เสาร์สด – ‘ก๊อต-กิ๊ก-ปูเป้’ฉีกบทบาท ระทึกเหตุการณ์‘คืนยุติ-ธรรม’


ให้คะแนน


แชร์

‘ก๊อต-กิ๊ก-ปูเป้’ฉีกบทบาทระทึกเหตุการณ์‘คืนยุติ-ธรรม’“เอ็ม พิคเจอร์ส” ตีแผ่เรื่องราว “ความยุติธรรม” ให้เป็น “รูปธรรม” ด้วยการถ่ายทอดเรื่องราวผ่านแผ่นฟิล์ม กับภาพยนตร์ดราม่าทริลเลอร์ฟอร์มยักษ์เรื่อง “คืนยุติ-ธรรม” ผลงานการกำกับฯของ ‘โน้ต’ กัณฑ์ปวิตร ภูวดลวิศิษฐ์ ที่ได้ ‘อุ๋ย’ นนทรีย์ นิมิบุตร รับหน้าที่โปรดิวเซอร์

คว้านักแสดงมากฝีมือ ‘ก๊อต’ จิรายุ ตันตระกูล รับบท ‘มานพ’ ชายหนุ่มที่ชีวิตถูกข่มเหง ความรัก ความฝัน และความหวังถูกบดขยี้ด้วยน้ำมือของคนอธรรม ประชันนักแสดงสาว ‘ปูเป้’ รามาวดี นาคฉัตรีย์ ที่พลิกบทบาทเป็นจิตแพทย์สาว ‘กานดา’

และการประเดิมบทร้ายแรกในชีวิตของพิธีกรอารมณ์ดี ‘กิ๊ก’ เกียรติ กิจเจริญ ในบท ‘สิทธิชน’ นักธุรกิจชนชั้นอภิสิทธิ์ที่เชื่อว่าอำนาจและเงินซื้อความยุติธรรมได้ ร่วมด้วย ‘แพร’ ณัฏฐธิดา กลิ่นสุวรรณ และ ‘อาร์ต’ ศิลป์ รุจิรวนิช

ทั้งนี้ ‘อุ๋ย นนทรีย์’ เผยว่า “เรื่องราว คืนยุติ-ธรรม เล่าถึง มานพ ชายหนุ่มผู้มีอนาคตสดใสทั้งเรื่องงาน ความรัก แต่อนาคตกลับพังทลาย เมื่อถูกยัดข้อหาฆ่าภรรยาตัวเองจนต้องติดคุก เมื่อออกจากคุกเขาได้พบกานดาจิตแพทย์สาวที่อาสาเข้ามาเยียวยาอาการป่วยทางจิต แต่เวลาผ่านไปเธอกลับค้นพบ มานพ อีกคนที่เธอไม่รู้จัก ตั้งตนเป็นศาลเตี้ยทวงความยุติธรรมแก่สังคมด้วยความรุนแรงในยามค่ำคืน

พล็อตหนังพูดถึงการสะท้อนสังคมหลายๆ มุมในปัจจุบัน หนังแบบนี้หายไปนาน ไม่ค่อยมีใครแตะ ทำให้เราสนใจ แล้วก็ปรับให้เรื่องแข็งแรง เอาความจริงหยอดใส่บ้าง ดัดแปลงบ้าง เพื่อให้คนดูเข้าถึง สัมผัสง่าย โดยทางเอ็ม พิคเจอร์ส ให้โจทย์ว่าเรื่องราวของหนังเล่าถึงเหตุการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในเวลาแค่ 12 ช.ม. จะทำยังไงให้เป็นหนังฟอร์มใหญ่ ผมจึงใส่ฉากแอ๊กชั่นลงไป เพื่อให้ผู้ชม ตื่นเต้น ลุ้น และสนุกไปกับเรื่องราว”

ถามถึงนักแสดงนำในเรื่อง คัดเลือกอย่างไร โปรดิวเซอร์รุ่นใหญ่กล่าวว่า “คนที่รับบท มานพ ต้องทั้งแกร่ง เก่ง ต้องเล่นเป็นคนสองบุคลิก นักแสดงที่รับบทนี้ต้องสามารถเข้าถึงบทจริงๆ ใช้เวลากันพอสมควร แต่ผมชอบ ก๊อต จิรายุ นานแล้ว ชอบพระเอกหน้าไทยๆ หน่วยก้านเขาดูดี เวลาเล่นเห็นถึงความตั้งใจสูงมาก ชวนน้องมาคุย เขาชอบ อยากเล่น เขาอยากเปลี่ยนแปลง เหมือนฟ้าส่งมา

เพราะคนที่จะมาเล่นบทนี้หายากมาก ต้องเรียนตามตรง ในเมืองไทยไม่ค่อยมีนักแสดงมืออาชีพ ทุกคนจะเป็นดารา ส่วนใหญ่จะเล่นแต่ละคร ซึ่งก็จะได้รับแต่บทเดิมๆ การที่มีใครอยากจะลุกขึ้นมาเปลี่ยนบทบาทตัวเองหายาก ต้องยอมรับค่าตอบแทนของภาพยนตร์ไม่สูงเท่าละคร แต่มันท้าทายในเรื่องการแสดง”

