นุ๊ก ได้เปิดใจเล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า

“ตอนนี้ก็ผ่านการรักษา คือผ่าตัดเอาต่อมไทรอยด์รวมถึงก้อนเนื้อออกมาแล้ว สำหรับนุ๊กตอนนี้นุ๊กบอกกับทุกคนเลยว่านุ๊กหายแล้ว เพราะนุ๊กรักษาแล้ว แต่ถ้าไปตรวจแล้วยังเจอเซลล์มะเร็งอยู่ นุ๊กก็จะบอกว่าเราแค่เป็นใหม่ ตรวจพบอีกก็รักษาอีก ตอนนี้หลังผ่าตัดออกไปแล้ว ก็ยังไม่เจออะไรใหม่ ผลกระทบที่เกิดขึ้นในการใช้ชีวิตประจำวันไม่กระทบมากนัก”

กระทบกับการทำงานอย่างไรบ้าง?

“จะมีในส่วนของการร้องเพลง และการพูดบ้าง ถ้าต้องพูดยาวๆเสียงของเราจะต่ำลง เพราะว่าเราตัดหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงเส้นเสียงของเราออกไปด้วยหลอดนึง จากทั้งหมด 4 หลอด ก็ต้องคอยบริหารไม่อย่างนั้นเสียงจะต่ำลงไปเรื่อยๆ และเหนื่อยกว่าเวลาพูดปกติ ส่วนการร้องเพลงจะเหนื่อยกว่าปกติมาก เพี้ยนด้วยเพราะคอนโทรอะไรไม่ได้เลย แต่จริงๆการได้พูดบ่อยๆพูดนานๆก็เหมือนการกายภาพ ส่วนสเต็ปการรักษาตอนนี้ ก็คือนุ๊กกลืนแร่ไปแล้ว อีก 6 เดือนก็จะไปตรวจใหม่ว่าเซลล์มะเร็งหายไปหรือเปล่า ถ้ายังมีอยู่ก็จะต้องทำแบบนี้ต่อไปทุก 6 เดือน นุ๊กโชคดีตรงที่ฟื้นตัวได้เร็วด้วย เพราะเป็นคนชอบออกกำลังกาย การออกกำลังกายทำให้เรามีแอดติจูดที่ดีในเรื่องของความคิด เราคิดบวกกับโรคที่เป็นอยู่”

แล้ววางแผนในเรื่องการทำงานอย่างไร?

“ก็อยากจะรับต่อไป จริงๆตอนที่ทราบว่าป่วย ตอนแรกก็ยังแอบคิดเลยว่า ตอนละครก่อนตะวันแลงออกอากาศจะต้องขึ้นเอนด์เครดิตว่า “อาลัย สุทธิดา” หรือเปล่า (หัวเราะ) คือเรื่องความตายสำหรับนุ๊กถือเป็นเรื่องปกติ แค่เราต้องทำใจและเตือนตัวเองไม่ให้ประมาท เราอาจไม่ได้ตายเพราะมะเร็งก็ได้ วันนี้โรคร้ายแค่มาเตือนเราว่าอะไรคือความประมาท และอะไรคือสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต มันไม่ได้มาเตือนแค่เรา แต่มาเตือนทุกคนรอบตัว เตือนลูกๆเราให้รู้จักรักกันให้มากขึ้น พวกเขามีความรับผิดชอบกับตัวเองมากขึ้น อย่างตอนนุ๊กไปอยู่ รพ. 2 อาทิตย์ ตอนกลับมาก็คิดว่าบ้านคงจะเละเทะแน่ๆ แต่ทั้งปิ๊ปโป้และปาแปงก็ดูแลกันได้อย่างดี ปาแปงก็จะช่วยนุ๊กดูแลน้องอดัมด้วย เลี้ยงน้อง อาบน้ำ ล้างก้นให้น้อง เขาทำได้ทุกอย่าง ส่วนสามีก็รักเรามากขึ้น จริงๆคือเราก็รักกันอยู่แล้วเพียงแต่การที่เราอยู่ด้วยกันทุกวัน จนมันกลายเป็นความเคยชิน อาจจะทำให้เราหลงลืมที่จะดูแลกัน ทุกวันนี้นุ๊กรู้สึกขอบคุณมะเร็ง ขอบคุณที่เราได้เป็น ขอบคุณมันจริงๆ เพราะนุ๊กเชื่อว่าคนที่ป่วยแล้วพูดคำนี้ได้เพราะเรารู้สึกว่าชีวิตจะง่ายขึ้น เรารู้ว่าเราต้องทำอะไร เรารู้ว่าอะไรสำคัญที่สุดค่ะ”

หันมาที่งานละคร “ก่อนตะวันแลง” จริงๆนุ๊กหายจากงานละครไปนานพอสมควรเลย?

“ถือว่าเป็นละครในรอบ 10 ปีได้ เรื่องนี้ต้องดำเนินเรื่องตั้งแต่เด็กจนโต นุ๊กมองว่าการเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับความรักของครอบครัวเป็นดราม่าที่ง่าย เพราะว่าเราค่อนข้างอินกับความรู้สึกนี้ คือทุกคนในโลกนี้รักครอบครัว เวลาเราพูดถึงความรักตรงนี้น้ำตาก็มาแล้ว เรื่องนี้นุ๊กก็โชคดีที่ได้ร่วมงานกับนักแสดงมากความสามารถ อย่างพี่พรตที่รับบทเป็นพ่อ แค่นุ๊กมองหน้าพี่เขาเวลาที่ทำหน้าเศร้าๆ น้ำตานุ๊กก็คลอแล้ว รวมถึงทีมงานด้วยเขาทำงานกันไวมากๆ ตอนนี้ละครออกอากาศมาได้ช่วงหนึ่งแล้ว ฟีดแบ็กตอนแรกแอบหวังเหมือนกันเพราะอยากให้คนกลับมาดูเรา เพราะเราหายไปนาน พอตอนนี้มีกระแสตอบรับที่ต้องบอกเลยว่าเกินคาด นุ๊กต้องขอขอบคุณจริงๆนะคะ แม้จะเป็นละครดราม่าน้ำเน่าสุดๆ แต่มีคอมเมนต์นึงที่นุกอ่านแล้วประทับใจมาก เขาเขียนว่า ก่อนตะวันแลง เป็นละครน้ำเน่าที่ไม่เหม็นเลย เล่าเรื่องเร็วมากๆ การตัดต่อภาพเป็นสมัยใหม่ อย่าพลาดเลยนะคะ เพราะถ้าพลาดไปแล้วนักแสดงอาจจะไม่ได้อยู่ให้คุณได้ดูในเรื่องต่อไปก็ได้นะคะ”.

>> อ่านเรื่องย่อนิยายทุกเรื่อง คลิกที่นี่ <<