“หนุ่ม กะลา” ชี้เหตุฟ้อง จูนเอาเงินไปไหน ขอให้ปิดหนี้ แล้วหย่าขาด


ให้คะแนน


แชร์

กลับมาร้อนแรงอีกครั้งสำหรับเรื่องราวของนักร้องเสียงนุ่ม “หนุ่ม กะลา” ได้มอบหมายให้สิทธิ “ทนายเดชา” เดินเรื่องฟ้องคนใกล้ชิดถึง 2 คนในคดียักยอก ซึ่งทางด้านของ ทนายเมียหลวง ออกมายอมรับว่า คือ “จูน เพ็ญชุลี” ภรรยาคือหนึ่งในนั้นที่กำลังถูกฟ้อง รวมถึงล่าสุด หนุ่ม กะลา ยังออกมาบอกว่า เตรียมเข้าพิธีอุปสมบท 

ในวันที่ 7 มิถุนายน เวลา 19.30 น. หลังจากเกิดประเด็นร้อน “หนุ่ม กะลา” ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าว พร้อมกับ ทนายเดชา เจ้าของวลีจุ๊กกรู ที่เคยดูแลคดีให้แม่แต่งโม 

ทนายเดชา : จะเปิดใจหลายครั้ง แต่ไม่มีโอกาส เลยอยากจะเปิดใจเรื่องห้างหุ้นส่วนซึ่งงานหายไปจากบัญชีมานานหลายปีแล้ว และได้มีการตรวจสเตจเมนต์คดีฟ้องเมียน้อย เลยถามว่า หายไปรวมๆ 66 ล้าน ไม่เคยทราบ และช็อก เลยมีการตรวจสอบสเตจเมนต์ เขาไปในบัญชีภรรยาหมด ของบริษัทเขาหมด เลยแยกกันอยู่ ดูบัญชีเหลือเงิน 2-3 แสน เลยรวบรวมพยาน 12 พค 67 ฟ้องไปแล้วที่ศาล ไม่อยากเป็นข่าว แต่ทางคู่กรณีกลับไปปล่อยข่าวในโซเชียล

หนุ่ม กะลา : จริงๆหลักๆ ไม่อยากให้เป็นข่าว ที่ผ่านมา สังเกตผลตั้งแต่เป็นข่าวเรื่องมือที่สาม ผมออกแค่ครั้งเดียว เพราะเกรงจะกระทบลูก จะถูกหรือผิดไม่สำคัญ ถ้าบานปลายจะไปถึงลูก วันนั้นผมจะบวช ผมโทรหาพี่เดชา พี่อย่าทำข่าวนะ ผมจะบวช ผมเหนื่อยมาพักนึง พี่เดชารับปากบอกไปบวชได้ แต่พอไม่ได้ทำข่าว เริ่มมีข่าวออกมาจากบางเพจ บวชหนีไปอยู่กับเมียน้อย หรืออะไรก็แล้วในสองวันนี้หนักมาก ไม่ได้เล่น แต่มีคนส่งให้ดู ผมให้พี่เดชนวิเคราะห์ว่าร้ายแรงถึงไหน จนพี่เดชาบอกว่ามันไปไกลแล้วพูดหน่อยไหม ผมมีเจตนาเพื่อให้ศาลตัดสิน และเป็นคนคุย เพื่อเป็นการคุยภายใน ไม่ใช่ใช้สื่อกดดันจนถึงเวลาที่เขาพูด 