ได้ก๊อตมาแล้ว คนที่จะมาประกบคู่ยากไหม “ความต้องการเราเยอะ อย่างแรก ต้องการคนที่ดูเป็นหมอ สองตัวเขามีความสับสนในตัวเองด้วย เป็นหมอจิตวิทยาแต่ก็มีความสับสนไม่แน่ใจว่าอันนี้ถูกหรือเปล่า เราก็มองว่าใครเชือดเฉือนกับก๊อตได้ แล้วอยากได้คนที่คนอื่นคิดไม่ถึง เล่นเป็นคนดีมาตลอด เป็นนางฟ้า ไม่เคยลุกขึ้นมาเตะต่อย แล้วจับเขามาพลิก ก็เลยได้ ปูเป้ รามาวดี ซึ่งคนดูอาจจะคิดว่าคงเป็นคนดี อ่อนแอ แต่พอเข้าไปดูจะเห็นสิ่งที่ผมซ่อนไว้ ตอนแรกปูเป้กังวลมาก เขาไม่เคยเล่นบทแบบนี้ แต่ผมมั่นใจ เพราะเห็นปูเป้มีเลเวลที่สามารถขึ้นไปได้อีก”

แล้วคิดยังไงถึงดึง ‘พี่กิ๊ก’ มารับบทร้าย “เหตุผลใกล้เคียงกับปูเป้ อยากให้หนังเรื่องนี้ทุกคนนึกไม่ถึง เชื่อมั้ยตัวละครตัวนี้ ตอนผมเขียนบท นึกถึงเขาตลอด ผมรู้สึกว่าตัวละครนี้ ต้องเป็นตัวละครที่คนคาดไม่ถึง แล้วต้องแสดงเก่ง มีความเนียนไปตามบทบาท”

นักแสดงคนอื่นๆ ในเรื่องก็ไม่ธรรมดา “ตัวนักแสดงแวดล้อม ต้องบอกผมโชคดี อาร์ต ศิลป์ ดูเป็นคนตลก แต่เราอยากได้คนที่เรารู้สึกว่าเขาเปล่าๆ เวลาเขาเผชิญหน้ากับเหตุการณ์อะไรที่จริงจัง ผมอยากได้ความรู้สึกตรงนั้นจริงๆ ตัวละครตัวนี้เป็นตัวแทนคนดู เขาถูกจ้างมาให้ถือกล้อง บันทึกพฤติกรรมของผู้ชายคนนี้ เรื่องในคืนนี้ เขาต้องช็อกกับเหตุการณ์ แล้วภาพในกล้องก็เป็นภาพที่คนดูได้เห็น

ส่วนน้องแพร ณัฏฐธิดา เป็นอีกตัวละครที่หายาก ตัวละครตัวนี้แทบไม่พูดเลยทั้งเรื่อง สิ่งที่ทำให้คนดูรับรู้ได้คือการแสดงล้วนๆ น้องเป็นคนเก็บความลับทุกอย่าง เขาแสดงออกทางสีหน้าและแววตา เราแคสต์มาเยอะมาก จนวินาทีสุดท้ายถึงได้น้องมา”

ได้นักแสดงที่ต้องการครบแล้ว การถ่ายทำยากไหม “เราถ่ายแบบปล่อยไหล พยายามถ่ายเรียงเรื่อง เพื่อให้ไม่สับสน เพราะมันยาก แล้วตัวผู้กำกับฯก็ใหม่ อยากให้ทั้งนักแสดงและ ผู้กำกับฯเดินไปพร้อมกัน คำว่าปล่อยไหลคืออยากให้แอ๊กชั่นและรีแอ๊กชั่นมันจริงที่สุด

นั่นแปลว่าเขาต้องอินกับบทบาทนั้นตลอดเวลา ก็ยากสำหรับนักแสดง เรื่องนี้นอกจากเป็นเรื่องจิตวิทยา สร้างจากเหตุการณ์สมมติที่หยิบมาจากเหตุการณ์จริง แล้วยังมีแอ๊กชั่นเยอะไปหมด เราต้องคอนโทรลแอ๊กชั่นด้วยว่าช่วงนี้เอาระดับไหน เพราะถ้าแอ๊กชั่นเท่ากัน มันไม่ตื่นเต้น”

คนดูจะได้อะไรกลับมาบ้าง “อย่างแรกเราทำหนังเพื่อสร้างความบันเทิงให้ผู้ชม แต่อีกมุมคือเราอยากบำบัด เชื่อว่าทุกคนต่างต้องเคยเจอเรื่องราวที่ทำให้รู้สึกคับแค้นใจ คนที่มาชมหนังเรื่องนี้จะได้ปลดปล่อยความรู้สึกเหล่านั้น แต่หนังก็จะสะท้อนให้เห็นว่าตราบใดที่ทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง สุดท้ายเขาก็ต้องรับผลในสิ่งที่ตัวเองทำลงไปครับ”

ติดตามชมภาพยนตร์ “คืนยุติ-ธรรม” ได้แล้วทุกโรงภาพยนตร์

โดย…อนงค์ จันทร

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_4703885
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_4703885