เบิ้ล ปทุมราช ร่ำไห้ อาลัย โรเบิร์ต สายควัน เผยความสัมพันธ์ รักกันมาก

เบิ้ล ปทุมราช ร่ำไห้ อาลัย โรเบิร์ต สายควัน เผยความสัมพันธ์ รักกันมาก

เบิ้ล ปทุมราช ร่ำไห้ อาลัย โรเบิร์ต สายควัน / นักร้องชื่อดัง เบิ้ล ปทุมราช โพสต์ข้อความไว้อาลัย โรเบิร์ต สายควัน ลงในไอจี ble_patumrach_smiles มีข้อความว่า ”ผมไม่เคยคิดเลย ว่านี่คือหนังเรื่องสุดท้ายที่เราจะได้เล่นด้วยกัน ผมรักพี่นะ เราสนิทกันไวมาก พี่เรียกผมทั้งน้องและบอสของพี่ นี่เราก็รู้จักกันจะเข้าปีที่4 แล้ว

ผมคงจะคิดถึงพี่มาก หนังบริษัทผมทุกเรื่องพี่ต้องได้เล่น พี่คงเหนื่อยและทนกับโรคร้ายนี้มาพอแล้ว พี่พักผ่อนนะครับ ผมไม่เคยเสียใจที่ได้รู้จักพี่

22 ตุลาคมนี้ หนังเรื่อง หลวงพี่กะอีปอบ ที่เราเล่นด้วยกัน จะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์แล้ว ผมจะดูเผื่อพี่นะ พี่เล่นดีมากๆเลยพี่รู้ตัวมั้ย 🥺

รักนะพี่  RIP. พี่ชายของผม 😞 ไม่มีอะไรให้ห่วงแล้วนะครับ พี่น้องคนรอบข้างพี่ทุกคนก็รักพี่และจะสู้ต่อไปในขณะที่มีลมหายใจครับ

ร่วมงานกัน

ล่าสุดเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 21 ก.ย. เบิ้ล เดินทางมาร่วมฟังสวดอภิธรรม โรเบิร์ต ที่วัดสุทธิสะอาด จึงได้ให้สื่อมวลชนสัมภาษณ์ เปิดใจถึงเรื่องความผูกผันระหว่านตนกับโรเบิร์ต

วันที่รู้ว่าพี่โรเบิร์ตเสียชีวิต เรารู้สึกยังไง
“วันนั้นไปดูมวยที่เดอะมอลล์บางกะปิครับ ด้วยความที่เราก็ไม่ได้เปิดโทรศัพท์ ก็เพิ่งโพสต์แสดงความยินดีกับที่แสนชัยที่ชกมวยชนะ แล้วพอมาเปิดเจอเฟซบุ๊กส่วนตัวพี่บอล เชิญยิ้ม ตอนแรกเราก็ไม่อยากเชื่อ เราก็เลยทักพ่อน้องปลื้มที่เขาอยู่กับพี่โรเบิร์ต เขาก็บอกพี่โรเบิร์ตเสียแล้วนะ ผมยังถามว่าพี่พูดจริงหรือเปล่า ผมยังคิดว่าเป็นข่าวหลอก เพราะเมื่อวันเกิดผมที่ผ่านมาแกก็ยังไปที่บ้าน เราสนิทกันตั้งแต่เมื่อ 3-4 ปีก่อนยุคที่พี่โรเบิร์ตเขาเพิ่งเริ่มมาทำการแสดงกับพี่บอลตั้งแต่ยุคแรกๆ ครับ เราได้เจอกันในรายการเรื่อยๆ”

เผยความรู้สึก

“หนังทุกเรื่องที่เบิ้ลทำก็จะให้พี่โรเบิร์ตไปแจมด้วยทุกเรื่อง จนมาถึงเรื่องที่เราเล่นด้วยกันต่างค่าย ซึ่งผมก็ไปรับจ้างเล่น ก็ไปเป็นพระเอกคู่กัน เรื่องหลวงพี่กะอีปอบ ที่จะฉายวันที่ 22 ต.ค. นี้ด้วย ก็เหมือนจะทำใจได้ครับ แต่ความรู้สึกลึกๆ ก็เหมือนว่าเราฝันไปหรือเปล่า ความรู้สึกผมเหมือนพี่เขาเป็นญาติคนนึง เราคุยกันในไลน์ตลอด เขาเรียกเบิ้ลเป็นทั้งน้องและบอส เพราะว่าเราทำงานด้วยกัน เราเป็นคนจ้างเขามาเล่นภาพยนตร์”