หนุ่ม กะลา : จริงๆต้องบอกว่า ที่ผ่านมา นับตอนที่ผมเป็นศิลปินเดี่ยว ไม่สงสัยเรื่องเงิน เพราะเป็นสามีภรรยา มีหน้าที่หาเงินอย่างเดียว จ่ายค่าไฟยังไม้ จนถึงจุดที่จะคืนเงินแค่ไม่กี่แสน เราเลยเดี๋ยวนะ ผมต้องรับผิดชอบเพิ่ม แล้วเงินที่เหลือหายไปไหนหมด ผมได้เป็นแค่เงินเดือน เดือนละสี่หมื่น เลยเช็กทางมือถือคร่าวๆ เงินออกไปในชื่อเพ็ญชุลี ผมเคยพูดกับจูนว่า ทำไมบ้านเราไม่มีเงินสิบล้านสักที ทำไมผมไม่เป้นักร้องที่มีเงินสิบร้านสักที ผมเป็นกรรมต้องเซ็ฯเบิกเงิน เป็นผมคนเดียวที่ต้องเบิก แต่คำถามคือททำไมเงินออกได้ โดยที่ผมไม่ต้องเซ็นชื่อ สมมติผมมีรายได้สองล้าน พอผมทำงานมาครึ่งปี เลยรู้สึกว่า เงินหายไปไหน คำตอบที่ได้คือมีค่าใช้จ่าย ไม่ใช่แค่เกิดขึ้นตอนเป็นข่าว เกิดขึ้นตั้งแต่ตอนอยู่วงกะลา จนกระจ่างในยอดสเตทเมนต์ มันถูกกระจาย ซึ่งเงินจะเข้าทุกวันศุกร์ ผมคุยกับจูนมาหลายเดือนมาก ตอนนี้ผมเป็นหนี้ 10-20 ล้าน ถ้าบริหารผมได้จริงๆ ทำไมเป็นหนี้ มีหนี้บ้าน รถเขาสองคัน คอนโดอีก พอผมเห็นเลยมาพบพี่เดชา ผมไม่ได้จะเอาเงินคืน นี่แค่ช่องทางเดียว ยังมีบัญชีอื่นอีก ต่อให้เป็นร้อยล้านก็ไม่เอาคืน แต่ขอมาโดยตลอด ปิดหนี้ให้หน่อย ถ้าเป็นไปได้ขอเงินห้าล้าน ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป้นไร ความจริงแล้ว จูนบอกจะหย่า ผมเลยบอกว่า ยังหย่าไม่ได้ เพราะเงินของฉันอยู่ที่ไหน

ได้เงินเดือนกี่บาท?

หนุ่ม กะลา : มันจะค่อยเพิ่มๆ ก่อนหน้านี้ได้เงินสองหมื่น เลื่อนมาสี่หมื่น และ ตอนที่แยกบ้านเพิ่งได้หนึ่งแสน ผมอยู่ด้วยเงินสี่หมื่นไม่ได้ เวลาทัวร์ ต้องมีค่าใช้จ่ายที่ต้องให้ลูกน้อง และพอกลับไปอยู่กับแม่ ต้องมีค่ารับผิดชอบเพิ่มเติม 

เงินหายไปไหน? : 

คุยครับ เขาบอกว่าไม่มีเงิน ตอนเป็นประเด็นข่าวว่า ผมมีเงินแปดล้าน ผมไม่เคยรู้เลย เกิดมาทั้งชีวิต ไม่เคยเห็นเงินตัวเองเกิดห้าล้าน ตอนเลิกกันไป เขาบอกว่าขอเก็บเงิน 8 ล้านให้ลูก เราะมีคำถามทุกครั้งที่ไปธนาคาร ไม่ได้คิดจะไปไหนกับเขา แต่ไม่คิดว่า คนนึงจะใจร้ายที่ทิ้งหนี้ไว้ขนาดนี้ ค่าใช้จ่ายในบ้านผมราว 7 แสน 

สาเหตุที่ฟ้องร้อง?

หนุ่ม กะลา : ฟ้องเพื่อเขาจะแจงว่า เงินหายไปไหน แจงได้หรือไม่ได้ ถ้าไม่อยากให้บานปลาย ปิดหนี้ให้หน่อย แล้วจบกันไป เขาบอกว่า จะฟ้องก็ฟ้อง ไหนหมาย จดทะเบียนสมรสครับ ตอนที่ผมออกจากบ้าน ผมได้แต่หนี้ ของที่ผ่อนหมดเขาได้รับไป

ไม่มีสินสมรส? 

