ไปต่อไม่ไหว! “จิ๊บ ปกฉัตร” เปิดปากครั้งแรก เลิกแฟนหนุ่มรุ่นน้อง “บอส พุทธิพงศ์”


ให้คะแนน


แชร์

“จิ๊บ ปกฉัตร” เปิดใจครั้งแรกพร้อมน้ำตา หลังเลิกแฟนหนุ่มรุ่นน้อง “บอส พุทธิพงศ์”

ยอมออกมาเผยถึงเรื่องราวความรักครั้งแรก สำหรับนักแสดงสาว ”จิ๊บ ปกฉัตร” ได้ออกมาเปิดใจถึงเรื่องราว หลังเลิกแฟนหนุ่มพระเอกรุ่นน้อง ”บอส พุทธิพงศ์” โดยเธอได้ออกมาเคลียร์เปิดใจถึงปมรักร้าวในรายการคุยแซ่บ Show สาเหตุที่ทำให้ต้องหยุดความสัมพันธ์ครั้งนี้ หลังคบกันได้ 3 ปี

ย้อนกลับไปปีที่แล้วคุณควงแฟนเก่ามารายการเปิดตัวเป็นที่แรก ครั้งนี้มารายการเพื่อที่จะบอกว่าเลิกกัน มันเกิดอะไรขึ้น?

จิ๊บ : “จิ๊บเป็นคนทำงานหนักมากแล้วก็จริงจังกับชีวิตตัวเองมากและจริงจัวกับอนาคตตัวเองมาก พี่บอสเขาอยู่ในจุดที่กำลังค้นหาเส้นทางชีวิตเขาอยู่ พอมันมีความคาดหวังเกิดขึ้นมาในความสัมพันธ์มันกลายเป็นว่าเราทั้งคู่ไม่ค่อยได้คุยกัน แล้วมันทำให้ไม่มีความสุข ก็ถอยออกมาดีกว่า”

มันเหมือนกับพออยู่ด้วยกันพักนึงมันกลายเป็นเส้นขนาน จิ๊บมีเส้นทางของตัวเอง เขามีเส้นทางของเขา แต่ 2 เส้นนี้หลังๆ ไม่เคยได้ผ่านกันอีกแล้ว?

จิ๊บ : “ก่อนหน้านี้เราเริ่มต้นความสัมพันธ์ด้วยจุดเดียวกันว่าเรามีเป้าหมายเหมือนกันแต่พอผ่านระยะเวลาไปเรื่อยๆ พอเรามาคุยกันอีกครั้งคือเป้าหมายมันเปลี่ยนไป เพราะฉะนั้นเราไม่สามารถไปเร่งโตใคร ไปกดดันใดๆ ได้ เราก็มีชีวิตของเรา เขาก็มีชีวิตของเขา”

แล้วเป้าหมายที่ไม่ตรงกันของจิ๊บคืออะไร ? เห็นว่าอยากจะมีน้องแล้ว ?

จิ๊บ : “ไม่ๆ มันเป็นเรื่องของวัยมากกว่า จุดที่จิ๊บยืนจิ๊บอายุ 34 แล้วก็มองถึงเรื่องอนาคต วางแผนเรื่องการเงิน เรื่องการจัดการตัวเองจนถึงอายุ 60-70 แล้วว่าถ้าสมมติจิ๊บใช่ชีวิตด้วยตัวคนเดียวเพราะจิ๊บเป็นเจ้าของร่างอันนี้ ต้องดูแลร่างอันนี้และรับผิดชอบทุกอย่างในร่างนี้จนวันตายแล้วต้องด้วยตัวเองด้วย เพราะฉะนั้นจิ๊บก็วางแผนชีวิตจิ๊บไปถึงตรงนี้ พอพี่บอสเข้ามาเราก็คิดถึงแผนของเรากับพี่บอสต่อ ซึ่งบางทีมันก็หนักไป” 

หนักไปคือ ?

จิ๊บ : “มันอาจจะหนักเกินไปสำหรับเขาด้วย”

แล้วเขามีเป้าหมายอะไร ?

