ปุ๊กลุก เดือดแทน ไมค์ ยืนยันไม่ใชพระเอกกินงู เผยสถานะยังไม่ใช่แฟน


ให้คะแนน


แชร์

วันที่ 23 ก.พ. ที่ ลาน Cascata ชั้น G ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต นักแสดงสาว ปุ๊กลุก ฝนทิพย์ วัชรตระกูล ได้ให้สัมภาษณ์ในงาน Wake Up Your Beauty ปลุกความสวยในตัวคุณ ถึงเรื่องการเซอร์ไพรส์วาเลนไทน์ ของ ไมค์ ภัทรเดช ก่อนนักแสดงสาวจะไปเดินแบบที่ต่างประเทศ พร้อมเผยถึง ประเด็นพระเอกกินงู ที่มีข่าวโยงไปว่าเป็นไมค์

ปุ๊กลุก

ปุ๊กลุก ฝนทิพย์

จุดเริ่มต้นการเดินแบบที่ลอนดอน?
“จริงๆก็มีการส่งโปรไฟล์ ให้ไปเลือกโปรไฟล์ แล้วแบรนด์นี้เขาสนใจมาเปิดตลาดที่เอเชีย เขาก็เลยอยากได้นางแบบ หรือเซเลบริตี้ที่มีชื่อเสียงอยู่ตรงนี้อยู่แล้ว ตื่นเต้นมาก จริงๆรู้สักประมาณเดือนกว่าแล้วว่าจะได้ไป แต่ก็ไม่ได้บอกใครเลยบอกเฉพาะคนใกล้ตัว เพราะเรารู้สึกว่าเราไม่ได้มีความเป็นนางแบบเราไม่มีความเป็นโมเดล อาชีพเราคือเป็นอาชีพนักแสดง ไม่รู้ว่าวันงานมันจะออกมาเป็นแบบไหน แล้วเราก็กังวลว่า เราไปเดินกับนางแบบคนไทยเรายังเตี้ยกว่าเขา แล้วเราต้องไปเดินกับนางแบบระดับโลก เราค่อนข้างกังวลแล้วก็พยายามไดเอต พยายามทำให้ดีที่สุด หลังจากจบงานวันที่ 16 ก.พ.คือกินเยอะมาก หลังจากที่ไม่ได้กินมาเป็นเดือนๆ”


เตรียมตัวยังไงบ้าง?
“มีการซ้อมเดินค่ะ มีการฟิตติ้ง ก็ประมาณนี้ จริงๆเรื่องหุ่นเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะหนูเป็นคนมีเนื้อมีหนังนิดนึง ตอนนั้นลดน้ำหนักลงมาน่าจะประมาณ 3-4 กิโล ได้ค่ะ แต่ตอนนี้ก็กลับเข้ามาแล้วนะคะ หนูกลัวแบบไปเดินแล้วคนว่าปุ๊กลุกอวบจังเลย ก็เลยคิดว่าทำให้ดีที่สุด “
ภูมิใจไหมที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในครั้งนี้?
“หนูดีใจนะคะ แล้วเชื่อว่าคนไทยทุกคนที่เห็นคนไทยด้วยกันมีโอกาสไปร่วมงานต่างประเทศ เรามีกำลังใจที่ดีจากคนไทยอยู่แล้ว และมันค่อนข้างยากที่คนไทยจะได้ไปทำงานระดับโลก เชื่อว่าคนไทยทุกคนก็เป็นกำลังใจ รวมถึงตัวหนูเองก็เป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่มีโอกาสได้ไปทำ เชื่อว่าคนไทยทุกคนทำอย่างดีที่สุดแหละ คือ ทุกครั้งที่เดินออกมา นางแบบทุกคนเขาก็คงเฉยๆ แต่หนูต้องเป็นตัวแทนคนไทยที่ทำให้ดีที่สุด คือคนอื่นเขาก็เดินธรรมดา แต่งตัวกลับบ้าน แต่คือหนูนี่จัดเต็มตั้งแต่ยังไม่ทำงานเลย ใส่ชุดหน้าเต็มมากจนแบบขอถ่ายรูปลุกส์ที่ก่อนทำงานนะ ทุกๆวินาทีที่เราทำเราก็อยากทำให้ดีที่สุด อย่างน้อยเวลาเขาไปดูโปรไฟล์ว่าเป็นคนไทย คืออยากให้มันดีที่สุดค่ะ”