ทนายเดชา : ไม่มีสินสมรส ด้วยความที่สินสมรส ถูกจ่ายไป เมื่อฟ้อง จะไม่สามารถเรียกคืนได้ แต่ถ้าคุณได้ทำการยักยอกส่วนนี้ซึ่งไม่ใช่สินสมรส แต่เป็นเงินของบริษัท หนี้สินที่เกิดขึ้นตอนสมรส หย่ากันต้องแบ่งกันกึ่งหนึ่ง แต่ที่ยักยอกไปไม่ใช่สินสมรส โจทย์ที่ฟ้องคือบริษัท ไม่ใช่หนุ่ม กะลา 

หนุ่ม กะลา : ผมรู้สึกผิดที่ทำสิ่งนั้น หลังจากนั้นกลายเป็นเรื่องที่เราอยู่กันไมไ่ด้ พอเราแยกทางก็เป็นเรื่องที่ต้องตกลงกัน ลองตกลงกันไม่ได้ เหมือนเราทำงานหนึ่งร้อย แล้วต้องจ่ายให้เขาเกือบทั้งหมด แถมยังมีหนี้ ผมรู้สึกไม่ได้รับความยุติธรรม 

ถ้าเขามีหลักฐานมายืนหยัดว่าไปอยู่ส่วนไหนได้?

หนุ่ม กะลา : มันดีสิครับ จะได้รู้ว่ามันหายไปไหน จะได้ปิดหนี้ ก็จบกัน หย่า และตกลงกันเรื่องลูก

หนุ่ม กะลา : ผมคุยในไลน์ตลอด มีอารมณ์คุยนุ่มนวล คุยทุกแบบ แต่เขาบอกไม่มี อาจจะไม่ได้คุยเรื่องเงินจำนวนนี้ พูดทำนองว่า เอาเงินมาปิดหนี้ให้หน่อย ขอห้าล้านจบเลยต่างคนต่างไป บ้านถ้าปิดหนี้ ก็ให้เป็นชื่อเราทั้งสองคนได้ สองปีที่ผมบอกแยกออกจากบ้าน สองปีที่ผมไม่ได้เอาออกมาใช้ มีแค่เงิน 4 หมื่นบาทต่อเดือน เท่ากับว่า เงินเดือนต่อเดือนยี่สิบกว่าล้าน เข้าที่เขาเต็มที่ 

ทนายเดชา : รายชื่อหุ้นส่วน มีตัวเขาแล้วก็น้องสาวเขา  

หนุ่ม กะลา : ตอนนี้ผมดูแลบัญชีเองแล้ว คนที่เซ้นอนุมัติต้องเป็นผม แต่แอบตกใจเหมือนกัน อาจจะเป็นไปได้ว่า ใช้แอป ในส่วนของน้องสาวให้ก็ปรึกษากัน เขาบอกว่าแล้วแต่ผม ช่วงที่เราดูแลเงินเข้าออกก็เยอะ ปีที่แล้วรับงานน้อยกว่าเดิม ไม่รวมค่าลิขสิทธิ เงินเข้าต่อปีประมาณ 20 ล้าน ตั้งแต่เป็นสามีภรรยา เงินห้าล้านที่เห็นคือช่วงกอดโควิด ตอนนั้นเครียดมาก เพราะโควิดพอดี แล้วเราเครียดมาก ไม่มีงาน แต่พอเห็นบัญชี ถ้าพูดกับเราสักคำจะไม่อะไร 

หนุ่ม กะลา : ทุกครั้งที่ได้ยินเขาจะบอกว่า ค่าใช้จ่ายเยอะเธอจะไปถือเองไหม แต่ไม่ว่าผมหรือจูนจะพูดอะไร สเตทเมนต์ฟ้องชัดเจน 

ทนายเดชา : จะมีการนัดในชั้นศาล ในช่วงเดือน ก.ค. ซึ่งคดีนี้หลักฐานเส้นทางการเดินเงินค่อนข้างชัด 

หลังจากที่ข่าวนี้ปรากฏเขาอาจจะมองว่า เขาเป็นผู้หญิง ต้องดูแลลูก?

