สรุปเนื้อๆ 25 ข้อ ไมค์ แถลงเปิดใจ ทำไมต้องยื่นขอเลี้ยงลูกร่วม ซาร่า


ให้คะแนน


แชร์

3. ไมค์ได้เจอลูกแบบปกติตั้งแต่เดือนมีนาคม หลังจากที่กักตัวเสร็จก็ขอเจอลูก หลังจากนั้นก็ไม่ได้เจอยาวจนถึงช่วงวันเกิดของลูกชาย ก่อนหน้านี้ต้องไปดักเจอลูกที่โรงเรียน หรือไปที่ใต้คอนโด

4. ซาร่าไม่ได้กีดกัน แต่การจะได้เจอลูกหลังจากที่คุยเรื่องลดค่าใช้จ่ายต่างๆ ก็เลยได้เจอค่อนข้างยาก ไมค์ต้องไปรอลูกเก้อที่สนามบิน จนทำให้รู้สึกไม่โอเคกับสิ่งที่เกิดขึ้น 

5. เมื่อวันที่ 8 ก.ค. ไมค์ต้องการเจอลูกและพามาจัดวันเกิดที่บ้านก่อนกลับภูเก็ต ซึ่งในวันที่ 9 ซาร่าให้ไมค์ไปในวันรุ่งขึ้น เพราะอีกวันจะเดินทาง ซึ่งไมค์เข้าใจว่าวันนั้นจะเป็นวันสุดท้ายที่จะได้ทำกิจกรรมกับลูก วันนั้นเป็นวันที่ 9 และวันที่ 10 ไมค์พิมพ์ไปบอกจะไปรับตอนบ่าย 3 และจะพามานอนที่บ้าน และพาไปส่งที่สนามบินให้ พอวันที่ 10 บ่าย 3 ใส่ชุดสไปเดอร์แมนไปรอที่คอนโด พยายามติดต่อไป แต่ก็ติดต่อไม่ได้ จนติดต่อได้ และซาร่าบอกว่ายังไม่ได้ตอบตกลงเลย 

6.ไมค์พยายามตื๊อจนได้เจอลูก และได้อยู่กับลูกแค่ไม่กี่นาที แต่ลูกกลับมีปฏิกิริยากับตนไม่เหมือนเดิม เปลี่ยนไป ตอนที่เจอกัน ลูกมีท่าทีที่ผวา มองคนที่อยู่ข้างหลังของตนตลอด แต่ตนไม่ได้สนใจ วันถัดมา ซาร่าถามว่าจะมารับลูกหรือไม่ ซึ่งตนก็ได้ถามไปว่าไปรับได้กี่โมงและต้องไปส่งกี่โมง ซึ่งซาร่าบอกว่าต้องส่งถึงบ้าน 1 ทุ่ม แต่ไม่บอกไฟล์ตบินกี่โมง สนามบินอะไร ทั้งๆ ที่ไมค์ได้ถามไปแล้ว แต่ไม่ได้คำตอบ 

7.เพราะติดงาน ไมค์เลยไปดักรอลูกที่สนามบิน เพราะคิดเอาเองว่าลูกน่าจะบินหลัง 1 ทุ่ม แต่รอจนถึง 4 ทุ่ม ก็ไม่เจอ ติดต่อไม่ได้ ถามไปก็ไม่ตอบ วันอาทิตย์ที่ 12 ไมค์ไปประชุมที่หน้าโรงเรียนสอนเต้นของลูก และเจอลูกเดินลงมากับพี่เลี้ยง ไมค์รู้สึกตอกย้ำว่า ลูกยังอยู่กรุงเทพฯ แต่ทำไมตนถึงเอาลูกกลับมานอนด้วยไม่ได้ พอถ่ายรูปส่งให้ซาร่าดู แต่ก็ไม่ได้คำตอบ และวันนั้นเป็นวันสุดท้ายที่ได้คุยกับซาร่า

8.จากเรื่องทั้งหมดทำให้ไมค์ตัดสินใจยื่นเรื่องเพื่อขอสิทธิ์ปกครองร่วม ไมค์พยายามติดต่อเพื่อพูดคุยเจรจากันแต่อีกฝ่ายก็ไม่ตอบ เรื่องที่ถามบ่อยสุดคือเรื่องโรงเรียนลูก

