‘โก๊ะตี๋’ ยังไม่ได้ฤกษ์แต่ง ‘กวาง’

“โก๊ะตี๋” เจริญพร อ่อนละม้าย เผยยังไม่ได้ฤกษ์แต่แต่แพลนแต่งเดือนธันวาคม ไม่ซีเรียสเรื่องมีทายาท ยังศรัทธาเชื่อ “สรยุทธ” สุทัศนะจินดา เป็นคนจริง มั่นใจกลับมาสร้างคุณให้แผ่นดินได้อีกเยอะ

   ทีมบันเทิง คมชัดลึก-ตั้งแต่ประกาศตัวแฟนก็มีข่าวลือว่าจะแต่งงาน ได้สอบถาม “โก๊ะตี๋” เรื่องนี้ในงาน ครัวคุณต๋อย ที่ชั้น 8 อาคาร 2 ช่อง 3 ได้ความว่า

   “ก็จะแต่งงานปีนี้ เดี๋ยวคงให้ผู้ใหญ่ฝ่ายเราไปตุยกับผู้ใหญ่ฝ่ายเขาเร็วๆ นี้ แต่ก่อนหน้านี้ก็ได้เกริ่นๆกับคุณแม่เขาไว้แล้ว ส่วนฤกษ์คือจะไปดูพรุ่งนี้ เพราะพรุ่งนี้ว่าง และทุกคนก็จะถามว่ามีฤกษ์หรือยัง แต่ตั้งใจว่าจะเป็นช่วงเดือน ธ.ค. ถ้าฤกษ์มาไม่ตรงก็เอาฤกษ์สะดวก ที่เลือกธันวาเพราอยาให้หมดฝนก่อน. และก่อนเข้าหน้าร้อน เพราะใจเราอยากแตงในสวน เป็นงานเอ้าทดอร์เล็กๆิมีเวทีเล็กๆ และจัดคล้ายมหกรรมอาหาร คือมันเป็นการเก็บกดของเราเวลาไปงานแต่งคนอื่นเขาจัดคอกเทค กิน 3-4 คำ คนก็มอง เราก็จะทาน 2-3 คำตามมารยาท พอออกจากงานก็จะโทรหาเพื่อนว่ากินต่อร้านไหน ดังนั้นใครมางานแต่งหนูจะได้อิ่มอร่อยกับของคาวหวานในบรรยากาศแบบพี่น้อง ก็ตั้งใจจัเในกรุงเทพ แต่ให้อาต๋อยเลือกเพราะอาต๋อยน่าจะรู้จักร้านเยอะ (หาฤกษ์กับพระอาจารย์ที่ไหน) ตอนนี้มีน้องอยู่คนหนึ่งที่อยู่จังหวัดพิจิตรเขามีอาจารย์ที่นับถือท่านหนึ่ง ส่วนเรากำลังจะไปพิจิตรไปบ้านแม่ก็เลยคิดว่าจะให้อ.ไปหาฤกษ์ให้ เรื่องฤกษ์ถามว่าสำคัญไหม จริงๆ มีหน่อยก็ดีเพื่อความสบายใตของผู้ใหญ่ฝ่ายู้หญิงและของเรา (สินสอดพร้อมแล้วใช่ไหม) ไม่ต้องกลัว เพราะเราอยู่กับคุณไตรภพลิมปภัทร ไม่พอเบิกก่อน คือหนึ่งชีวิตของผู้หญิงเราก็ต้องให้เกียรติเขา ก็ไม่อยากให้น้อยหน้าใครแต่ก็คงไม่หวือหวา คุณแม่ผมไม่ติดเพราะเราก็ 40 แล้ว เราก็ครึ่งคนไปแล้ว เราควรจะมีครอบครัว มีแนวทางของชีวิต ส่วนเรื่องลูเราไม่ซีเรียสอยู่แล้ว หนูอาจจะไม่ได้เรียนเชิญเชิญทุกคนไว้ได้ฤกษ์แล้วจะบอกอีกที ถามจะเป็นเจ้าบ่าวแล้วรู้สึกอย่างไร ก็ไม่อย่างไร หนูแค่คิดว่า ถ้าวันหนึ่งเราจะต้องมีคนหนึ่งคนมาใช้ชีวิตร่วมกับเรา เราก็ต้องมั่นใจระดับหนึ่ง ตอนนี้ยังไม่ได้เตรียมงานอะไรเลย ไว้ไปหาฤกษ์ก่อน และเล่นหนังพี่พจน์ให้หมด เพราพี่พจน์บอกให้เพิ่มน้ำหนัก เดี๋ยวพี่พจน์ปิดหนังหนูก็คงลดน้ำหนัก ทำตัวเองให้แข็งแรง เวลาใส่ชุดจะได้ดูดีหน่อย เรื่องลูกเราซีเรียส2-3 ปีแรกที่รู้จักกัน หนูบอกกับเขาไปแล้วว่าถ้าแต่งงานกันหนูมีลูกไม่ได้นะ ด้วยฮอร์โมนในร่างกายของเรา ซึ่งการที่จะมีมันยากพอสมควร เขาก็ไม่ซีเรียส  เพราะผมเคยถามแม่น้องกวางแล้วว่าแม่ถ้าผมมีหลานให้ไม่ได้อย่าว่าผมนะ เรื่องรับเด็กมาเลี้ยงคงไม่ เพราะเราเลี้ยงหลาน 3 คนเหมือนลูกเลี้ยงมาตั้งแต่แบบเบาะ เราไม่จำเป็นต้องหาภาระมาเพิ่ม ถ้าไม่มีก็อยู่กัน 2 คนตายาย อยายไปไหนก็ไป อยากกินไหนก็กิน มันก็สบายใจอีกแบบ หมอบอกเหมือนกันว่าเรามีโอกาสมีลูกได้ แต่เรื่องนี้หนูเลิกคิดไปแล้ว เพราะถ้าเราหมกมุ่นเราก็จะเครียด เรื่องลูกก็แล้วแต่บุญพาวาสนาส่ง”