หนุ่ม กะลา : 25 ปีที่ผ่านมา เป็นเงินผมนะครับที่เลี้ยงดูลูก และครอบครัว ผมทำผิดก็ยอมรับ ไม่ดีที่สุด แจ่ถ้าเรื่องดูแล ผมทำดีที่สุด ตลอด 25 ปีการเป็นนักร้อง เงินของผมทั้งหมด ต่อให้มีเป็นร้อยล้านผมไม่เอาคืน เพราะเชื่อว่า จูนจะดูแลลูกได้เป็นอย่างดี แค่อยากให้ปิดหนี้ได้

เรื่องการยักยอก เลยทำให้นอกใจ?

ทนายเดชา : เบื่อไม่อยากกลับบ้าน 

หนุ่ม กะลา : ไม่เกี่ยวครับ 

อยากคุยอะไรกับเขา ก่อนไปถึงศาล?

หนุ่ม กะลา : เวลาไปส่งลูกตอนหัวค่ำ ทำไมไม่หันมาคุยบ้าง ถ้าผมว่าง ผมจะไปรับลูกตลอด ทำไมไม่คุยกับผม เราคุยกันอยู่แล้ว ทำไมไม่คุยกันให้จบ ปฏิเสธไมไ่ด้หรอกว่า คุณไม่มีเงิน ควรจะเอามาเคลียร์

ทนายเดชา : ที่จริงมีบัญชีธนาคารอื่นอีก ยังไม่ได้ตรวจสอบ อันนี้แค่กสิกรไทยอันเดียว

หนุ่ม กะลา : ผมไม่ได้คาดหวังให้เขาชิบหาย แต่ผมเป็นหนี้ ยิ่งผมเป็นข่าว มันยิ่งไม่เป็นผมดีกับงานบันเทิง ผมก็อายุเยอะ ผมจะหาเงินที่ไหนมาเลี้ยงลูก แต่การที่ให้เพื่อนไปโพสต์ว่า บวชเพื่อจะอยู่กับเมียน้อย มันไม่ใช่เลยครับ ถ้าเขาอยากคุยกับผมจริงๆ ไม่ใช่คุยผ่านสื่อ

เรื่องบวช?

หนุ่ม กะลา : บวช 15 ก.ค. ประมาณเดือนนึง เหนื่อยครับ ไม่ใช่แค่ข่าว แต่ผมทำงานเยอะเกิน มันเลยหนักมาก เลยอยากจะอยู่สงบๆจริงเกี่ยสทั้งเรื่องส่วนตัว ทั้งเรื่องงาน ที่จริง ถ้าผมรู้ผมจะไม่บวช แต่ที่จริงโชคดีว่า ผมไม่ได้ฟ้อง หรือ จะฆ่าเขา  ผมแค่อยากคุย ถ้าคุยไม่ลงตัวไมไ่ด้กระทบกับการบวชครับ บวชแน่นอน 

หนุ่ม กะลา : เร็วๆนี้จะปล่อยซิงเกิ้ลหรือไม่ ถ้าเปรียบชีวิตของตัวเอง เหมาะกับเพลง “ปล่อย” เพราะเนื้อหา ปล่อยชีวิตไปตามโชคชะตา ปล่อยวางทุกอย่าง ผมไม่ได้เล่นโซเชียลที่เห็นลง คือเป็นหน้าที่ เลยรู้สึกนิ่งๆ ได้จังหวะพอดี เดือนกว่าสำหรับผมจะเป็นประโยชน์ต่อใจมาก ก่อนที่คนทั้งโลกจะรู้ ผมบอกจูน ขอให้พามางานบวช วัดบวร วัดป่า 

สบายใจขึ้นไหม?

