ดุดันแค่ในจอ "ก๊อต จิรายุ" ฟุ้งตัวจริงโคตร "สายแบ๊ว" แฮปปี้คบ "โบว์"


ให้คะแนน


แชร์

“แม่บอกว่ามนุษย์เรามีสิทธิที่จะให้อภัยคน ฟังแล้วกระตุกเลย (ยิ้ม)”…

เรียกว่าเตรียมพุ่งตามประสาผู้ชายสายบู๊กลายเป็นผู้ชายอ่อนโยนว่างั้นเหอะ!!

ช่วงนี้ยังทำงานหนักหน่วงอยู่มั้ย

“ครับ ตอนนี้มีละครเรื่องลายกินรี กับบุพเพฯ 2 หรือพรหมลิขิต บทยังไม่มาเลย เข้าใจบทต้องหาข้อมูล ต้องคิดเยอะกว่าเดิมเพราะภาคแรกทำเอาไว้อลังการมาก”

ภาคแรกที่ประสบความสำเร็จขนาดนี้ มาเล่นภาค 2 ยิ่งทำให้เรากดดันมั้ย

“ในฐานะคนทำการแสดงไม่กดดันเพราะเราทำทุกอย่างตามบท ขึ้นอยู่กับคนเขียนบท คนถ่าย คนตัด เรื่องของพวกคุณแล้วล่ะ (หัวเราะ)”

กับงานโกอินเตอร์ล่ะ

“คือตอนนี้ผมกำลังคุยกับเอเจนซี หลายส่วนอยู่ เราได้คนซัพพอร์ตเพียงแต่งานที่เรารับผิดชอบในปัจจุบันกินเวลาเราเยอะมากมันเลยทำให้เราไม่สามารถตอบตกลงกับเค้าได้ แต่นี่ทยอยเจอเค้าบ่อยๆ เพื่อรักษามิตรภาพเอาไว้ จริงๆเค้ามีโปรเจกต์ในมือเยอะมากเพียงแต่เราไม่มีเวลา คือผมไม่มีเวลาคือผมตัดสินใจไม่มีเอง ผมรับละคร 3 เรื่องเพราะอยากจะเล่น 3 เรื่องนี้จริงๆ มันคนละคาแรกเตอร์เป็นบทที่คนไม่เคยเห็น”

รับละครเบิ้ลขนาดนี้เมกมันนี่เพื่อสร้างเรือนหอรึเปล่า

“ไม่เกี่ยวๆ ไม่ใช่เลย ผมอยากเล่นจริงๆ เลยตัดสินใจเล่น อนึ่งเล่นกับพี่อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ เรื่องลายกินรี อยากเล่นมาก บุพเพฯ 2 ก็อยากเล่นอีกเพราะบุคลิกต่างจากตัวนี้ อีกเรื่องอยากเล่นเพราะเป็นละครที่ทำให้เราได้ตอบแทนประเทศพม่า เรื่องจากเจ้าพระยาสู่อิรวดี ทางไทยพีบีเอส ในบทพูดภาษาอังกฤษเยอะมาก”

ทำไมถึงอยากเล่นล่ะ

“ผมเล่นละครที่ฆ่าพม่ามาเยอะแล้ว นึกออกมั้ย ผมแค่รู้สึกว่าสื่อที่ดีไม่ควรทำให้คนเกลียดกัน ผมเลยรู้สึกการเล่นให้ไทยพีบีเอสเรื่องนี้เป็นการตอบแทน อยากพูดถึงเพื่อนบ้านในมุมที่ดีบ้าง เพราะเป็นเรื่องที่คนไทยไปใช้ชีวิตอยู่พม่าและได้รับการนับถือจากคนพม่าด้วย ช่วงก่อนก็ต้องไปพม่าทุกอาทิตย์เลย พูดภาษาอังกฤษก็ดีได้ใช้การแสดงที่แตกต่างออกไป”

จริงๆ เรื่องภาษาให้โบว์สอนได้อยู่หนิ เพราะในไอจีก็เห็นเค้าพยายามสอนเราพูดเยอรมัน

“มีคนไทยสนใจภาษาเยอรมันเยอะ มาปรึกษาเค้าเยอะ เยอรมันผมว่าผมได้ใช้น้อยไง”

