บรรยากาศเป็นยังไงบ้าง?
“เร็วมาก ทุกอย่างเกิดขึ้นภายใน 1 ชั่วโมง อาต๋อยไปถึงแม่น้องกวางมานั่ง อาต๋อย อาแตง อาโก อาเจ็ก อาซิ้ม ของน้องกวางทุกคนมานั่ง อาต๋อยก็เข้าเรื่องและพูดจบภายใน 10 นาที แล้วถามว่าคุณพ่อคุณแม่ผู้ใหญ่ฝั่งน้องกวางคิดเห็นอย่างไร แล้วก็คุยกันทุกอย่างเสร็จภายใน 15 นาที จากนั้นก็กินข้าวกัน”

ทางบ้านน้องกวางว่าอย่างไรบ้างตอนที่สู่ขอ?
“ก่อนหน้านี้ประมาณ 3-4 ปีที่หนูคบกันมา ก็อยากแต่งแล้วช่วงนั้นจำได้ว่าปี 2559 หนูอยากแต่งแต่ว่ามีปัญหากัน แล้วก็โน่นนี่นั่นรวมถึงปัญหาบ้านเมือง จริงๆ ปีนั้นหนูไปขอน้องกวางที่มัลดีฟส์ มันก็มีเรื่องราวอะไรเข้ามาโน่นนี่นั่น สุดท้ายพอปีนี้น้องกวางอายุเข้า 30 ส่วนผม 40 ปี ผู้ใหญ่ฝั่งทางโน้นก็ถามว่าเห็นสมควรหรือยัง โอเคมั้ย เราก็โอเค”

เขาได้มีการพูดอะไรกับฝั่งเราไหม?
“ต้องบอกก่อนว่าผู้หลักผู้ใหญ่ฝั่งโน้นเขารักและเมตตาเรา ก่อนหน้านี้หนูมีปัญหาอะไรหนูอาจจะลงไอจีบ้าง ผู้หลักผู้ใหญ่ฝั่งโน้นก็ขออย่างเดียวว่า เราเป็นคนของประชาชน มีสื่อคอยติดตามหลายคน เขาก็บอกว่าถ้าทะเลาะอะไรให้เคลียร์กันอย่าไปลงสื่อ เขาขอแค่นั้น เราก็รับปาก เพราะว่าเป็นปีแล้วที่อาจจะมีปัญหาระหองระแหงกันแต่หนูก็ไม่ลง ก็เคลียร์จบ”

เราได้บอกอะไรกับทางครอบครัวเขามั้ย?
“ทุกอย่างไม่ต้องบอก การกระทำสำคัญกว่าคำพูดเสมอ ตลอดหกปีที่ผ่านมาหนูทำให้เขาเห็นว่า หนูรู้สึกยังไงกับกวางและรักกวางมากแค่ไหน แล้วก็คิดว่าเราจะประคับประคองกันไปได้ ดำเนินชีวิตคู่กันไปได้แน่นอน”

แอบแซวเรื่องสินสอด?
“สินสอดเดี๋ยวอาต๋อยจัดการให้ครับ(หัวเราะ) ยืมอาต๋อยก่อน”

จะมีพิธีอย่างเป็นทางการอีกมั้ย?
“ไม่มีแล้วครับ เจอกันอีกทีคือเดือนธันวาคม”

อยากจัดงานแต่งงานเป็นธีมในสวน?
“ใช่ครับ อาจจะเป็นในสวนหรือที่ที่จบเลยตั้งแต่เช้ายันเย็น เช้าเป็นพิธี ตอนเย็นฉลองมงคลสมรส ที่นั่นที่เดียวจบเลย แต่ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะเป็นที่ไหนขอหาก่อน อยากให้เป็นที่เดียวที่จบตรงไปเลยจะได้ไม่ต้องไปกันหลายที ไม่ใช่วันนี้จัดที่นี่ อีกวันจัดที่นู่น แล้วทุกคนต้องตามๆ กันไป ไม่อยากให้ทุกคนต้องเหนื่อย”

ชีวิตเริ่มเปลี่ยนไปหรือยัง?
“พูดถึงว่าเรากำลังจะมีคู่เหรอ รู้สึกเขินเหมือนกัน ต้องใช้คำว่ามีเมียแล้ว พูดได้เต็มปากว่ามีเมียแล้ว เวลาเจอผู้ใหญ่ก็บอกว่านี่เมียผมครับ ไม่ใช้คำว่าสามีภรรยา พอใช้คำว่าผัวเมียก็จะรู้สึกจั๊กจี้นิดนึง”