9.ไมค์ยอมรับเจอพิษโควิด-19 ทำให้สถานการณ์ที่เป็นอยู่ไม่มั่นคง จึงได้ไปปรึกษากับซาร่าเรื่องโรงเรียนลูก ยื่นขอเสนอให้หาโรงเรียนอื่น ไมค์ไปหาโรงเรียนและศึกษาข้อมูลเยอะ ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนเอกมัย อินเตอร์เนชั่นแนลสคูล ประสานมิตร เลิศหล้า รีเจ้นท์

10. ไมค์ยื่นข้อเสนอให้ลูกชายเรียนโรงเรียนเลิศหล้า ค่าเทอม 1.5 แสนบาท เพราะทุกอย่างดูโอเค แต่ซาร่าอยากไปดูโรงเรียนประสานมิตร

11. ไมค์คุยกับซาร่าว่าให้ช่วยกันแชร์เรื่องค่าใช้จ่ายของลูกในสถานการณ์แบบนี้ แต่ไม่เคยได้คำตอบในเรื่องนี้

12. ไมค์ยอมรับว่าเอาลูกออกจากโรงเรียน เพราะไปคุยกับโรงเรียนแล้วทราบเรื่องว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่จะเอาลูกออก ถ้าไม่ทำภายในวันนี้ ค่าประกัน 3 แสนสูญหายเลย และทางโรงเรียนบอกว่าหากเอาชื่อลูกออกมาแล้วยังเอากลับเข้าไปเรียนได้อยู่ เพราะเข้าใจในสถานการณ์แบบนี้

13. ไมค์เตรียมเอกสารทุกอย่างในเวลา 3 ชั่วโมง ลูกพ้นสภาพการเป็นนักเรียนของไบรตัน และพยายามคุยกับซาร่าเรื่องโรงเรียนของลูก จนอีกฝ่ายกลับภูเก็ตก็ยังไม่ได้คำตอบ จนโรงเรียนใกล้เปิด ไมค์โทรไปบอกโรงเรียนขอเอาลูกกลับเข้าสถานะเดิม และเสียเงิน 3 แสนนั้นไป เพราะซาร่าไม่ให้คำตอบเรื่องนี้

14. ส่วนเรื่องคอนโด ตนไม่ได้ให้อยู่ห้องเช่าเดือนละ 4 พัน แต่มีชอยส์ให้เลือกมีราคาตั้งแต่สี่พันจนถึงหมื่นสาม และทุกอันที่เลือกดูแล้วว่าตนอยู่ได้ ลูกก็น่าจะอยู่ได้ พื้นที่ดูดี มีทุกอย่าง แต่ไม่ได้รับคำตอบ

15. คอนโดที่อยู่ก่อนหน้านี้เป็นของพี่ชาย แต่ขอให้หลานอยู่ และจ่ายค่าเช่าในราคาถูก แต่พอเจอสถานการณ์โควิด-19 พี่ชายก็ได้รับผลกระทบ และต้องการที่จะปล่อยห้องนี้ เลยให้ไปคุยกับซาร่า

16. ไมค์เดินทางไปที่คอนโด และเจอผู้ชายอายุประมาณ 40 กว่าปีที่ไม่คุ้นหน้าอยู่ในห้อง ซึ่งเป็นคนขับรถของซาร่า แต่ไม่ใช่คนที่ตนจ้าง น่าจะเป็นสามีของป้าพี่เลี้ยงที่ตนจ้าง เมื่อพี่ชายทราบเรื่องจึงตัดสินใจตัดคีย์การ์ดและตัดน้ำ แต่ไม่ได้ตัดไฟ ซาร่าไม่เคยแจ้งว่าจะมีคนมาขนของที่คอนโด เพราะคุยกันครั้งสุดท้ายตั้งแต่วันที่ 12 ก.ค.