โบว์พยายามสอนก๊อตน่าดูเหมือนกัน

“ไม่รอด (ยิ้ม) เค้าพูดเยอรมันใส่ผมก็จะมั่วใส่ พูดยากอะเหมือนมีเสลดอยู่ในคอ ผมก็จะบอกเค้าสอนภาษาอังกฤษเหอะง่ายกว่า”

ก๊อตกับโบว์จะทำแชนแนลเรื่องภาษากันบ้างมั้ย

“โบว์อยากทำครับ แต่ผมบอกกับโบว์ ทำแชนแนล สิ่งที่ให้แชนแนลตู้มได้นั่นคือการทำต่อเนื่อง ถ้าเป็นแพชชันของโบว์ โบว์ต้องทำ แต่ผมช่วยนานๆทีครั้งไม่ได้สติก ทุกอาทิตย์คู่กันแบบนั้นผมคง ประสาทกิน ไม่ใช่แพชชันผม ผมอ่านแต่บท ดูแต่หนัง หยุดภาพจดๆ วันๆผมอยู่กับสิ่งที่เราชอบแบบนี้ เค้าก็อยู่ในสิ่งที่เค้าชอบ จอยกันได้ในบางครั้ง”

ศึกษาเกี่ยวกับหนังเยอะขนาดนี้แนวทางจับงานเบื้องหลังหรือเปล่า

“ผมชอบแสดงแต่ก็ชอบกำกับด้วย ในอนาคตอาจจะมี จริงๆดูหลายโปรเจกต์ ถ้าตัดสินใจทำทุกอย่างต้องพร้อม ฉันพร้อมแล้วที่จะทำ เวลา ความรู้ เงิน 3 สิ่งนี้ เมื่อพร้อมทำเลย ที่เหลือไปแก้ปัญหา ณ ตอนนี้เบื้องหน้าจะเป็นสะพานไปสู่งานเบื้องหลังที่มันมั่นคงกว่าเดิม”

สิ่งที่อยากทำเป็นความฝันของเรา

“เป็นทั้งเบื้องหลังและเบื้องหน้าพร้อมกัน เหมือนซิลเวสเตอร์, ทอม ครูซ, คลินต์ อีสต์วูด เค้าโปรดิวซ์เอง เล่นเอง กำกับเอง บางทีให้เพื่อนกำกับแต่เป็นโคโปรดิวเซอร์กัน เพราะฉะนั้นจะเป็นผลงานที่ถ้าเจ๊งก็เป็นเรื่องของเรา ประสบความสำเร็จก็เรื่องของเราไม่ต้องมานั่งโทษใคร แต่เราได้ลองทำ โดยไม่ได้สนว่ามันจะเจ๊งหรือไม่เจ๊งนะเพราะว่าผมแค่อยากทำเหมือนเด็กอยากเล่นบอล ไม่ได้สนใจจะได้ถ้วย ถ้าเราไม่ซีเรียสเรื่องเงินเรื่องเวลา เราควรสนุกเหมือนเด็กเตะบอล ผมคิดแบบนั้น”

ชงตัวเองเป็นสายแบ๊วขนาดไหน

“สายต๊องครับ คนทั่วไปจะเห็นผมว่าเป็นคนซีเรียส จริงจัง แต่ถ้าอยู่ด้วยกันแล้วจะรู้ว่าผมจริงจังไม่กี่เรื่องเอง เรื่องจริงจังก็ต้องจริงจังแต่บางคนไม่ชิน เค้าเจอพาร์ตแสดงๆๆ บทบาทที่แสดงเจอแต่จริงจังแต่เค้าไม่รู้หรอกตัวจริงผมเพี้ยนจะตาย เราเป็นคนบ้าๆบอๆ เวลาอยู่บ้านทำอะไรพิลึกกึกกือเยอะแยะมากมาย คนคิดไม่ถึงหรอก สมมติพี่เค้ามาห้องแล้วไม่รู้จักก๊อต จิรายุ จะเห็นผู้ชายเอาปากคาบพู่กัน เอามือเอาเท้าคาบพู่กันพร้อมกัน 6 อัน แล้วเขียนภาพพี่คิดว่าไอ้นี่บ้ามั้ย ผมอยากรู้ว่ามันยากขนาดไหนไม่ลองจะไปรู้เหรอว่าเป็นยังไง เราแค่ต้องการประสบการณ์จากคนอื่นเราเลยทำเรื่องบ้าๆบอๆ”