ได้ฤกษ์แต่งหรือยัง?
“เดือนธันวาคมครับ ฤกษ์ได้มาแล้วเดี๋ยวจะบอกอีกทีแล้วกัน แต่เดือนธันวาแน่นอน หนูรู้สึกว่าหนูอยากแต่งงาน ในบรรยากาศที่หมดแล้วและไม่ร้อนมาก อยากให้ทุกคนที่ไปในงานสบายๆ กัน ธีมเหมือนงานวัด มีของกินเยอะๆ มีครัวคุณต๋อยไปตั้งบูธ แขกไปกินทั้งของคาวและของหวาน แล้วก็อาจจะเล่นเกม เหมือนไปเที่ยวงานวัดแต่งตัวสบายๆ ไม่ได้ซีเรียสอะไรมากมาย”

ฤกษ์ที่ไปดูมาเป็นฤกษ์ดี?
“ใช่ครับ จริงๆ ก็เอาฤกษ์สะดวกของเราด้วย ถ้าส่งหน้าฝนเราก็จัดในสวนไม่ได้ จัดเดือนธันวาดีกว่า”

วันนั้นคุณแม่น้องกวางฝากฝังอะไรกับเราไว้มั้ย?
“ต้องบอกก่อนว่าตื่นเต้นมาก การไปคุยในครั้งนี้เพราะน้องกวางเป็นหลานคนสุดท้องของตระกูลที่เป็นผู้หญิง ทุกคนดูตื่นเต้นมาก เพราะพี่ๆ 6-7 คนของเขาเป็นผู้ชายหมดเลย เขาเป็นหลานสาวคนเดียว และน่าจะเป็นหลานสาวคนสุดท้องของตระกูลที่จะได้แต่งงาน

คุณแม่น้องกวางก็ฝากหลายเรื่อง เพราะปัญหาที่แม่หรือทางครอบครัวของพวกเขาคือ ปัญหาแม่ผัวลูกสะใภ้ คือกวางเป็นคนสมัยใหม่ ไม่ได้เป็นแม่บ้านแม่เรือน ตื่นเช้ามาทำกับข้าวให้สามีทาน เขาเป็นผู้หญิงทำงาน ฉะนั้นเราต้องอธิบายตรงนี้ให้แม่เราเข้าใจ

เพราะคุณแม่หนูเป็นคนหัวโบราณ อยากจะได้ลูกสะใภ้ดีกวาดบ้านถูบ้าน พับผ้า ทำกับข้าว รอผัวกลับบ้าน ซึ่งกวางไม่ใช่ แล้วสังคมในปัจจุบันสมัยนี้ มันก็ไม่ใช่แบบนี้ เพราะฉะนั้นเราอธิบายให้แม่เราเข้าใจได้ว่า มันต้องตามโลกให้ทัน”

เรากังวลมั้ยว่ามันจะเกิดปัญหานี้?
“ทุกคนมันมีความกังวลอยู่แล้ว แต่ว่าไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยเจอกันมาก่อน ก่อนหน้านี้เขาก็เคยพบปะเจอกันมาก่อน ทุกอย่างก็โอเคไม่ใช่ว่าไปไม่ได้ ถ้าหนูไม่มั่นใจว่าหนูจัดการทุกอย่างได้ หนูไม่แต่งแน่นอน

ฉะนั้นหนูมั่นใจว่าหนูจัดการได้ แม่เราก็สามารถอธิบายให้เขาเข้าใจได้ แล้วแฟนเราเราก็สามารถดูแลได้ ให้เขาอยู่ด้วยกันได้แน่นอน”.

แม่ของเราอวยพรเรายังไงบ้าง?
“ไม่ว่าหนูจะรักใครแม่ก็รักด้วย แม่เคยพูดกับหนูว่าเมียหนู คู่ชีวิตของหนู หนูต้องเป็นคนเลือกเอง แม่แก่แล้วเดี๋ยวแม่ก็ตาย แกพูดอย่างนี้เลย คนที่หนูเลือกหนูต้องเลือกเอง จะเจ็บ จะทุกข์ ดีใจ สมหวังหรือจะหลอก ให้เราเป็นคนเผชิญเอง ไม่ใช่แม่เป็นคนเผชิญ แม่บอกว่าไม่ว่าหนูจะเลือกใครแม่รักด้วย”.