น.ส.เพ็ญชุลี หนูแก้ว หรือ จูน ภรรยาหนุ่ม กะลา มอบหมายให้ นายอนุสรณ์ อะสุระพงษ์ หรือ ทนายพัฒน์ เป็นตัวแทนแถลงข่าว หลังถูกฟ้องยักยอกเงิน 66 ล้านบาท รวมถึงนำเงินไปซื้อของแบรนด์เนมหรู โดยทนายพัฒน์บอกว่า เท่าที่สัมผัสส่วนตัว ปกติของคนในสังคมระดับนี้ มีหน้าที่การงานและฐานะในสังคม ตนมองว่าไม่ใช่เรื่องแปลก ซึ่งคุณจูนเองก็ไม่ได้ใช้ของหรูขนาดนั้น 

ทั้งนี้ต้องดูวัตถุประสงค์ของการใช้เงิน สามีภรรยาคู่นี้ใช้เงินกันมาตั้งแต่แรกแบบไหน ในนามของห้างหุ้นส่วนฯ และต้องดูว่าใช้เงินในวัตถุประสงค์ใด ไม่ใช่ว่าโอนเงินบริษัทแล้วใช้ในนามนิติบุคคลจะผิดทุกกรณี ต้องดูว่าการใช้เงินเกิดประโยชน์กับห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทอย่างไรบ้าง และบางส่วนอาจนำมาใช้ในครอบครัวของทั้งคู่  

จากการตรวจสอบ statement พบว่า คุณจูนและคุณ หนุ่ม กะลาโอนเงินไปยังบุคคลอื่น ต้องมาไล่รายละเอียดว่าแต่ละคน คือ ค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง ในส่วนของคุณจูนพบเพียงตัวเลขจำนวนเงิน 17 ล้านบาท ที่หมุนเวียนต่อเดือน และช่วงปี 66 พบงบการเงิน 21 ล้านบาท ซึ่งคุณจูนจะเป็นผู้ดูแลบัญชี การจ่ายเงินจะเป็นทางฝ่ายชายที่ต้องลงชื่อ แต่คุณจูนก็สามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้ผ่านระบบออนไลน์ เพราะมีรหัสของบัญชี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานการโอนเงินในช่วง 8-9 ปี โอนประมาณเกือบ 200 ครั้ง ส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัวและเป็นค่าใช้จ่ายของฝ่ายชาย

ทนายพัฒน์ กล่าวถึงการออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวด้วยตัวเอง เพราะขณะนี้คุณจูนยังไม่พร้อมให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ยังเสียใจอย่างหนักกับหมายศาลที่ได้รับ โดยคุยกันครั้งสุดท้ายเมื่อช่วงบ่าย พบว่าสภาพจิตใจไม่ค่อยโอเค มีเรื่องครอบครัว ลูกสาววัย 4 ขวบเข้ามาเกี่ยวข้อง จึงเป็นเรื่องที่หนักและคุณจูนบอกอีกว่าเรื่องทั้งหมดควรมีการพูดคุยกันดีๆ หรือให้ผู้ใหญ่เข้ามาพูดคุยกันเพื่อหาทางออก 

เมื่อถามว่ามั่นใจว่าจะสู้ได้ 100% หรือไม่ ในฐานะทนายความ ทนายพัฒน์ ขอเสนอพยานหลักฐานให้ศาลพิจารณา ซึ่งไม่ได้ดูแค่ statement ต้องดูหลักฐานอื่นๆประกอบกันด้วย ส่วนคดีศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 23 ก.ค. นี้ เวลา 08.30 น. ที่ศาลแขวงสมุทรปราการ ซึ่งคุณจูนก็จะไปด้วยตัวเอง และส่วนตัวไม่ได้หนักใจอะไรต้องดูที่หลักฐาน แต่ที่หนักใจคือไม่อยากให้เรื่องนี้ยืดเยื้อ และไม่ทราบเจตนาของคู่กรณีว่าทำไมถึงใช้ข้อกฎหมายนี้ จึงต้องถามกลับไปที่คู่กรณี และคุณจูนไม่รู้ตัว ที่ผ่านมาทั้งคู่คุยกันผ่านไลน์ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องครอบครัว แต่ไม่ได้คุยเรื่องปัญหาให้ชัดเจน

เมื่อถามว่าขณะนี้ใจของคุณจูนยังอยากหย่าหรือไม่ ทนายพัฒน์ ระบุว่า ในใจลึกๆคงไม่อยากหย่า เพราะเป็นเรื่องในครอบครัว และเพิ่งระหองระแหงกันเมื่อปีที่ผ่านมา ก่อนมีคดีฟ้องชู้ หรือ มือที่ 3 ซึ่งผ่านการพิจารณาศาลชั้นต้นไปแล้ว ให้คู่กรณีชดใช้ค่าเสียหาย 4 ล้านบาท แต่คุณจูนขออุทธรณ์ให้ศาลพิจารณามีคำสั่งรถใช้ค่าเสียหายเป็นจำนวนเงิน 10 ล้านบาท อยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นศาลอุทธรณ์