มันเป็นแบบที่เราคิดไหม พอไปถึงหน้างานจริงๆ?
“ผิดไปจากเดิมไหม จริงๆคิดว่าเราตระหง่านหรืออะไรมาก แต่ด้วยความที่วันนั้นโชคดีที่ทรงผมมันสูง มันก็เลยทำให้หนูไม่ได้ตัวเล็กไปมาก สิ่งที่ตกใจจากสิ่งที่คิดคือ เวลาเปลี่ยนเสื้อผ้ามันต้องตรงนั้นเลย แล้วสามชุดก็ต้องวิ่งเข้าไปแล้วเปลี่ยนเลย แล้วชุดที่ใส่ไม่มีอะไรซับในอยู่ข้างในเลย ถ้ามองว่าเราเป็นนักแสดงแล้วไปทำมันก็จะเขินอาย แต่วันนั้นเราไปในฐานะที่เราต้องเป็นนางแบบ ใครทำยังไงเราก็ต้องทำแบบนั้น”
เรากังวลไหมว่ามันจะเซฟหรือเปล่า?
“ระหว่างทางค่อนข้างกังวล ก็คิดมาตลอด ว่าถ้าเกิดสติกเกอร์มาหลุด มันจะเป็นยังไงอ่ะ แต่หนูก็นึกในใจว่า ทำให้ดีที่สุดแหละ แล้วหนูก็เชื่อว่าทีมงานก็มืออาชีพที่จะเลือกรูปที่มันเซฟกับตัวเรา”
ก่อนไปเจอเซอร์ไพรส์?
“มันก็ไม่น่าจะรอดเนาะ ก็ดีค่ะ จริงๆหนูเป็นคนที่ค่อนข้างให้ความสำคัญกับคำพูดหรือว่าการแสดงออกเพราะว่า หลายๆคนอาจจะบอกว่าทุกๆวันมันก็ดีอยู่แล้ว ไม่จ๊ะ วาเลนไทน์ ต้องใหญ่ ต้องดี”
ได้บอกก่อนไหมว่าต้องมี?
“เป็นการเกริ่น สำหรับทุกคน ความสวยของเราแล้วนั้น อยู่กับของที่คุณให้ในวันสำคัญ เซอร์ไพรส์มากค่ะ แต่เซอร์ไพรส์กว่าคือตอนที่เจาะลูกโป่งให้แตกเพราะว่ายังไม่ได้แพ็กกระเป๋า หนูไม่ได้คิดว่าเขาจะขนาดนี้ คิดว่าคงดอกไม้สักช่อนึงแหละ แต่ว่ามันก็เป็นอะไรที่ทำให้เรายิ้มได้ เพราะว่าเวลาหนูไปทำงานต่างประเทศเราค่อนข้างกดดันตัวเอง มันเป็นความยากของเรา มันไม่ได้ทำงานในประเทศเรา แต่ว่าพอเหมือนมันมีกำลังใจดีๆมันก็เป็นอะไรที่น่ารักดี”
วันนั้นเขาไม่ได้อยู่ใช่ไหม?
“ไม่ได้อยู่ วันนั้นเขาไปทำงานที่ขอนแก่นพอดี ก็มีโทรขอบคุณ จริงๆคิดไว้แล้วว่าหนูไม่ได้อยู่วันที่ 14 ก.พ. แล้วไมค์ ก็ไม่ได้อยู่กรุงเทพด้วย หนูก็หืม…สงสัยจะไม่ได้อะไรแล้ว สงสัยจะไม่มีแล้วแหละ มีให้ดอกไม้ตอบไปค่ะ สั่งวันนั้นเลย วันที่ 14 ก.พ.”


มันมีความหมายอะไรไหม?
“หนูรู้จักกับไมค์มาก็สนิทกันกับไมค์จริงๆก็ 5 ปีแล้ว ก็เท่ากับจำนวนดอกไม้มั้งคะ”
500 ดอก?
“ไม่จะบอกว่า ถ้า 10 ปี ก็คง 1,000 ดอก ก็คงต้องทำงานกันเยอะขึ้นนิดนึงนะคะ”
เป็นแฟนกันแล้วแหละ?
ยังค่ะ อย่างนี้มันก็ดีแล้ว เราเป็นผู้หญิงนะคะ เราก็ต้องใจเย็นๆบ้าง แม่กับพ่อก็ดูอยู่นะ”
เขามีมาขอเป็นแฟนไหม?
“ยังค่ะ ไม่ได้กั๊กนะ จริงๆเป็นคนที่น่ารักเลย แล้วค่อนข้างสม่ำเสมอ แต่ว่าก็คิดว่าให้มันมีอะไรที่มันลงตัว ด้วยเวลาแบบนี้ ซึ่งทุกวันมันก็เป็นอะไรที่ดีมากๆนะคะ ไม่อยากให้สถานะมันเป็นอะไรที่ วันนึงพี่จะมาฟ้องหนูว่า แกวันนั้นฉันเห็นเขาแบบอย่างนั้นอย่างนี้ คือตอนนี้ก็ฟ้องไม่ได้นะคะ ยังไม่มีสถานะพิเศษ “
แต่ก็ชัดเจนไหมว่าคนนี้คนเดียว?
“ต่างคนต่างคุยกันแค่นี้ค่ะ ไม่ได้มีออฟชั่นเสริมใดๆทั้งสิ้น”


แสดงว่าวันที่เขาจะขอเป็นแฟนจริงๆต้องเวอร์วัง?
“อาจจะต้องปิดห้างอ่ะ หนูบอกว่าหนูไม่เน้นคุณภาพ หนูเน้นความยิ่งใหญ่อลังการ ยิ่งใหญ่ ชอบมากเลยอะไรที่มันอลังการ”