พฤติกรรมแปลกๆแบบนี้โบว์รับได้มั้ย

“เค้าชินกับความเพี้ยนของผมแล้วล่ะเพราะผมเพี้ยนทุกวันไง ถ้าไม่เพี้ยนแบบนี้หรือไม่คิดต่างแบบนี้ผมจะไม่ได้อะไรคิดสร้างสรรค์เลยจริงๆ เพราะว่ากระบวนการเป็นเด็กอีกครั้งนึงทำให้เราเจอเสียงบางเสียง”

จริงๆคู่เราเป็นสายหวานแหววมั้ย

“ผมไม่รู้อะไรคือหวานหรือไม่หวาน ดูไม่ออกแยกไม่ออก ผมเป็นคนทื่อๆ แต่ในความทื่อมีความโค้งอยู่เยอะมากซึ่งมันเป็นการแสดงออกถึงความรักในแบบของผมซึ่งผมไม่สนใจจะเรียกว่าหวานหรือขม เปรี้ยว (หัวเราะ)”

นิสัยตรงไหนของกันและกันถึงทำให้เราคบกันได้ยาวนานขนาดนี้

“ข้อนึงที่เรามีแน่ๆ คือต่างยอมรับว่าเราเห็นแก่ตัว เรามีความต้องการของตัวเรา เรากล้ายอมรับในเรื่องนี้ เมื่อไหร่ที่คุณมีความคาดหวังจะให้ผมทำแบบนึง คุณต้องเข้าใจว่าถ้าผมทำในสิ่งที่คุณคาดหวัง ความผิดไม่ได้เป็นเพราะผมผิดแต่มันเป็นเพราะคุณคาดหวังให้มันเป็น คุณรักตัวเองเราบอกรักคนอื่นแต่จริงๆเรารักความเห็นแก่ตัวของเราพอเราเข้าใจกันแบบนี้เราเลยอยู่ด้วยกันได้ ยอมรับซึ่งกันและกัน แต่ถ้าบางอย่างยอมไม่ได้ก็คือไม่ได้ อย่างผมจะมีเวลาผมปลีกวิเวก โบว์เค้าก็มีเหมือนกัน ไม่ใช่มานั่งจี้ไปไหน เป็นแบบนั้นอยู่ด้วยกันไม่ได้ เค้าไม่ตามเพราะรู้ว่าถ้าตามแล้วผมเป็นยังไง ตามแล้วเครียด แต่ต้องเปลี่ยนและพัฒนาให้เจริญทั้งคู่ มีนิสัยหลายอย่างที่ฉุดรั้งกับความยากจน ฉุดรั้งกับการตัดสินผู้อื่น มองโลกคับแคบ ต้องแก้นิสัยพวกนี้ให้ได้ ไม่งั้นทุกข์เพราะวางใจไม่ได้ ผมรู้จักตัวเอง เค้ารู้จักตัวเอง กลายเป็นคนรู้จักตัวเองคนสองคนมาอยู่ด้วยกันเลยไม่ค่อยทะเลาะ ถ้าจะทะเลาะกันส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องผมไปผิดเวลา นัดเที่ยงแต่ผมเที่ยงออก โดนด่าเลย เค้าเป็นคนเยอรมัน เรื่องเวลาจะเป๊ะแต่งอนก็แป๊บเดียว กินของหวาน แป๊บเดียว อะเลิต หวานอยู่ออกสื่อต้องเก๊กหน่อยสิ (หัวเราะ)”.

“ทีมข่าวบันเทิง”

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/1910361
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/1910361