นก็เอาเอกสารไปทำใหม่ ไม่เคยติดต่อกลับมาว่าทำเอกสารเสร็จแล้วหรือไม่ และหายไปเลยอย่างน้อยๆทำเอกสารลูกเสร็จแล้วก็บอกผมสักนิดก็ได้ว่าพร้อมแล้ว อยู่ๆมาโพสต์แบบนี้ผมก็เริ่มสงสัยแล้วว่าจริงๆแล้วต้องการอะไรกันแน่ พอเถอะครับ จบสักที เอาเลขบัญชีลูกให้ผมด้วย ขอบคุณครับ”
งานนี้แฟนเลยมาไลก์และแสดงความเห็นหลากหลายทั้งบอกว่าเรื่องในบ้านอย่าเอาออกมาอีกเลย บ้างก็บอกว่าคุยกันเองดีกว่าไหมจะได้จบ บ้างก็บอกว่าสงสารทุกฝ่าย โดยเฉพาะเด็ก เป็นต้น
ขอขอบคุณภาพประกอบจากเฟซบุ๊ก ไพบูลย์ แสงเดือน
ดูข่าวต้นฉบับ
ที่มา : https://www.dailynews.co.th/news/3503450/
ขอขอบคุณ : https://www.dailynews.co.th/news/3503450/