จิ๊บ : “คือมันไม่มีอะไรผิดอะไรถูก คือเขาก็อยากค้นหาชีวิตเขาว่าเขาอยากทำอะไร ชอบอะไร เขามีความสุขกับตรงจุดๆ ไหน ในเรื่องของการทำงาน ซึ่งมันก็ไม่แปลกอะไรก็ด้วยวัยของเขาด้วย เขามีสิทธิ์คิดและเขามีสิทธิ์เลือกอนาคตเขาเอง แล้วเราก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องกดดันเขาเราก็ปล่อยให้เขาโตไป” 

นั่นก็เลยทำให้เป้าหมายของทั้งคู่แตกต่างกัน ?

จิ๊บ : “ใช่ เราก็เลยมาคุยกันอีกที คุยกันจริงๆ ว่าจุดที่เรายืนอยู่อัปเดตหน่อยว่ามันเป็นยังไงบ้าง พออัปเดตแล้วเรามองคนละมุม อยู่กันคนละจุด ก็เลยทำให้ความสัมพันธ์นี้ต้องถอยกันออกมา ปล่อยให้ต่างคนต่างไปทบทวนตัวเอง ซึ่งมันก็สบายใจกว่า วันนี้อาจจะลดความสัมพันธ์ลงมาแต่ว่าสิ่งหนึ่งที่ไม่เปลี่ยนเลยคือจิ๊บเป็นเพื่อนกับเขาได้ตลอดไป พร้อมซัพพอร์ตทุกอย่างกันและกัน” 

ที่บอกว่าต่างคนต่างถอนมากันคนละก้าว ถอยมาได้เท่าไหร่แล้ว ?

จิ๊บ : “ก็ประมาณเดือนนึงแล้วที่ไม่เจอกันเลย” 

อันนี้คือเลิกกันจริงๆ มั้ยหรือแค่งอนกัน ?

จิ๊บ : “ตอนแรกจิ๊บก็คิดว่ามันจูนกันไม่ได้จริงๆ เหรอ แต่พอผ่านระยะเวลามาแล้วได้คิดทบทวนทุกอย่างก็เลยได้เห็นว่ามันเป็นพี่เป็นน้องกัน ไม่กดดันกัน ให้อยู่แบบทุกคนต่างต่างโต มันสบายที่สุด แล้วมันมีความสุขนะ ตอนจิ๊บไปสมุยไปคนเดียว ได้มีเวลาให้ตัวเองก็ยังส่งข้อความไปบอกพี่บอสเลยว่าสิ่งที่เราคุยกันที่เรายอมรับข้อตกลงกันว่าถอยกันออกมามันเวิร์คนะ มันทำให้ต่างคนต่างโตแล้วต่างคนต่างเบาลงกับสิ่งที่ต่างคนต่างแบกอยู่ เพราะว่าพอมาอยู่คู่กัน เราก็ต้องทำหน้าที่ แบกความหวัง แบกความฝันของอีกฝ่ายนึงด้วยเหมือนกันทั้งคู่เลย ซึ่งพอมันปล่อยความคาดหวังออก มันกลายเป็นแบบสบายมาก”

เสียดายมั้ยหรือเสียใจ ?

จิ๊บ : “ไม่ เขาคือความสุขของเราในช่วงนั้น แล้วเราผ่านช่วงนั้นมาแล้ว วันนี้เราก็มีความสุขของเราได้แล้ววันนี้จิ๊บเลือกแล้วว่าความสุขของจิ๊บคือจิ๊บอยากมีความสุขได้ด้วยตัวเอง จิ๊บไม่ต้องพึ่งพาใคร” 

มีเรื่องมือที่สามเข้ามาเกี่ยวมั้ย ?

จิ๊บ : “ไม่มี ถ้ามีง่ายกว่านี้เยอะเลย ถ้ามีคือวันนี้จะพูดได้สบายมากเลย”

 ได้ปรับตัวเข้าหากันมั้ยตอนแรก ?

จิ๊บ : “มันผ่านระยะเวลามาซักพักแล้ว ไม่ใช่ว่าราไม่ลอง ไม่ใช่ว่าเราไม่ให้โอกาสกัน แต่เราก็คุยกันมาตลอด อย่างที่บอกว่าบทสนทนามันเริ่มไม่มีคุณภาพแล้ว” 

แล้วใครเป็นคนเอ่ยว่าจบ ?