ข่าวไมค์โยงไปว่าเป็นพระเอกกินงู?
“จริงๆเพิ่งรู้วันที่ไมค์ให้สัมภาษณ์แหละค่ะ พอดีว่าหนูเสิร์ชชื่อตัวเอง แล้วมันก็ขึ้นข่าวไมค์ แล้วก็มีงูเกิดขึ้นในหน้าฟีด จริงๆหนูรู้จักไมค์มานานมากๆแล้วอ่ะ หนูค่อนข้างมั่นใจในสิ่งที่ไมค์เป็น แต่ว่าก็รู้ว่ามาจากไหน รู้มานานแล้วด้วย รู้ว่าใครทำอะไรยังไง ก็บอกไมค์ว่าเราฟ้องหมิ่นประมาทกันไหม หนูว่าจริงๆแล้วไมค์ค่อนข้างเป็นสุภาพบุรุษ คิดว่าบางทีถ้าเราไม่พูดไม่ทำอะไรเลย หนูคิดว่าคนที่ทำ เขาอาจจะได้ใจหรือเปล่า คิดว่าถ้ามันแรงมากขึ้นๆ หนูบอกไมค์ว่ามันไม่ดีหรอก

ถ้ามันมีอะไรย้ำๆอยู่แบบนี้ ทั้งๆที่เราไม่ได้ทำแบบนั้นจริงๆ ถ้าเกิดว่ามันยังมีคนนั้นที่พยายามพูดเรื่องแบบนี้อยู่ เราก็บอกว่าเราดำเนินคดีกันเถอะ อย่างนั้นเราอาจจะเตือนคุณไว้ก่อน ว่าถ้ายังไม่หยุดจะเป็นแบบนี้ เราขอดำเนินคดีนะ เป็นแบบเชิงหมิ่นประมาทได้ไหม ก็มีการคุยกับคุณพ่ออยู่เหมือนกันค่ะ หนูรู้สึกว่ามันไม่แฟร์กับนักแสดง คือเราไม่ได้พูด เขาก็ไม่ควรจะทำให้ชื่อเสียงเราแย่”

อ่าน: ไมค์ ภัทรเดช ตอบแล้ว โดนโยงพระเอกดังกินงู เคลียร์ปมภาพหลุด

เราหมายถึงคนที่แฉ?
“คนที่เขาพูดในเชิงนั้น ซึ่งอย่าเรียกว่าแฉ เพราะว่าเราไม่ได้ทำ”
คิดว่าเขาคิดร้ายกับไมค์ไหม ถึงมาแฉ?
“อันนี้หนูไม่ทราบจริงๆในเจตนาที่เขาทำ แต่ด้วยทั้งหมดทั้งมวลมันไม่ใช่เรื่องจริงเลย”
ไมค์ยังนิ่ง?
“จริงๆตอนที่ไมค์สัมภาษณ์ หนูบอกว่าทำไมไมค์สัมภาษณ์ตลก ไมค์บอกว่าไมค์ไม่คิดว่าเป็นเขา แต่หนูบอกว่ามันมีกลุ่มใหญ่ๆเลยที่เขาคิดว่าเป็นยู ยูก็ต้องป้องกันตัวเองมากกว่านี้นะ เขาก็บอกว่ามันไม่ใช่ไมค์จริงๆ แต่ว่าหนูก็เคยได้ยินคนนึงพูดถึงเขาในแนวแบบนี้”
อันนี้ไม่ได้หมายถึงรายการ?
“ไม่ใช่ ไม่ได้เป็นรายการ ไม่ใช่พี่ๆพิธีกรนะคะไม่ต้องเป็นห่วง กว่าที่พี่พิธีกรจะทราบมันก็ต้องมีแหล่งมีกลุ่ม”
พอข่าวออกไปมันมีคนโจมตีไหม?
“ไม่นะคะ จริงๆหนูได้ยินเรื่องนี้มานานแล้ว มันคงใช้ระยะเวลาในการเดินทาง คือหนูก็บอกกับไมค์ว่าถ้ามันไม่ได้เป็นข่าวไม่ได้เป็นเรื่องราวแย่ๆ เราก็ไม่เป็นไรหรอก ก็ให้เขามีความสุขกับสิ่งที่เขาพูดไป แต่ว่าถ้ามันทำให้เราเสื้อมเสียชื่อเสียงเมื่อไหร่ หนูก็เป็นสายไม่ค่อยยอมคนเท่าไหร่เนาะ เราก็พูดกับไมค์ว่าถ้าเขายังพูดอยู่นะ”

โดยรวมแล้วคือเชื่อใจ?
เชื่อใจกันมากๆ เพราะว่าตอนที่หนูรู้จักกับไมค์มาแรกๆ เขาเป็นสายแบบที่ไม่ได้สนใจแบรนด์เนมแบบที่เป็นข่าวค่ะ”

ขอบคุณรูปจากไอจี : pooklook_fonthip

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : บันเทิง Archives – ข่าวสด
ขอขอบคุณ : บันเทิง Archives – ข่าวสด