เคลียร์ประเด็นคาใจ ‘กรรชัย กำเนิดพลอย’ กับข่าวลือสะพัด ลาออกจากช่อง 3 โดนปลดฟ้าฝ่า โหนกระแสย้ายช่อง

ความจริงจากปากและความรู้สึกจากใจ หนุ่ม กรรชัย Thairath Talk ที่แรกและที่เดียว 

Thairath talk : ถามเรื่องช่อง 3 หน่อยครับ เห็นว่ามีข่าวคราวเกี่ยวกับความขัดแย้ง เกี่ยวกับผู้บริหารใหม่ เรื่องมันเป็นอย่างไรครับ

จริงๆ แล้วมันไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย ต้องบอกแบบนี้ว่าเรื่องราวที่มันเกิดขึ้น มันเกิดขึ้นภายในห้องประชุมครับและที่สำคัญผมเชื่อว่าทุกคนที่นั่งอยู่ตรงนี้ก็ต้องมีการประชุมกัน เมื่อไหร่ที่เราเข้าห้องประชุม สิ่งหนึ่งที่จะเกิดขึ้นภายในห้องประชุมก็คือความคิดต่าง แล้วบังเอิญว่าวันนั้นที่เราต้องเข้าห้องประชุม เราต้องคุยกันว่าเราจะดำเนินรายการไปทางมุมไหน ตรงนี้มันอาจจะมีมุมที่คิดต่าง ทางพี่เขาก็ไม่ได้ผิดและผมก็ไม่ได้ผิด ไม่มีใครคิดว่าจะทำอะไรออกมาและทำให้ช่องเสียหาย

“เพียงแต่ว่าเรื่องนี้มันหลุดออกมาจากห้องประชุมได้ยังไง ในมุมของผมนี่คือปัญหามากกว่า ว่าตรงนี้มันหลุดออกมาได้ยังไงและทำไมอยู่ดีๆ ถึงออกมาเป็นข่าวได้ คือการเป็นข่าวที่ว่ามีปัญหามันดูธรรมดา แต่บางทีมันออกมาถึงขั้นมีการโควตคำพูดแบบนั้นแบบนี้ออกมา และที่สำคัญคือคำพูดที่ออกมามันก็ไม่ได้มีความถูกต้องไปซะทีเดียว” หนุ่มกรรชัยกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง

Thairath talk : ไม่ได้งอนจนจะต้องย้ายช่อง มีข่าวว่ามี 2-3 ช่องที่จ้องจะจีบอยู่

มันไม่จำเป็นต้องมีข่าว ณ วันนี้หรอก เพราะมันมีมาตลอด มันมีการพูดคุยมาตลอด แต่ว่าวันนี้เรายังเป็นพนักงานของทางช่อง 3 อยู่ เพราะฉะนั้นการที่เราจะไปทำที่อื่นคงเป็นไปไม่ได้ คือเรื่องมันไม่มีอะไรเลย เพียงแต่ว่าพอมันมาอยู่กับสื่อ สมมติว่าสื่อสามอันนี้นำเสนออย่างตรงไปตรงมา แต่พอเริ่มสื่อที่ 5, 6, 7 มันไปกันใหญ่แล้ว โดนปลดฟ้าผ่า, กรรชัย โดนเด้ง, โหนกระแสย้าย มันไปถึงขั้นนั้นได้ยังไง ผมก็งง ซึ่งมันไม่มีอะไรแบบนั้น

“แต่ว่าเรื่องของอนาคตพี่ตอบไม่ได้ แต่เรื่องของวันนี้พี่บอกเลยว่ามันไม่มี เดือนนี้หรือเดือนหน้าไม่มีแน่”

Thairath talk : หลังจากนี้สามเดือนก็ไม่แน่

อย่าไปพูดแบบนั้นเลย (ยิ้ม)

Thairath talk : คิดไหมครับว่าจะอยู่ช่องนี้ตลอดไป 

คือถ้ายังทำอยู่ได้ เราก็จะทำไปเรื่อยๆ เพราะพี่ได้รับสามโอกาสจากทางช่อง 3 หนึ่งคือโอกาสในการเป็นนักแสดง โอกาสที่สองคือการเป็นพิธีกร และโอกาสที่สามคือพลิกชีวิตเลยด้วยการเป็นผู้ประกาศข่าว มันเป็นสามเหตุผลที่พี่ดูแล้วก็ไม่เห็นว่ามันจำเป็นต้องไปที่อื่นและมันอาจจะมีโอกาสที่ 4 โอกาสที่ 5 ตามมาอีกก็ได้ในอนาคตจากช่อง 3 ก็ต้องว่ากัน มันก็ต้องตามไปดู