จิ๊บ : “เหมือนเรานั่งคุยกัน เวลามีอะไรเราก็จะนั่งคุยกัน วันนั้นเราก็นั่งคุยกัน คุยถึงเรื่องมุมมอง เหมือนเป็นวันวันนึงที่มานั่งคุยกัน คุยถึงเรื่องมุมมอง คุยถึงเรื่องเป้าหมายในชีวิต แพลนในอนาคตชีวิตของคุณกับชีวิตของฉัน แพลนเราตอนนี้ไปถึงไหนกันแล้ว พอเราคุยก็ได้เห็นว่า อ้าว ! อยู่กันคนละมุมมองกันนี่ แล้วยังไง ก็เลยคุยกันแล้วก็ถอยดีกว่า” 

ใครเป็นคนบอกให้ถอย เราบอกเขาหรือเขาบอกเรา ?

จิ๊บ : “เราบอกเขา เพราะเราก็บอกเขาว่าเราไม่อยากเป็นปุ๋ยเร่งโตเขา เพราะนั่นคือชีวิตของเขาเราไม่อยากกดดัน” 

แล้วเขาว่ายังไง ?

จิ๊บ : “เขาก็บอกว่าได้” 

หลังจากนั้นมาเขาพยายามง้อมั้ย ?

จิ๊บ : “ถามว่าง้อมั้ยเหรอ ก็มีคุยกันบ้าง อย่างที่บอกว่าปัญหามันเป็นปัญหาในเรื่องของวัยมันแตกต่าง มุมมองและจุดที่เราโฟกัสตอนนี้มันคนละมุมกัน” 

เสียใจมั้ยที่เลือกที่จะคุยกันแล้วเราเป็นคนถอย ?

จิ๊บ : “ไม่เลย จิ๊บไม่เคยเสียใจที่ว่าครั้งนึงเคยคบกับเขาเลย จิ๊บรู้สึกว่าจิ๊บโชคดีนะที่มีเขาอยู่ในชีวิต เขาทำให้เรารู้ว่าความรัก ความสวีท ความโรแมนติกมันเป็นยังไง” 

ถ้าย้อนกลับไปได้เราจะคิดมั้ยว่า ฉันไม่น่าพูดคำว่าถอยเลย ฉันจะทำทุกอย่างเพื่อให้มีกัน ?

จิ๊บ : “ไม่เหมือนกัน เพราะว่าเราคิดทั้งหมดแล้ว แล้วเราเห็นวาวันนี้ที่เลิกกันมันเจ็บทั้งคู่แหละ แต่ว่ามันเพื่อความสุขในอนาคตของเราทั้งคู่เหมือนกัน เพื่อให้เราสองคนไม่ทำร้ายกันไปมากกว่านี้ ยังมีความรักหลงเหลืออยู่ในความสัมพันธ์” 

ที่เราบอกขอถอยทำใจมาแล้วส่วนนึงด้วยใช่ป่าว ?

จิ๊บ : “นิดนึง เพราะเราเห็นแล้วว่า เขาเองก็เหนื่อย”

แอบหวังมั้ยว่าเราถอยแล้วเขาจะตาม ?

จิ๊บ : “มันก็เป็นธรรมดาเนอะ มันก็ต้องมีบ้างนิดหน่อย” 

จิ๊บยังรักเขาอยู่มั้ย ?

จิ๊บ :  “รัก แต่สถานะความรักมันเปลี่ยนไปแค่นั้นเอง”

ตอนนี้เป็นเพื่อนแล้วจะกลับมาดีกันเหมือนเดิมมั้ย ?

จิ๊บ  : “อนาคตไม่รู้เลยจริงๆ ตอนนี้ไม่ได้หมายความว่าจะกลับไม่ได้ แต่ต้องให้ต่างคนต่างโตก่อน จริงๆ เขาเป็นผู้ชายที่ดีมากๆ เลยนะ เขาน่าจะเป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบเลยถ้าเขาในวัย 30 กว่าๆ แล้ว ที่เขาตกตะกอนแล้ว ที่เขาค้นหาความเป้นตัวตนที่เขาต้องการเจอแล้ว เขาจะเป็นผู้ชายในฝันของผู้หญิงหลายๆ คนเลย” 

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.posttoday.com/ent/news/632269
ขอขอบคุณ : https://www.posttoday.com/ent/news/632269