เมื่อถามต่อว่า ตั้งแต่คีความสิ้นสุดได้ไปเยี่ยมสรยุทธหรือยัง ซึ่ง ตลกคนดังกล่าวว่า 
   “ยังไม่ได้ไปเพราะหนูมีงานทุกวันเลย แต่ก็มีนัดกันว่าจะเอาขนมและกับข้าวไปเลี้ยงคนที่อยู่ในนั้น เพราะพี่สรยุทธก็เป็นแฟน ครัวคุณต๋อย และพี่ๆ ที่ครัวคุณต๋อยก็เป็นแฟนพี่ยุทธหลายคน ถามว่ากำลังใจพี่ยุทธเป็นอย่างไร หนูว่าเขาสบายหนูเชื่อว่ารู้จักผู้ชายคนนี้ดีพอ และเชื่อว่าเขาเข้มแข็ง อย่างที่เคยบอกไปว่าเขาจะได้เริ่มต้นนับ 1 สักที เพราะเขาติดคุกสังคมมา 4 ปี และกระบวนการทางกฎหมายก็ยังไม่สิ้นสุด แต่เขาก็ให้เกียรติคนดูให้เกียรติใครหลายๆคน ว่าขอหยุดหน้าที่การทำงานก่อน เพราะเขามีคดีความ พอตัดสินออกมาเราก็รู้สึกว่าเริ่มต้นสักทีเถอะ เขาออกมาจะได้เนิ่มต้นชีวิตเหมือนเดิม หนูมีอะไรหลายๆอย่างที่อยากทำกับแกใช้ชีวิตร่วมกับแก นอกเหนือจากลูบเดิมๆ 30 ปีที่แกทำในวงการนักข่าวมา หนูว่าพี่ยุทธไม่เสียใจหรอกที่ตัดสินออกมาแบบนี้ แต่พี่ยุทธเสียใจที่เขาไม่ได้ดำรงชีวิต การทำข่าวมันคือชีวิตและลมหายใจของเขา หนูว่าเขาไม่ได้อยากได้ตังค์ แต่เขาทำเพราะชอบ เขาเคยบอกว่าการทำข่าวคือชีวิตของเขา คือลมหายใจของเขา เดี๋ยวเราค่อยเริ่มต้นกันไหม (เขารู้ไหมว่ากำลังใจจากสังคมส่งถึงแกเยอะมาก) เยอะ แกคือลูกผู้ชาย แกคือคนจริง กระแสสังคมไปทางไหนหนูไม่รู้ แต่หนูรู้ความจริง และหนูรู้ตัวตัวตน และศรัทธาผู้ชายคนนี้มาก เวลาไปเจอเขา แกพยายามให้หนูไม่ร้องไห้ เวลาเราอยู่กัน 2 คนเราก็คุยกัน แกก็บอกว่าแกเป็นหนี้แผ่นดิน ที่นี่เป็นแผ่นดินพ่อแผ่นดินแม่ จะให้ไปไหน ถ้าไปก็ต้องหนีทั้งชีวิต ไม่ต้องคิดมาก คิดว่ากูไปโรงเรียนประจำ 6 ปี เดี๋ยวก็กลับมา แต่สิ่งหนึ่งที่สะกิดไม่ได้เลยคือเรื่องการทำงาน นี่คือลมหายใจของแก เพราะถ้าแกแกล้งทำ มันทำไม่ได้ตลอด 30 ปีหรอก (เป็นห่วงอาการป่วยของแกไหม) ก็มี แต่แกไม่น่าจะป่วยอะไรมาก คิดว่าแกน่าจะแข็งแรงขึ้น เพราะที่ผ่านมาแกไม่ค่อยออกกำลังกาย ชวนไปปั่นจักรยาย ตีแบต เต๊ะบอลที่ไหนก็ไม่เอา และหนูก็เชื่อว่าถ้าแกกลับมาคนยังยอมรับ เพราะแกก็เป็นหนึ่งในตองอูในวงการข่าว เรื่องนี้ต้องยอมรับ และเชื่อว่าแกกลับมาแกสร้างคุณให้กับแผ่นดินได้อีกเยอะ” โก๊ะตี๋กล่าวปิดท้าย

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : บันเทิง : คมชัดลึก ข่าวออนไลน์
ขอขอบคุณ : บันเทิง : คมชัดลึก ข่าวออนไลน์