โดนฟ้อง 50 ล้าน

Thairath talk : ล่าสุดเห็นโดนฟ้อง รู้สึกท้อไหมครับ

เป็นสิ่งหนึ่งที่เราต้องยอมรับ เพราะว่าเราเลือกที่จะทำรายการแบบนี้ มันเป็นรายการสด และมันก็เป็นสิทธิ์ของผู้ที่ถูกกระทบกระเทือนและเขาต้องการที่จะไปฟ้องศาล คือระบบข้อกฎหมายในประเทศไทยเป็นระบบกล่าวหาอยู่แล้ว เขาจึงมีสิทธิ์ที่จะไปเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับตัวเองได้ ฟ้องศาลได้ สุดท้ายศาลท่านรับพิจารณาก็เป็นดุลยพินิจของท่าน เราก็มีหน้าที่ต้องไปชี้แจงข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร

และสุดท้ายหากศาลบอกว่าเราผิดก็ต้องว่าไปตามกระบวนการทางกฎหมาย เราจะเยียวยายังไงให้กับเขาได้บ้าง เพราะว่าเจตนาของเรายืนยันว่าไม่เคยคิดจะไปเชิญคนนี้มาเพื่อด่าคนนั้น มันไม่ใช่ครับ เราแค่ต้องการไปพูดว่ามุมของคุณเป็นอย่างไร มุมคุณเราก็ยินดีที่จะให้มา แต่จะให้มาเราก็ต้องขอข้อมูลคุณด้วยว่าสิ่งที่คุณจะมาพูดคืออะไร แต่ถ้าคุณจะมาและคิดว่าคุณจะพูดอะไรที่มันเคลม ขอเวลาเราหน่อย ให้เวลาเราได้ไปศึกษามาก่อนเพราะเราไม่ถนัดเลย ต้องตรวจสอบนิดหนึ่ง แต่ไม่ใช่ว่าถึงเวลา ยังไม่ทันจะมา เกิดเป็นประเด็นเกิดขึ้น มันก็คงไม่ใช่

Thairath talk : ฟ้องกี่ล้านครับ 

50 ล้านบาท ฟ้อง 7 คนนะครับ แต่พี่เข้าใจในมุมของคนที่ฟ้องและพี่ไม่ได้โกรธเขาด้วย พี่เข้าใจเขาเพราะถ้าเป็นพี่ พี่อาจจะรู้สึกเหมือนกันว่ามันกระทบกับพี่ พี่ก็อาจจะต้องไปพึ่งศาลเหมือนกันและสุดท้ายศาลก็จะตัดสินเอง

Thairath talk : ถูกผิดก็ว่าไปตามศาล

ถูกต้อง คือพี่บอกเลยว่าคนเราถ้าเลือกจะก้าวไปทำอะไรแล้ว เราต้องยอมรับมันด้วยว่ามันจะต้องมีค่าตอบแทนหรือราคาที่ต้องจ่ายเหมือนกัน
เหมือนกับเราเป็นนักแสดง เราเป็นผู้ประกาศข่าว เราเป็นพิธีกร เราเล่น Social เราเล่น Instagram เราลงรูปเราลงอะไรก็ตามแต่ พอเราลงไปแล้ว คนอื่นๆ มีมุมมองที่เห็นต่างกับเรา และด่าเรากลับมาว่าทำไมเป็นคนแบบนั้น เราก็ต้องยอมรับ เพราะว่าเรายอมที่จะเล่น Social แล้ว
เราก้าวไปอยู่ตรงนั้น เท่ากับว่าเราเป็นคนเปิดโอกาสให้เขาเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์และด่าเราเอง แต่ถ้าคุณไม่ต้องการให้เขาด่า คุณก็ต้องตั้ง Private ไปเลย เขาจะได้ไม่ต้องเข้ามาด่าคุณได้ไง