“แกเป็นคนตลก ทำให้ผมหัวเราะตลอด ผมค่อนข้างผูกพันพอสมควรกับพี่โรเบิร์ต พี่บอล พี่ตั้ก น้าค่อม เวลาว่างเราจะไปมาหาสู่กันตลอด พี่โรเบิร์ตจะเป็นคนที่คุยกับผมบ่อยที่สุดในกลุ่ม ก็รู้สึกเสียใจกับวงการตลกที่สูญเสียบุคลากรที่เก่งแบบพี่โรเบิร์ต เขาเป็นตลกธรรมชาติที่แค่ออกมายืนน่ะครับ สมัยนั้นมีหม่ำ เท่ง โหน่งที่เห็นหน้าก็หัวเราะแล้ว ผมว่าพี่โรเบิร์ตก็เป็นอีกคนนึงที่เด็กๆ ทุกคนเห็นหน้าแล้วต้องหัวเราะ และเขาเป็นคนที่มีความมุ่งมั่นในชีวิตมากๆ เขาเป็นคนมี 100 เก็บ 80 ใช้ 20 เขาเป็นคนขยันและทำเพื่อครอบครัว ผมไม่แปลกใจที่เขาโด่งดังและได้เงินมาดูแลครอบครัว”

“พี่เขาบอกตลอดว่าพี่เคยอยู่ในจุดที่เกือบเป็นศูนย์ เกือบไม่มีอะไรในชีวิตเลย จนวันนี้เขามีจุดยืนในสังคมมากขึ้น มีงานได้ทำ เราดีใจกับเขามาก และเขาสมควรที่จะได้ครับ พอมาถึงงานก็ว่าจะไม่ร้อง แต่พอเจอหน้าพี่บอลคือเรารู้กันเลยว่ามันใช่จริงๆ เหรอ ตอนที่เข้าไปกราบพี่โรเบิร์ตก็บอกเขาว่าคิดถึงและไม่ต้องห่วงอะไรนะ ผมรักและไม่เสียใจที่ได้รู้จักพี่ครับ หนังที่ผมเล่นด้วยกันผมก็จะดูเผื่อเขา ก็จะชวนทุกคนไปดูหนังของพี่ให้ได้ มันอาจจะไม่ใช่หนังเรื่องสุดท้าย แต่ว่ามันเป็นเรื่องสุดท้ายที่ผมเล่นกับพี่เขาครับ เพราะเขาน่าจะมีฉายอีกเรื่องนึงปีหน้าครับ”

ร้องไห้ด้วยความคิดถึง

“น้ำตามันไหลออกมาเอง เหมือนเราเสียบุคคลสำคัญ ซึ่งถ้าใครถามว่าเบิ้ลไม่ได้เป็นญาติกับพี่เบิร์ต แต่มันเป็นความผูกพันด้านการทำงานและความเป็นพี่น้อง วันสุดท้ายที่ผมเจอหน้าแกจริงๆ คือวันที่ผมแอบไปเยี่ยมแกที่บ้าน คือไม่บอกแกก่อน เพราะปกติเวลาผมไปไหนก็จะให้คนขับรถให้ เพราะผมยังขับรถเองไม่เก่ง แต่วันนั้นไม่มีใครว่างเลย ผมก็เลยขอขับไปเอง พอไปถึงแกนอนพักอยู่ ก็รอตั้งแต่บ่ายสาม แล้วเขาตื่นมา 5 โมงกว่าๆ พอเขาเห็นหน้าเราก็ตกใจ เขายังพูดตลกกับผมอยู่เลย ในใจลึกๆ เราก็สงสาร เพราะปกติพี่เขาเป็นคนผอมอยู่แล้ว แต่พอตอนไปเยี่ยมก็เห็นพี่เขาผอมกว่าเดิมอีก พี่กินอะไรได้มั้ย เราก็ถามไป”

“เมื่อกี้ที่เข้าไปหาพี่แจ๋วภรรยาพี่เบิร์ต คือมองตาก็เหมือนรู้ใจกันเลยครับ ก็แทบไม่ได้พูดอะไร แค่ก้มหน้าจับมือแล้วแกก็ร้องไห้ ผมก็บอกแกว่าสู้ๆ นะ ผมจะมาเยี่ยมแกบ่อยๆ ทุกคนยังรักพี่เบิร์ต คือพี่เบิร์ตไม่ได้หายไปไหน แก๊งพี่บอล บริษัทโจ๊กเกอร์ แฟมิลี่ยังคงมีพี่โรเบิร์ตอยู่ในนั้นตลอดถึงจะไม่มีเสียงของเขาแล้ว กับภรรยาและลูกของพี่โรเบิร์ตผมว่าพี่ๆ เขาก็ช่วยเต็มที่ ผมก็จะมาเยี่ยมแกบ่อยๆ ครับ”

“ถามว่าพี่โรเบิร์ตจากไปเร็วไปมั้ย ก็เร็วครับ แต่ก็ยังดีที่เขาได้รู้ตัวและได้รักษา ในความรู้สึกผมก็คิดว่าเร็ว มันจูนไม่ทันครับ เมื่อวันเกิดผมวันที่ 30 มิ.ย. พี่เขาขับรถมาเองมาหาผมที่บ้าน เป็นวันที่พี่เขาสนุกมาก ยิ้ม ผมจะขับรถไปส่งก็ไม่ให้ไป เขาบอกถ้ามาแล้วลำบากเบิ้ลพี่ไม่มา จนถึงวันนี้ผมก็ยังคิดว่าเขายังมีชีวิตอยู่ ก็เลนคิดว่ามันไวครับ”

ร้องไห้ต่อหน้ารูป

อ่านข่าว :

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_4962324
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_4962324