17. ซาร่าไม่คุยกับไมค์ตั้งแต่ก่อนจะได้หมายศาล หมายศาลส่งถึงที่บ้านเมื่อวันที่ 18 ก.ค. แต่ไม่ได้คุยกันตั้งแต่วันที่ 12 ก.ค. เจอซาร่าล่าสุดตอนไปดักเจอลูกที่โรงเรียน เห็นแค่หน้า เพราะอีกฝ่ายอยู่บนรถ ไม่ได้ลงมา วันนั้นเป็นวันก่อนที่โรงเรียนจะปิดเทอม ยังมีรายละเอียดเยอะมาก แต่ไม่ได้อยากจะพูดเพราะมันจะกระทบกับลูกของตน

18. ไมค์ไม่รู้ว่าเกิดขึ้นเพราะอะไรถึงทำให้เริ่มติดต่อกับซาร่ายากขึ้น แต่หลังจากที่ไปคุยขอลดค่าใช้จ่าย ก็เกิดปัญหาขึ้น

19. ไมค์จ่ายเงินให้ลูกทั้งหมด 100 เปอร์เซ็นต์ ตั้งแต่วันที่คลอดลูก แต่ไม่ได้คุยกันหรือทำเป็นลายลักษณ์อักษร แค่ต้องการรับผิดชอบ ไมค์จ่ายค่าเทอม ค่าพี่เลี้ยง ค่าคนขับรถ ค่าประกันชีวิต ค่าจัดงานวันเกิด เงินเดือนอีก 3 หมื่น และอื่นๆ อีกมากมาย

20. เรื่องเซ็นรับรองบุตร ไมค์รับเป็นลูกตั้งแต่วันที่ออกมายอมรับแล้ว กระดาษใบหนึ่งสำคัญกว่าการกระทำหรืออย่างไร และซาร่าบอกให้เคารพเกียรติของตน ไม่ให้เซ็น รอให้ลูกโตและเป็นคนตัดสินว่าจะให้เป็นพ่อหรือเปล่า ซึ่งตอนนั้นตนไม่รู้เรื่องกฎหมายอะไรเลย เลยขอทำให้เห็นดีกว่า

21. ทุกวันนี้แม้จะไม่ได้เจอลูกไมค์ก็ยังจ่ายเงินเดือนให้อยู่ดือนละ 3 หมื่นบาท แต่ค่าอื่นๆ ไม่ได้จ่าย ตั้งแต่เดือนมีนาคม และตนเห็นซาร่ามีงาน มีรายได้ เลยขอให้มาช่วยจ่ายในส่วนนี้ แต่ซาร่าบอกว่าไม่มี ซึ่งตนไม่ได้มีแค่ค่าใช้จ่ายของลูก เพราะยังมีพนักงาน ทีมงาน บริษัท ยอมตัดเงินเดือนตัวเองเพื่อให้พนักงานรอดในช่วงโควิด-19

22. ไมค์ไม่เคยคิดเอาลูกมาเลี้ยงเอง เพราะรู้ว่าลูกต้องการแม่และพ่อ ส่วนเรื่องที่ซาร่าตั้งครรภ์ ตนไม่ขอยุ่ง ไม่ใช่เรื่องของตน และต้องไปถามซาร่าเอง

23. ทนายเจมส์บอกว่าการไปยื่นคำร้องขอเป็นพ่อตามกฎหมาย เด็กไม่ได้เสียผลประโยชน์ นี่คือเป็นการทำเอกสารเพื่อมัดตัวไมค์

24. ไมค์ขอโทษครอบครัวที่ลากเข้ามายุ่งกับเรื่องปัญหาที่เกิดขึ้น และขออย่าให้ไปด่าคนในครอบครัว ให้มาด่าที่ตนเอง ไมค์ยอมรับว่าตนเองเคยผิดพลาดในชีวิต แต่พร้อมจะแก้ไขในสิ่งที่ผิดพลาด

25. ไมค์อยากบอกให้ลูกรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างเอามาเป็นปมในชีวิต พ่อและแม่รักลูกมากที่สุด และพ่อจะไม่มีวันทอดทิ้งลูกและเปลี่ยนความคิด ถ้าไม่ได้อยู่ด้วยกัน ที่ตรงนี้ยังเป็นของลูกและกลับมาอยู่ได้เสมอ.

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/1931076
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/1931076