กานต์ วิภากร เดือด! น้องลอนดอน โดนเพื่อนรุมทำร้าย-ด่าหยาบแต่กลับโดนรร.ไล่ออก


ให้คะแนน


แชร์

กานต์ วิภากร เดือด! น้องลอนดอน โดนเพื่อนรุมทำร้าย-ด่าหยาบแต่กลับโดนรร.ไล่ออก

วันที่ 22 ส.ค. 2563 เวลา 11:15 น.

กานต์ วิภากร เดือดจัด! น้องลอนดอน ลูกสาวคนเล็กโดนเพื่อนรุมทำร้าย-ด่าหยาบแต่กลับโดนรร.ไล่ออก

ทำเอาคนเป็นแม่อยู่เฉยไม่ได้ สำหรับ กานต์ วิภากร ภรรยาของร็อกเกอร์หนุ่ม เสก โลโซ หลังลูกสาว น้องลอนดอน โดนเพื่อนแกล้งรุมทำร้ายและต่อว่า กลับถูกไล่ออกและโดนปัดความรับผิดชอบจากทางโรงเรียน

งานนี้ สาวกานต์ จึงโพสต์ภาพ ลูกสาวที่กำลังตั้งอกตั้งใจเลือกซื้ออุปกรณ์การเรียน ลงในอินสตาแกรม พร้อมกับข้อความบรรยายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเอาไว้ว่า…

“เตรียมตัวหาซื้ออุปกรณ์เครื่องเขียน ตื่นเต้นดีใจจะได้ไป รร.เปิดจันทร์นี้ โดยเด็กน้อยไม่รู้เลยว่า โดนไล่ออกวันนี้เองหมาดๆ เพราะไม่สู้คน รบกวนฝากเพื่อนๆ ช่วยแชร์ให้เยอะที่สุดเลยนะคะ ลูกใครๆ ก็รัก

ลอนดอนเป็นเด็กเรียบร้อย สดใส ร่าเริง น่ารัก ไม่เกเร ไม่ทำร้ายใคร ด่าใครก็ไม่เป็น แต่โดนเพื่อนใน รร.รุมทำร้าย ทั้งตบตี ทั้งถีบผลัก ทั้งด่าทอต่างๆ นานา เช่นด่า ลอนดอนว่า อีโง่!! แรกๆ เราสงสัยว่าทำไมลอนดอนเงียบ ไม่คุย ดูไม่ไว้ใจใคร ไม่มีเสียงพูดหรือเสียงหัวเราะจากเค้าแล้ว จากเด็กร่าเริงกลายเป็นเด็กเงียบ ไม่พูดเลย ถามอะไรก็ไม่มีเสียงตอบ อย่างมากก็ตอบเป็นเสียงลม เหมือนกระซิบ ตอนนี้ทุกคนในครอบครัวช่วยกันเยียวยาจิตใจและเมื่อเค้าไว้ใจจึงได้บอกความจริงกับแม่ว่า เพื่อนที่ รร.ทำร้ายเค้าแบบนั้นอย่างต่อเนื่อง

เราได้แจ้งรรไปทุกทางแต่ไม่มีเสียงตอบรับจากผู้บริหาร รร. หรือเจ้าของ รร. จนเราติดต่อตรง เค้าบอกจะจัดการให้ แต่พอมาวันนี้ ปัดความรับผิดชอบ โดยการไล่ลอนดอนออกจาก รร.โดยแสดงเหตุผลว่า ทาง รร.ไม่มีคนที่มีคุณสมบัติจะดูแลลอนดอนได้ จึงขอให้ลอนดอนออกจาก รร.

นี่คือ รร. นานาชาติติดอันดับ Top10 ของเมืองไทย รร. ระดับนี้ยังดูแลนักเรียนไม่ได้ นับประสาอะไรกับรร.ทั่วไป เพราะฉะนั้น ขอเตือนให้เพื่อนๆ ที่มีลูก คิดกันให้เยอะๆ ในการหา รร. ให้ลูกเพราะเค้าไม่ได้รักเด็กจริงๆ เค้าแค่ทำเพราะเป็นธุรกิจ!! มีต่อ ฝากแชร์เตือนพ่อแม่ผู้ปกครองเยอะๆ นะคะ เพื่อประโยชน์ของลูกคุณเอง”

งานนี้แฟนคลับเข้าไปแสดงความคิดเห็นและให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก 

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.posttoday.com/ent/news/631228
ขอขอบคุณ : https://www.posttoday.com/ent/news/631228