หนุ่ม กะลา : ไม่เคยสบายใจขึ้น ไม่รู้สึกดีขึ้น มีเรื่องมาตลอด 

หนุ่ม กะลา : ผมไม่ได้มั่นใจว่าเขามีเงิน เพราะผมเชื่อว่า ต่อให้ขึ้นศาลผมก็จะไม่ได้เงิน แต่ที่ผมมั่นใจเพราะเห็นสเตทเมนต์ ไม่คิดมาก่อน ถ้าไม่ใช่นักร้องผมบื้อๆมาก ทำไรเองไม่ได้ จูนเหมือนเป็นทุกอย่างให้ เขาทำแทน บางอย่างต่อให้สงสัยก็ไม่ได้เอ่ยปากถาม เพราะเราอยู่กันมานาน เหมือนอยากได้แว่นสักอัน แม่ไม่ซื้อก็แค่หงุดหงิด เวลาไปช็อปปิ้ง ก็เท่าที่เขาจะกรุณาให้ อันไหนเหมาะเขาก็จะให้ ไมโครโฟนที่ผมร้อง ก็ต้องเก็บเงินซื้อเอง 

เขาใช้เงินของเราอย่างไรบ้าง? 

หนุ่ม กะลา : ผมพูดได้เหรอครับ ไม่อยากให้คนมองเขาไม่ดี ไม่ว่าจะของแพงแค่ไหนที่เขาซื้อ จะอยู่ในสายตาของผม แต่หลังจากแยกบ้าน เห็นช็อปแบรนด์เนมห้าใบ แอบตกใจเหมือนกัน เงินเดือนเขาเท่ากับที่ผมร้องเพลงคืนนึง เลยแบบเราลำบากมาก เหนื่อยมาก ทั้งที่เขาสุขสบาย ที่จริงชีวิตคู่จบมานานแล้ว แต่จะร้าวไปกว่านี้ไหม ผมตอบไม่ได้ ผมไม่ได้โกรธ ไม่ได้อยากให้เขาติดคุก เพราะเรื่องนี้มีผลต่อบริษัที่เขาทำงาน ผมแค่อยากคุยอยากได้ในส่วนที่เป็นธรรมกับผม 

หนุ่ม กะลา : สมมติถ้าผมผิด ผมยอมรับผิด แต่ครั้งนี้กลับกัน เขาทำผิดจริงๆ เขาควรอยู่เฉยๆ ไม่ใช่ใช้สื่อบีบให้คนด่าผม แล้วกระทบกับงาน แล้ววนไปที่ลูก ผมไม่มีเงินเลี้ยงลูก ตอนนี้กระทบกับงานเยอะมาก มีผลเยอะมาก สายตาไม่ได้เปลี่ยนแต่พอเล่นข่าว คนเริ่มเสื่อมศรัทธา เราเป็นนักร้องเราขายความเชื่อบางอย่าง แต่พอเขามองเป็นผู้ร้ายย่อมมีผล ร้องเพลงแล้วไม่อินก็เห็นบ้างครับ ก็ยังร้องเพลงได้ต่อ แต่งเพลงได้อยู่ ทำงานได้ 

อยากบอกอะไรกับแฟนๆไหม?

หนุ่ม กะลา : ก็.. ผมเคยขอโทษไปแล้ว ผมยืนยันคำเดิม ผมอาจจะทำตัวไม่เหมาะสม แต่เรื่องที่ยักยอก เพื่อปกป้องตัวเอง และครอบครัว เพราะทุกครั้งที่เป็นข่าว ได้รับผลกระทบ อย่างน้อยที่สุดก็อยากให้ทุกคนได้ฟังเป็นข้อมูล

ทนายเดชา : ความประสงค์ของลูกความคืออยากให้จบ ไม่ต้องมายุ่งเคลียร์เรื่องหนี้สิน ไม่ใช่มาเล่นทางโซเชียล ที่จริงมีเรื่องเลวร้ายยิ่งกว่า มีพยานที่เขาทำแรงๆยิ่งกว่า อยากให้มันจบกันไป การที่ฟ้องเป็นเหตุผลทางกฏหมายที่เขาต้องชี้แจง ยิ่งบอกว่า เอาไปเลี้ยงลูกก็ต้องมาแจง 

เรื่องการหย่า?

หนุ่ม กะลา : ยังไงก็ต้องหย่า ต้องเคลีบร์หนี้ให้จบ เพราะเขาก็อยากหย่า 

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.komchadluek.net/entertainment/thai-entertainment/576390
ขอขอบคุณ : https://www.komchadluek.net/entertainment/thai-entertainment/576390